การออมเงิน ก็คือ การเก็บรักษาเงินที่เราหามาได้หรือที่เหลือจากที่เราใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยจะสะสมไปเรื่อยๆวันละเล็กละน้อย ไว้เพื่อเป็นหลักประกันอนาคตของเราในภายภาคหน้า เพราะถ้าเราทำงานหาเงินมาได้แล้วแต่ไม่ยอมเก็บออมไว้ เอาไปจับจ่ายใช้สอยกันเสียหมดเราก็จะไม่มีเงินก้อนไว้ใช้ในยามฉุกเฉินหรือใช้ในการลงทุนทำธุรกิจต่างๆได้
การออมนั้นไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่ายๆเลยนะครับ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่ามนุษย์เรานั้นมีกิเลสอยู่รอบตัว อยากได้นู่นนั่นนี่ไปเสียหมด พอมารู้ตัวอีกทีก็หมดเงินไปกับสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ไปหลายอย่างเสียแล้ว วันนี้เราจะมาดูกันครับว่า อะไรที่เป็นศัตรูตัวร้ายของ เงินออม ที่ทำให้เราหมดเงินไปกับมันได้ง่ายๆ
1. สินค้าฟุ่มเฟือย
ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รองเท้า กระเป๋า นาฬิกา น้ำหอม แว่นตา เครื่องสำอาง เครื่องประดับ ของที่ระลึกต่างๆ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่เป็นสาวทันสมัย มีรสนิยมติดหรู ชอบตามแฟชั่นอยู่เสมอ ยิ่งถ้าเป็นสินค้าแบรนด์เนม ราคาแพง ยิ่งทำให้เงินในกระเป๋าคุณนั้นหายวับเพียงไม่กี่พริบตา บางคนไม่มีเงินสดก็รูดบัตรเครดิต รูดไปรูดมาวงเงินก็เต็มเสียแล้ว เป็นหนี้ให้คอยตามใช้คืนอีกยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ที่จริงเราเองก็สามารถประหยัดเงินในส่วนนี้ได้นะครับ เพียงแค่มองหาสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว เช่นเสื้อผ้าที่เก็บไว้ไม่ได้ใส่นานแล้ว เอามันออกมามิกซ์ &แมทซ์กับชุดอื่นๆดูสิครับ แค่นี้ก็ได้ชุดใหม่แล้วล่ะ รองเท้าก็เหมือนกันใส่นานๆก็หมั่นซักทำความสะอาดขัดเงาให้มันบ้าง อะไรที่พอจะซ่อมแซมได้ก็ทำไปเถอะนะครับ
หรือถ้าใครที่อยากให้ของใช้เหล่านี้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เวลาซื้อเราก็ต้องเลือกดีดีก่อนครับว่า มีคุณภาพหรือไม่ เพราะบางทีของถูก ลดราคา อาจจะมีบางอย่างที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่ก็ใช่ว่าของแพงจะดีมีคุณภาพไปซะทุกอย่างนะครับ เอาเป็นว่าเลือกซื้อเท่าที่จำเป็นจะใช้งานและสังเกตให้ดีดีก่อนครับ
2. อาหารการกิน
หลายท่านคงจะออกตัวว่า ไม่ใช่หรอกครับ วันหนึ่งๆก็หมดไปแค่ไม่กี่ร้อยกี่พันเอง แต่ถ้าหากใครที่ทำบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นประจำจะรู้เลยว่าค่ากินนั้นหมดเยอะเป็นอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ ยิ่งถ้าในวัยทำงานด้วยแล้ว เงินเดือนออก กลางวันทำงาน ตกเย็นชวนกินไปกินเลี้ยงสังสรรค์แก้เครียด ทั้งอาหารแพงๆหรูๆ กินดื่มกันเต็มที่ โดยเฉพาะคุณผู้ชายที่ยังโสด อาจจะมีเดทกับสาวสวย ทำอย่างไรล่ะให้เธอประทับใจ ก็ต้องพาไปเลี้ยงมื้อเย็น