เคยสังเกตเส้นทางระหว่างทางเดินกลับบ้านของคุณกันบ้างหรือเปล่า เคยเห็นคนแก่ หรือ คนวัยกลางคน ที่มีร่างกายสมประกอบดี แต่สวมใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ เนื้อตัวมอมแมม ผมเผ้ายุ่งเหยิง นอนคดตัวอยู่ข้างกำแพงบนทางเท้า บางครั้งบางคราวก็กลับพาให้สงสัยว่าเมื่อตอนที่แข็งแรงดีอยู่ พวกเขามัวทำอะไรกัน ทำไมเมื่ออายุมากขึ้นถึงไม่มีเงินเหลือใช้ ไม่มีบ้านให้อยู่หลับพักผ่อน ทำไมถึงต้องมานอนซุกตัวบนพื้นถนน ใช้กำแพงป้ายรถเมล์เป็นผนังห้อง และ มีเพียงยุงกับแมงสาบเป็นสัตว์เลี้ยงแก้เหงา
ชีวิตบั้นปลายแบบนี้คงไม่มีใครอยากเจอะเจอหรอกค่ะ และเราต่างก็ยอมรับว่า เงิน คือ ยอดยาหยีที่จะพาให้ชีวิตเรามั่นคงยิ่งขึ้น และจะเป็นอย่างไร ถ้ามีคนมาบอกคุณว่า คุณเองก็สามารถ มีเงินล้าน ได้ ตั้งแต่อายุเพิ่งเข้าเลข 2 ด้วยนะ ลุยกันเลยดีกว่ามั๊ยคะ
กลเม็ดที่ 1 ก็คือ ให้เราเรียกเงินเข้ามาให้มาก ๆ
หรือ ก็คือ อย่าหลงหลักปักหมุดกับงานด้านเดียว หรือเป็นพนักงานกินเงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่จงทำงานให้มากขึ้นโดยหาอาชีพเสริม หรือ รายได้พิเศษเพิ่มเติมค่ะ เพราะช่องทางที่เพิ่มขึ้นเข้ามาก็คือโอกาสให้คุณก้าวไปเก็บเงินออมมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ นั่นเองค่ะ
กลเม็ดที่ 2 นั้นก็คือ มีน้อยก็ใช้น้อย มีมากก็ไม่โอ้อวด
บางครั้งบางคราวเราเห็นคนอื่นถือกระเป๋าแบรนด์เนม, ใส่นาฬิการุ่น limited edition, ใส่ชุดจากห้องเสื้อชื่อดัง, ทำผมทำหน้ากับเซเลบ, ทานอาหารมื้อหรู ๆ บนยอดตึกสูง หรือ ถอยรถใหม่ป้ายแดง ก็นึกอยากได้อยากโชว์อยากอวดแบบนั้นบ้าง ลองปรับวิธีคิดเสียใหม่นะคะว่า ของหรู ๆ แพง ๆ เหล่านั้นก็เป็นแค่กระแสที่ใครเข้าไปติดกับก็จะต้องวิ่งวุ่นเปลี่ยนข้าวของตามกระแสไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดแต่เหนื่อยหนักมาก เพราะหนี้บัตรเครดิตจะถามหา แทนที่จะเข้าประชันข้าวของนอกกายอวดรวยปลอม ๆ ไปวัน ๆ เรามาเปลี่ยนเป็นประชันกันที่ความสามารถในการหาเงินสร้างความฝันให้เป็นจริง จะดีกว่าหรือเปล่าค่ะ คิดดี ๆ นะคะ
กลเม็ดที่ 3 ก็คือ จริงจังกับการออมเงิน
เมื่อเราตั้งหน้าตั้งตาทำกินแล้ว เงินที่หาได้มาก็ต้องจัดเก็บอย่างรัดกุม ปลอดภัยจากการเบิกจ่ายของตัวเองด้วยเลย ปิดตายสำหรับการเบิกออกมาใช้เด็ดขาด คุณอาจจะเลือกเป็นการฝากเงินแบบประจำที่จะช่วยบังคับเราให้มีวินัยการออม และ ทำให้เราไม่สามารถเบิกเงินก้อนนั้นออกมาใช้ได้แม้แต่ในเวลาฉุกเฉิน หรือ เป็นการลงทุนในกองทุนระยะยาวก็ได้ค่ะ ให้เราได้เก็บเงินแบบเก็บลืม ๆ ไปเลยค่ะ การออมเงินจริงจังขันแข็งแบบนี้ จะยิ่งกระตุ้นให้เราทำงานหาเงินมากขึ้นด้วยนะคะ ต้องลองทำตามดูซะหน่อยนะคะ
