ประกันมะเร็ง ควรซื้อมั้ยในปี 2025? เจาะลึกข้อดี-ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ในปัจจุบันมะเร็งยังคงเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยมากเป็นอันดับต้น ๆ อย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มยังคงเพิ่มขึ้นทุกปี อีกทั้งผู้ป่วยก็มีแนวโน้มที่มีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน กล่าวได้ว่าไม่ว่าจะเพศไหน มีอายุเท่าไหร่ หรือแม้แต่คนที่ดูสุขภาพแข็งแรงก็ยังมีโอกาสเป็นได้ เพราะในระยะแรกมักไม่แสดงอาการใด ด้วยเหตุนี้ประกันโรคร้ายแรง หรือประกันมะเร็ง จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนเริ่มมองหาเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินในอนาคต ในวันนี้เราจะพาไปดูกันว่า ประกันมะเร็ง ควรซื้อมั้ยในปี 2025 พร้อมเจาะลึกข้อดี-ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ทำไมถึงควรซื้อประกันมะเร็ง
- ค่ารักษา
การรักษาโรคมะเร็ง ใช้เวลานาน และต้องใช้หลายวิธีร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะการผ่าตัด เคมีบำบัด หรือการรักษาด้วย targeted therapy ซึ่งแต่ละมีค่าใช้จ่ายที่สูง ใช้เงินหลักแสนถึงหลักล้านบาท โดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชน การมีประกันมะเร็งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และช่วยให้เข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุดได้ทันที
- แนวโน้มการป่วยเพิ่มขึ้นทุกปี
จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข โรคมะเร็งยังคงครองอันดับหนึ่งของสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทย และจำนวนผู้ป่วยหน้าใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งชี้ให้เห็นว่าทุกคนไม่ว่าจะเพศใด อายุเท่าไหร่ ก็มีโอกาสเกิดโรคได้
- ได้เงินก้อน
โดยปกติแล้วประกันมะเร็งบางประเภทจะเป็นแบบที่มอบ “เงินก้อน” ให้ กรณีได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งจะช่วยให้มีทุนสำรองไว้ใช้รักษา หรือใช้บริหารชีวิตโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้ที่ขาดหายไปในช่วงรักษาตัว
ประกันมะเร็งมีกี่แบบ?
- เจอ-จ่าย-จบ
หากตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง บริษัทประกันจะจ่ายเงินก้อนตามวงเงินที่กำหนด แล้วกรมธรรม์จะสิ้นสุดลง ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการทุนสำรองฉุกเฉินโดยไม่ต้องมีขั้นตอนซับซ้อน
- เจอ-จ่าย-ไม่จบ
เป็นดรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองแบบต่อเนื่อง ทั้งการตรวจซ้ำ ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายได้ หรือแม้กระทั่งมะเร็งระยะลุกลาม ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มองในระยะยาว
ข้อดีของการซื้อประกันมะเร็งในปี 2025
- ไม่ต้องตรวจสุขภาพ: บริษัทประกันหลายเจ้าเปิดรับสมัครผ่านออนไลน์ เพียงตอบคำถามสุขภาพเบื้องต้น
- เบี้ยเริ่มต้นหลักร้อยต่อปี: แผนพื้นฐานบางแผนเริ่มต้นเพียงเดือนละไม่กี่สิบบาท
- ความคุ้มครองครอบคลุม: ปัจจุบันมีแผนที่ครอบคลุมทั้งมะเร็งระยะเริ่มต้น ระยะลุกลาม รวมถึงการกลับมาเป็นซ้ำ
- ลดหย่อนภาษีได้: เบี้ยประกันบางประเภทสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
ก่อนซื้อประกันมะเร็ง ควรเช็กอะไรบ้าง?
- ตรวจสอบโรคที่ครอบคลุม: บางแผนอาจไม่ครอบคลุมมะเร็งระยะเริ่มต้น หรือมะเร็งบางชนิด
- ระยะเวลาก่อนความคุ้มครอง: โดยปกติจะมีช่วงรอ 90-120 วันหลังจากทำประกัน ก่อนจะเริ่มความคุ้มครอง
- เงื่อนไขต่าง ๆ : แต่ละบริษัทมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน
- เปรียบเทียบแผนหลายบริษัท: อย่าตัดสินใจจากเบี้ยถูกที่สุด ควรดูความคุ้มครองควบคู่กันไป
สรุปควรซื้อประกันมะเร็งไหมในปี 2025?
คำตอบคือ “ควรอย่างยิ่ง” โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีประกันสุขภาพอื่นที่ครอบคลุมโรคร้ายแรง การซื้อประกันมะเร็งตั้งแต่ตอนนี้ถือเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนเป็นแผนสำรองที่ช่วยให้อุ่นใจ และไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุไม่คาดคิด หากกำลังมองหาแผนประกันมะเร็งที่เหมาะกับตัวเอง ลองเปรียบเทียบหลายเจ้า และเลือกแผนที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด เพื่อสุขภาพทางการเงินที่มั่นคงในอนาคต