เลี้ยงหนังรอบดึก หลากหลายสารพัดจนจะจ่ายแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว ทางที่ดีเลยครับ ถ้าเราคิดได้ว่าบางเรื่องถ้ามันไม่จำเป็นก็ตัดออกไปซะ ลดการสังสรรค์ลงบ้าง อาจจะไปแค่ในยามที่จำเป็น แล้ว ลองหันมาทำกับข้าวกินเองดูบ้าง นอกจากจะได้พัฒนาฝีมือในการทำอาหารแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก แถมยังได้โอกาสรักษาหุ่นดูแลรูปร่างทำให้มีสุขภาพที่ดีได้อีกด้วยครับ
3. สินค้าลดราคา
นอกจากสินค้าฟุ่มเฟือยแล้ว สินค้าลดราคาก็เป็นอีกตัวการหนึ่งที่คอยยั่วยุความอยากได้ของเรา โดยใช้ราคาที่ถูกแสนถูก หรือจัดโปรโมชั่น ซื้อ 2 แถม 1 ซื้อวันนี้ได้รับของสมนาคุณฟรี มากมายหลายรูปแบบ เพื่อใช้เป็นตัวล่อให้เราเข้าไปติดกับ ทั้งๆที่เราเองอาจจะไม่มีความจำเป็นในการซื้อสินค้าเหล่านั้นเลย แต่นักขายเก่งๆก็ย่อมมีทักษะการโน้มน้าวจิตใจคนให้เข้ามาซื้อจนได้ บางคนถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอก็จะควักเงินในกระเป๋าจ่ายไปอย่างง่ายดาย พอกลับมาถึงบ้านอีกทีก็ได้แต่ถามตัวเองว่า ซื้อมาทำไม สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนครับ เพราะคนเรานั้นขาดการยับยั้งชั่งใจและควบคุมสติ วิธีแก้ก็คือ ถ้ามีใครมาเสนอขายสินค้าแล้วมีโปรโมชั่นต่างๆมาล่อ เราก็ควรรีบตัดสินใจตั้งแต่ตอนนั้นเลย ปฏิเสธไปโดยเร็วเพราะถ้าปล่อยไว้นานๆเราอาจจะหลงคำพูดหว่านล้อมของคนขายได้ครับ
4. รถยนต์ /โทรศัพท์มือถือ/คอนโด/บ้าน
ตอนยังเป็นนักเรียนนักศึกษากันอยู่ หลายคนก็คงเคยฝันว่าถ้าเรียนจบได้ทำงานมีเงินเดือนแล้วจะถอยรถสักคัน เปลี่ยนมือถือใหม่สักเครื่อง มีบ้านหรือคอนโดสักหลัง แต่อย่าลืมนะครับว่า การซื้อรถหรือซื้อบ้านแบบดาวน์ก่อนค่อยผ่อนทีหลัง ผ่อนคอนโดทีละเดือนทีละเดือน มันคือตัวผลาญเงินออมเรามาก เพราะตราบใดที่เรายังไม่มีเงินเก็บเงินที่เหลือกินเหลือใช้สักก้อนแล้ว มันจะทำให้เราแบกรับภาระที่หนักและลำบากมากกว่าเดิม ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับบ้านและรถ ไหนจะค่าตกแต่งเพิ่มเติม ไหนจะค่าบำรุงรักษาอีก เรียกได้ว่าเงินใช้จ่ายก็ยังจะหมุนไม่ทัน แถมยังต้องเอาเงินเก็บเงินออมออกมาใช้อีก ทางที่ดีถ้าเราควรมีเงินก้อนใหญ่ๆไว้เป็นหลักประกันความมั่นคงก่อนดีกว่าครับ เรื่องที่อยู่อาศัยก็เช่าห้องหรือบ้านที่พออยู่ได้ราคาไม่แพงไปก่อนครับ การเดินทางก็ใช้บริการสาธารณะ รถเมลล์ รถไฟฟ้าไปก่อน จะช่วยประหยัด เงินออมก็ไม่รั่วไหลแล้วล่ะครับ
และนี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างคร่าวๆที่เอามาเล่าสู่กันฟังนะครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะ ว่าจะยอมลำบากเก็บหอมรอมริบ อดเปรี้ยวกินหวานไปก่อนหรือใช้จ่ายไปตามใจอยาก อย่าลืมนะครับว่าถ้าเราไม่วางแผนชีวิตให้ดี อนาคตก็อาจจะเหนื่อยกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ครับ