กลเม็ดที่ 4 ไม่ก่อภาระหนี้ที่ไม่สร้างรายได้
สำคัญมาก เพราะเมื่อเราทำงานทุ่มเทอย่างเหน็ดเหนื่อย เราก็จะอยากผ่อนคลายบ้าง แต่เราต้องทำสัญญากับตัวเองอย่างหนักแน่นว่า เราจะไม่ก่อภาระหนี้ที่ไม่สร้างรายได้ให้กับตัวเองเด็ดขาด เช่น คุณจะซื้อรถก็ต่อเมื่อ รถยนต์คันนั้นคุณจะใช้เป็นรถรับส่งสัตว์เลี้ยงไปโรงพยาบาล เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมของคุณ แต่ถ้าการซื้อรถคันใหม่นั้นก็ซื้อเพราะความต้องการอยากจะมีรถอย่างเดียว ก็ตัดใจพักไว้ก่อนเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นเงินจากรายได้เสริมอื่น ๆ ที่เฝ้าตรากตรำหามา, ที่อดออมมาตลอดก็จะมาจมลงไปกับหนี้ก้อนใหม่ที่ไม่ช่วยให้มีรายได้อะไรเพิ่มขึ้นเลย หักใจ ตัดใจ ท่องไว้ให้ขึ้นใจค่ะ
กลเม็ดที่ 5 ก็คือ มโนถึงเงินก้อนเงินล้านเป็นกิจวัตร
เพราะอะไรหน่ะเหรอคะ เขาบอกกันว่า เงินชอบคนที่เฝ้าคิดถึงพร่ำเพ้อถึงเงินบ่อย ๆ ดังนั้นถ้าเราอยากมีเงินมาก ๆ เราก็ต้องคิดถึงเงินบ่อย ๆ ค่ะ ฟังดูแปลก ๆ ไม่น่าเชื่อถือใช่หรือเปล่าค่ะ ลองนึก ๆ ดูสิค่ะ ว่าถ้าเราคิดอยากมีเงินสักก้อน เราก็จะเฝ้าคิดหาวิธีที่จะให้ได้เงินก้อนนั้นมาอยู่ในมือ หรือ ทำให้เงินที่มีงอกเงยขึ้นมาให้ได้ การย้ำคิดย้ำทำก็จะทำให้เงินของคุณเพิ่มพูนขึ้นเองค่ะ และงานมโนว่ามีเงินเยอะ ๆ ก็ต้องควบคู่ไปกับการลงมือทำให้ได้เงินมาเยอะ ๆ ด้วยนะคะ ถ้าเลือกแต่จะนอนฝันอย่างเดียวพอพระอาทิตย์ขึ้น ไก่ขัน นาฬิกาปลุกดัง คุณก็ต้องตื่นขึ้นมามือเปล่า ๆ ค่ะ อย่ามัวแต่ฝันต้องลงมือทำด้วยนะคะ
กลเม็ดที่ 6 เดินหน้าเข้าหาคนรวย
ไม่ใช่ให้เดินไปยืมเงิน หรือ ไปปล้นเขานะคะ แต่หมายความว่า ให้เราเรียนรู้วิธีคิดวิธีหาเงินของเขาค่ะ คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล นั่นแหละค่ะ คุณอาจจะเริ่มจากเลือกหาหนังสือที่คนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินเขียนมาอ่านดูก่อน หรือไม่ก็ ไปเข้าฟังสัมมนาของบรรดาเศรษฐีเงินล้านทั้งหลาย เพราะยิ่งเรารู้เคล็ดลับของเขามากขึ้น เราก็มีโอกาสรวยได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ และคุณเองก็อาจจะมีเงินหลักล้านในบัญชี ก่อนที่อายุจะถึงสามย่าน นะคะ