มีคนจำนวนไม่น้อยที่เบื่อกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ รู้สึกเบื่อกับสิ่งที่ตัวเองทำทุกวันจนเป็นกิจวัตร บางครั้งเราอาจจะรู้สึกเบื่อตัวเองที่มองไม่เห็นอนาคตที่เปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง อาจจะรออะไรบางอย่างมาเปลี่ยนแปลงอนาคต เช่น ถูกหวย ซึ่งพวกเราทุกคนนั้นย่อมอยากจะมีการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอนาคตที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน
มีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดแบบนี้แล้วพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ พยายามที่จะหาเทคนิคที่สามารถทำให้ชีวิตการเป็นอยู่ของตัวเองนั้นดีขึ้น พยายามหาเทคนิคต่างๆเพื่อที่จะทำให้เรารู้สึกว่าอนาคตของตัวเองนั้นจะสดใสมากขึ้น ซึ่งแต่ละคนนั้นก็ย่อมจะมีวิธีการต่างๆของตัวเองที่แตกต่างกันไป แต่ที่สำคัญเทคนิคที่ทำแล้วจะทำให้เรารู้สึกว่าอนาคตของตัวเองนั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เทคนิคต่างๆเหล่านั้นย่อมมีอะไรหลายๆอย่างที่ใกล้เคียงหรือคล้ายคลึง เราจึงสามารถสรุปให้เป็นข้อต่างๆที่ง่ายขึ้นต่อการศึกษา เราสามารถศึกษาเทคนิคต่างๆเหล่านั้นได้ดังนี้คือ
เทคนิคที่หนึ่ง วิสัยทัศน์เปลี่ยนอนาคตเปลี่ยน
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ย่อมรู้ดีว่า เมื่อเราทุกคนนั้นมีความรู้ที่มากขึ้น มีความคิดที่มากขึ้น สิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับเรานั้นก็จะค่อยๆเปลี่ยนไป เมื่อเรารู้ว่าการที่เรากินข้าวตอนกลางคืนแล้วจะอ้วนนั้น เราก็จะไม่กินมันอีกต่อไปหรืออาจจะพยายามกินให้น้อยลงไปเรื่อยจนเลิกกินไปเอง เห็นได้ว่านิสัยของเรานั้นค่อยๆเปลี่ยนไป วิสัยทัศน์ก็เช่นเดียวกันเมื่อเรานั้นเลือกที่จะเปลี่ยนวิสัยทัศน์เดิมของตัวเองออกเพื่อที่จะรับรู้วิสัยทัศน์ใหม่มานั้น สิ่งต่างๆรวมไปถึงนิสัยและการกระทำต่างๆก็จะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน นั่นรวมไปถึงอนาคตอันไกลอีกด้วย
เทคนิคที่สอง ศึกษาความสำเร็จจากคนที่ประสบความสำเร็จ
การที่เราจะประสบความสำเร็จอะไรสักอย่างนั้น ล้วนผ่านพ้นอุปสรรคมามากมายนับไม่ถ้วน ผ่านการแก้ปัญหาด้วยความสามารถของตัวเองหลายๆอย่าง แต่ในปัจจุบันนี้มีทางลัดสู่ความสำเร็จและทางลัดความสำเร็จที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จ เราไม่สามารถเรียนรู้ได้ทุกอย่างเหมือนคนที่ประสบความสำเร็จต่างๆได้ เราไม่สามารถเลียนแบบความสำเร็จจากของคนอื่นได้ แต่การเรียนรู้ความสำเร็จของคนอื่นนั้น ทำให้เราได้แนวคิดต่างๆจากพวกเขาเหล่านั้น ได้รู้วิสัยทัศน์ของบุคคลที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้น ได้รับรู้ถึงวิธีการแก้ปัญหาของคนที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้น และเรายังสามารถนำสิ่งต่างๆที่เราเรียนรู้มานั้น นำมาปรับใช้กับตัวเองเพื่อที่จะไม่ต้องลองผิดลองถูก
