คุณ ๆ น่าจะเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับการทวงหนี้นอกระบบกันใช่มั๊ยค่ะ เพราะความโหดร้ายรุนแรงของการทวงหนี้นอกระบบและการคิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินจริงชนิดที่ไม่มีทางให้ผู้กู้ได้ปลดหนี้กันบ้างเลย ทำให้รัฐบาลคิดหาทางออกมาช่วยเหลือประชาชนที่ติดภาระหนี้เหล่านี้ให้พวกเขาสามารถกลับมาเลี้ยงดูตัวเองได้ตามปกติ จึงได้เกิดเป็นโครงการแรกเรียกว่า ไมโครไฟแนนซ์ (Micro Finance) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารของรัฐ อย่างเช่น ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แต่ว่าโครงการนี้กลับไม่ได้รับการตอบรับจากประชาชนดีเท่าที่ควรค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเงื่อนไขการขอกู้ยืมเงินนั้น ผู้กู้จำเป็นต้องใช้บุคคลค้ำประกันหรือไม่ก็ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน, ต้องมีรายได้สม่ำเสมอแน่นอน หรือ มีข้อมูลทางด้านการเงินครบ หรือมี Statement พร้อม ทำให้ผู้ที่สนใจจะกู้ยืมเงินหลาย ๆ รายไม่สามารถผ่านเกณฑ์ที่กำหนดและไม่ได้กู้เงินไปใช้ตามที่รัฐต้องการ แล้วปัญหากู้หนี้นอกระบบก็ยังคงวนไปวนมาเกิดซ้ำรอยกันไปอยู่อย่างนั้นค่ะ
รัฐจึงเบนเข็มมาที่ นาโนไฟแนนซ์ หรือ (Nano Finance) ซึ่งก็เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาล, กระทรวงการคลัง และ บริษัทเอกชนจดทะเบียนที่มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทและบริษัทนั้น ๆ ก็ต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยเรียบร้อยก่อนด้วยค่ะ โดยเงินกู้นาโนไฟแนนซ์ นั้นคือการปล่อยกู้ให้ประชาชนทั่วไปในยอดจำนวนวงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย และคิดอัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมไม่มากเกินกว่า 36% ต่อปี หรือตกเดือนละประมาณ 3% ค่ะ ซึ่งก็จัดว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลที่คิดดอกเบี้ยอยู่ที่ 28% ค่ะ แต่ก็นับว่าถูกกว่าอัตราดอกเบี้ยของหนี้นอกระบบที่คิดกันอยู่ที่ 60 – 120% ค่ะ
จากแนวโน้มและความเป็นไปได้ของเงินกู้ นาโนไฟแนนซ์ นั้น คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชนมากกว่าแบบไมโครไฟแนนซ์ เพราะในการกู้ นาโนไฟแนนซ์ เงื่อนไขและคุณสมบัติของผู้กู้นั้นผ่อนปรนลงไปเยอะมาก ๆ ค่ะ นั่นก็คือ ผู้กู้จะมีหรือไม่มีหลักทรัพย์, ผู้ค้ำประกันก็ได้, รายได้ไม่ชัดเจนก็ไม่เป็นไร, ติดเครดิตบูโรก็ไม่เป็นไรสามารถมาขอกู้ได้เช่นกันค่ะ เพราะเจตนาของโครงการเงินกู้นาโนไฟแนนซ์นั้น คือให้ผู้กู้มีเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนสร้างอาชีพสร้างรายได้ ไม่ใช่ให้ผู้กู้นำเงินก้อนนี้ไปใช้จ่ายอย่างอื่นค่ะ ดังนั้นผู้ที่ต้องการกู้เงินแต่ไม่มีสลิปเงินเดือน หรือ ไม่เคยมีการทำธุรกรรมกับทางธนาคารมาก่อน ก็สามารถเข้ากู้ในโครงการนาโนไฟแนนซ์ได้ค่ะ ส่วนสาเหตุที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยของนาโนไฟแนนซ์สูงก็คงเป็นเพราะเงื่อนไขและข้อผ่อนปรนเหล่านี้ค่ะ
เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ที่ผ่านมานี้ มีบริษัทเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้บริการเงินกู้นาโนไฟแนนซ์แล้ว 5 รายด้วยกัน ก็คือ บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด, บริษัท ไทยเอซ แคปปิตอล จำกัด, บริษัท แมคคาเล กรุ๊พ จำกัด (มหาชน), บริษัท สหไพบูลย์ (2558) จำกัด, บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน) ค่ะ นอกจากผู้กู้จะไม่ต้องแสดงหลักฐานเพื่อขอกู้มากมายเหมือนกับการขอสินเชื่อด้านอื่น ๆ แล้ว สิ่งที่ผู้กู้ยังได้รับเพิ่มเติมก็คือ ตารางแสดงภาระหนี้รายงวด โดยแยกเป็นเงินต้น, ดอกเบี้ย และ เงินต้นคงค้าง เมื่อทำสัญญาค่ะ, หลักฐานการผ่อนชำระหนี้ทุกครั้งที่ชำระเงินค่ะ, ใบแจ้งหนี้เดือนละครั้ง ก่อนที่จะถึงวันครบกำหนดชำระเงิน, หนังสือแจ้งเตือนการผิดนัดชำระหนี้ล่วงหน้า 20 วันก่อนจะถึงกำหนดถูกบังคับชำระหนี้ตามกฎหมาย, ได้รับการติดตามทวงถามหนี้ตามความเหมาะสมของช่วงเวลาคือ จะไม่โทรติดตามหนี้ระหว่างเวลาก่อน 8 โมงเช้า หรือ ช่วงหลัง 2 ทุ่มไปแล้วค่ะ และหากผู้กู้ได้รับปัญหาใด ๆ จากการทวงหนี้ก็สามารถร้องเรียนเข้าไปได้ และจะได้รับการติดต่อหรือชี้แจงกลับภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วันด้วยค่ะ เอาใจคุณลูกหนี้สุด ๆ เลย คิดอย่างนั้นหรือเปล่าค่ะ
สำหรับคุณ ๆ ที่คิดจะกู้ นาโนไฟแนนซ์ สิ่งที่ท่านต้องรู้และนำไปสอนใจตัวเองต่อก็คือ วิธีนำเงินก้อนจำนวนนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ถูกต้องตามเจตนาของเจ้าของโครงการ ดังนั้น ก่อนจะใช้เงินคุณ ๆ ก็ต้องเรียนรู้ความเป็นไปได้ของอาชีพที่จะลงทุนทำให้ดี ๆ ค่ะ, คิดทบทวนด้วยว่า คุณจำเป็นต้องกู้เงินจำนวนนี้แล้วหรือไม่ ถ้าคิดว่าจำเป็น และ จะนำไปใช้ทำทุนอาชีพที่ถนัดได้ ก็ควรวางแผนการใช้เงินให้รอบคอบมากขึ้น และคุมเงินให้ใช้จ่ายเพื่อประกอบอาชีพเท่านั้น คุณ ๆ อาจจะกันเงินนี้ออกมาอีกบัญชีหนึ่งต่างหาก ทำรายละเอียดส่วนที่เป็นรายได้แต่ละวัน, รายจ่ายค่าอุปกรณ์ที่เป็นค่าใช้จ่ายแบบจ่ายครั้งเดียว และ รายจ่ายที่เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเครื่องปรุง หรือ ส่วนผสมอาหารอีกรายการหนึ่ง จากนั้นก็แยกรายได้ในแต่ละวันออกมาเป็นเงินออมสำหรับใช้ผ่อนหนี้ก้อนนี้ก่อน ส่วนที่เหลือค่อยนำไปซื้อของทำสำหรับวันถัด ๆ ไปค่ะ
จุดที่สำคัญทีสุดคือ คุณต้องรักษาวินัยการเงินเสียใหม่ จ่ายหนี้ผ่อนเงินกู้นาโนไฟแนนซ์ให้ครบตามจำนวนและตรงเวลาด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้น พระเอกใจดีอย่างนาโนไฟแนนซ์ อาจจะกลายเป็นเสือร้ายก็ได้นะคะ