การเป็น Single mom หรือที่เราเรียกว่าแม่เลี้ยงเดี่ยวในปัจจุบันนั้น ไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่หรือดูแปลกๆอีกต่อไปแล้วเมื่อเทียบกับเมื่อหลายสิบปีก่อน เนื่องมาจากคุณภาพชีวิตและความสามารถของผู้หญิงในปัจจุบันนั้นพัฒนามากขึ้นจนเทียบเท่ากับผู้ชายแล้ว
ดังนั้น การที่เราพบเห็น Single mom นั้นจึงมีมากขึ้นและได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้หญิงที่เก่งจากคนทั่วไปนั่นเอง ที่ต้องบอกว่าคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้นเก่ง นั่นเพราะสิ่งต่างๆ ที่พ่อและแม่ทำร่วมกันในการเลี้ยงลูกนั้นจะกลายเป็นหน้าที่ของคนๆ เดียว นั่นก็คือ แม่เท่านั้น ซึ่งเป็นภาระที่ค่อนข้างหนักหนาพอสมควร คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงต้องมีทั้งแรงกายและแรงใจที่ดีเลยทีเดียว และในวันนี้เรามีคำแนะนำง่ายๆที่เกี่ยวข้องกับการเงินสำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาฝากกัน เพื่อช่วยให้เหล่าคุณแม่มีแนวทางในการจัดการเงินได้ดีมากขึ้น ซึ่งก็มีทั้ง 3 ข้อดังนี้
1. เปลี่ยนนิสัยการใช้เงิน
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องรับผิดชอบการใช้จ่ายของคนเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือระบบการใช้เงินที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งในกรณีที่เราเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแบบนี้ เราจะมีรายจ่ายมากขึ้นในขณะที่รายได้เราอาจจะมีเท่าเดิม ถ้าหากเราไม่มีรายได้อื่นมาเสริมหรือมีการได้รับเงินเพื่อช่วยในการเลี้ยงดูลูกจากแหล่งอื่นๆ ซึ่งจะทำให้รายจ่ายของเราจึงเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในขณะที่รายได้เราเท่าเดิมนั้น ไม่มีทางแก้ไขใดที่ทำได้นอกจากการหารายได้เพิ่มควบคู่ไปกับการลดค่าใช้จ่ายของเราลง
ข้อแนะนำแรกเลยคือให้คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว นั้นลองทำบัญชีรายรับรายจ่ายดู แล้วลองหาว่ารายจ่ายที่มีนั้นเราสามารถลดหรือเลิกใช้จ่ายลงได้บ้าง ซึ่งควรจะทำไปทุกวันๆ เพื่อให้เราสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการเงินได้อย่างทันท่วงทีและสามารถดำรงชีวิตจนครบเดือนได้ ไม่ใช่ว่ารอให้ครบเดือนก่อนที่จะแก้ปัญหาการเงิน ซึ่งถ้าทำแบบนั้น เราอาจจะไม่มีเงินตั้งแต่กลางเดือนก็ได้
อย่าลืมนะคะว่าเรายังมีลูกน้อยที่ต้องเลี้ยงดูอีกคน ไม่ได้ใช้เงินเพียงคนเดียว จึงต้องใส่ใจกับรายจ่ายมากเป็นพิเศษ ทางที่ดีควรลดรายจ่ายของตัวเองให้น้อยลงที่สุด เพราะรายจ่ายของลูกอย่างไรซะก็ต้องจ่ายอยู่ดี ไม่สามารถลดลงได้ ยิ่งคุณแม่ที่ให้ลูกกินนมผงด้วยแล้ว ค่าใช้จ่ายในส่วนของลูกก็จะสูงมาก ดังนั้นต้องบริการเงินให้ดีแล้วล่ะ
2. วางแผนการเลี้ยงลูกให้ดี
เพราะการเลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาจนกว่าลูกจะสามารถดำรงชีวิตด้วยตนเองได้นั้น เราซึ่งเป็นแม่นั้นจะต้องดูแลลูกไปอย่างๆน้อยถึง 20 ปีเลยทีเดียว ซึ่งแสดงว่าเราจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตของคน 2 คนไปเป็นช่วงเวลาอย่างน้อยๆก็ 20 ปีเลยทีเดียว นอกจากจะมีค่ากินอยู่ทั่วๆไปแล้วยังมีการศึกษาในแต่ละชั้นปีด้วย ดังนั้นวางแผนการเลี้ยงลูกให้ดีตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัยของลูก การเรียนการศึกษาของลูก และลักษณะการใช้ชีวิตของลูก และที่สำคัญอย่าลืมฝึกให้เขารู้จักใช้จ่ายเงินตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อที่เขาจะได้เติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุขและไม่มีปัญหาทางการเงินได้นั่นเอง หรือถ้าให้ดีควรหัดให้ลูกรู้จักเก็บออมด้วยนะคะ
อย่างแรกเลยนิสัยที่เราอาจจะฝึกให้เด็กรู้คุณค่าของเงินเพื่อลดภาระทางการเงินของเราลงได้เมื่อเด็กเข้าโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนหรือการศึกษาก็ต้องได้รับการวางแผนเช่นกัน เพราะสังคมในโรงเรียนของเด็กก็มีผลต่อลักษณะนิสัยและการใช้ชีวิตเช่นกัน ดังนั้นวางแผนให้ดีว่าอยากให้ลูกเป็นแบบไหน นอกจากนี้การวางแผนในเรื่องพวกนี้จะช่วยกำหนดค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนคร่าวๆได้ด้วย การวางแผนการเลี้ยงลูกไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้เราเก็บเงินได้นั่นเอง
3. สร้างความมั่นคงให้อนาคตของลูก
แม้ว่าเราอยากจะดูแลลูกไปจนโตมากแค่ไหน แต่ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ดังนั้นอย่าลืมวางแผนอนาคตให้ลูก ทั้งด้านการศึกษา การใช้ชีวิตและการเงิน ซึ่งด้านการศึกษาและการใช้ชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่เราสามารถเลือกให้เด็กได้จากเลือกสถาบันการศึกษาหรือสังคมเพื่อนๆของลูก แต่ด้านการเงินนั้นนอกจากเราต้องสอนนิสัยการใช้เงินที่ดีให้ลูกแล้วเราอาจจะต้องมีการออมเงินไว้เพื่อลูกด้วย เช่น การสร้างบัญชีเงินฝากเป็นชื่อลูก หรือการทำประกันชีวิตทั้งของเราและลูกก็ได้ เนื่องจากการทำประกันจะมีการระบุผู้รับผลประโยชน์ไว้ด้วยนั่นเอง
อีกทั้งการฝึกการออมเงินให้กับลูกก็สำคัญเช่นกัน เพราะจะทำให้ลูกน้อยรู้จักที่จะเก็บออมเงินมากขึ้น เมื่อโตขึ้นนิสัยนี้ก็จะติดตัวไปด้วยและทำให้เขารู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงิน ซึ่งนี่ล่ะคือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจะมอบให้กับลูกน้อยของคุณได้ นอกจากความอบอุ่นที่คุณมอบให้เขา
ไม่มีใครหรอกที่อยากจะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่เมื่อเป็นแล้วก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะปัญหาการเลี้ยงลูกน้อยเพียงลำพัง แค่คุณแม่รู้จักบริหารค่าใช้จ่ายในแต่ละเดืนให้เป็น พยายามให้มีรายรับมากกว่ารายจ่ายและจะต้องพยายามให้มีเงินเหลือเก็บด้วย อย่าลืมว่าเมื่อลูกน้อยเข้าสู่วัยเรียนจะต้องมีค่าใช้จ่ายมากแค่ไหน การเตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