เทคนิคที่สาม ทำสิ่งหนึ่งเพื่อให้ได้หลายๆอย่าง
คนจำนวนไม่น้อยที่ชอบการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ได้ผลลัพธ์มากกว่าสิ่งที่เราทำ เช่นเราตัดต้นไม้สักต้นเพื่อหวังเพียงไม้เท่านั้น เราจะเสียประโยชน์จากส่วนอื่นๆจากต้นไม้ไป แต่ถ้าเราตัดไม้โดยพิจารณาต้นไม้ทั้งต้นแล้วนั้น ไม่เพียงแต่ที่เราจะได้ไม้เพียงอย่างเดียว แต่เรายังได้ใบของต้นไม้ต้นนั้น อาจจะได้ผลจากต้นไม้ต้นนั้น ซึ่งได้อะไรหลายๆจากการตัดต้นไม้สักต้นหนึ่ง และไม้ที่เราได้ไปนั้นยังสามารถทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง ทำงานให้เราได้อีกตั้งมากมาย การงานก็เช่นเดียวกันถ้าเราทำงานเพื่อที่จะต้องการเงินเพียงอย่างเดียวนั้น นั่นหมายถึงเราอาจจะไม่มีความสนุก เราจะไม่รู้สึกมีความสุขเกี่ยวกับงาน รวมไปถึงเราอาจจะเบื่องานได้ง่ายแต่ที่เราต้องทำนั้นเพราะว่าเราทำงานเพื่อเงิน แต่ถ้าเราทำงานเพื่อหลายสิ่งหลายอย่างนอกจากเงินนั้น เราก็จะได้ตามสิ่งที่หวังไว้แน่นอน ดังนั้นงานที่เราทำอยู่นั้นเราควรคาดหวังสิ่งต่างๆไว้ให้มากกว่าเงิน เราสามารถคาดหวังความรักที่จะได้จากงาน เราสามารถคาดหวังความสนุกที่จะได้รับจากงานที่เราทำอยู่ได้ สิ่งต่างๆเหล่านี้นั้นจะทำให้ชีวิตการทำงานของเรารู้สึกสนุกและไม่น่าเบื่อเหมือนก่อนแน่นอน
เทคนิคที่สี่ หาวิธีใช้เงินสร้างเงิน
ธุรกิจต่างๆรอบตัวนั้นล้วนมากจากการลงทุนทั้งสิ้น พูดได้อีกนัยหนึ่งคือ ธุรกิจทุกอย่างนั้นล้วนใช้เงินในการสร้างเพื่อหาเงินทั้งนั้น บริษัททุกบริษัทเลยก็ว่าได้ที่ใช้เงินสร้างอย่างมหาศาลและได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่าเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป มีบริษัทจำนวนไม่น้อยที่ลงทุนเยอะแต่ก็ได้ผลตอบแทนไม่เท่าที่ควร ซึ่งการที่เราจะใช้เงินสร้างเงินนั้นไม่จำเป็นต้องสร้างบริษัทแต่เราอาจจะหาซื้อแฟรนไซส์สักอย่างหนึ่งมาทำเพื่อที่จะเติบโตขึ้น หรือเราอาจจะใช้ความสามารถของเราในการสร้างอะไรสักอย่างแล้วขายลิขสิทธิ์ของสิ่งนั้น หรือขายแฟรนไซส์ เพื่อให้คนทั่วไปสามารถซื้อเพื่อไปลงทุนต่อได้
เทคนิคที่ห้า เลือกรับเงินตามคุณภาพของงาน
เมื่อใดก็ตามที่เราคิดว่าเราจะรับเงินตามปริมาณคุณภาพของงานแล้วนั้น อย่าแปลกใจที่งานชิ้นต่อๆไปจะสร้างขึ้นหรือทำขึ้นอย่างมีคุณภาพมากกว่าชิ้นก่อนๆเพราะทัศนคติวิสัยทัศน์เราเปลี่ยน การที่เรารับเงินตามปริมาณคุณภาพของงานนั้น จะทำให้เราพัฒนาตัวเอง พัฒนาฝีมือขึ้นเพื่อที่จะได้รับเงินที่มากขึ้น นั้นอาจหมายถึงการที่เราจะสามารถก้าวหน้าต่ออาชีพในอนาคตได้ไกลมากยิ่งขึ้นไปอีกย่อมส่งผลต่อตัวเองในทางที่ดีต่ออนาคตอย่างแน่นอน แต่ในทางกลับกันนั้นถ้าเรานั้นยังเลือกที่จะรับเงินตามเวลาที่ทำงานนั้น เราย่อมรู้ได้เลยว่างานเหล่านั้นย่อมไม่มีคุณภาพหรือคุณภาพน้อยแน่นอน