ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหลาย ๆ ท่านมักแนะนำให้เราจับธุรกิจสักอย่างแล้วปั้นธุรกิจของตัวเองขึ้นมา เพราะนั่นคือโอกาสที่คุณจะสร้างเนื้อสร้างตัวและร่ำรวยขึ้นได้อย่างแท้จริงมากกว่าการมานั่งทำงานเป็นพนักงานออฟฟิสอย่างเดียวไปเรื่อย ๆ ทำให้ปัจจุบันผู้คนต่างก็ตื่นตัวที่จะก่อร่างสร้างฐานะของตนเองด้วยการมีธุรกิจ หรือ ร้านค้าของตัวเองขึ้นมาบ้าง แต่ก็มีคนอยู่จำนวนไม่น้อยที่ฝันนั้นล่มสลายเป็นฝันค้างฟ้าอยู่อย่างนั้น เพราะไม่สามารถให้กิจการดำเนินต่อไป ไม่สามารถดันให้กิจการประสบความสำเร็จ ซึ่งก็ต้องลงรายละเอียดดูเป็นกรณี ๆ ไป แต่หนึ่งในแก่นของความสำเร็จที่เราต่างต้องการไปให้ถึงนั้น เราควรต้องเริ่มจากตีโจทย์ให้แตกก่อนว่า ทำธุรกิจอะไรดี ธุรกิจไหนน่าจับตาน่าจับต้องมากที่สุดค่ะ
เคยสังเกตกันหรือเปล่าคะ ว่าเศรษฐีไทยอันดับต้น ๆ ของบ้านเราเมืองเราเขาทำการค้าอะไรกันบ้างนะ ถึงได้รวยขึ้นรวยตลอด ๆ ค่ะ
เรามาส่องดูครอบครัวมหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ของเมืองไทยอย่างไฮโซตระกูล จิราธิวัฒน์ กันก่อนดีมั๊ยค่ะ เมื่อเอ่ยถึงสกุลนี้ หลายต่อหลายคนคงจะไม่พลาดที่จะนึกถึงเครือ เซ็นทรัลกรุ๊ป ห้างสรรพสินค้าที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานที่สุดแห่งหนึ่ง จากอดีตถึงปัจจุบัน เราสามารถเข้าถึงห้างสรรพสินค้าของเครือบริษัทฯนี้ได้เกือบทุกส่วนของประเทศ ไม่ว่าบ้านคุณจะอยู่โซนไหนของกรุงเทพฯ เซ็นทรัลก็ตามไปเปิดสาขาอยู่ใกล้ หรือในทำเลทองอย่างแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เราก็สามารถแวะเวียนไปจับจ่ายใช้สอยในเซ็นทรัลได้ทุกที่ทุกเมื่อค่ะ และอีกภาพความสำเร็จชัด ๆ ที่ย้ำกันทุกกรอบความสามารถก็คือ เครือ เซ็นทรัลกรุ๊ป ได้เปลี่ยนบทบาทเป็นเจ้าของแบรนด์ห้างสรรพสินค้าหลาย ๆ แห่งไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Robinson และ Zen ค่ะ นอกจากกิจการด้านห้างสรรพสินค้าจะโตวันคืนแล้ว การลงทุนในรอสังหาริมทรัพย์ด้านอื่น ๆ อย่าง โรงแรม และ สำนักงานให้เช่า ก็เติบโตได้ดีไม่แพ้กันเลยค่ะ
และธุรกิจรุ่ง ๆ อันดับสอง คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ธุรกิจด้านอาหารอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพีกรุ๊ปค่ะ เป็นที่ยอมรับกันในสากลว่า ซีพีคือบริษัทอาหารชั้นนำที่ส่งต่อรายได้มากมายให้กับเกษตรกรและยังช่วยเพิ่มมูลค่าของอาหารต่าง ๆ ด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรมากมาย นอกจากความสำเร็จจากการเป็นผู้ผลิตกุ้งรายใหญ่ของโลก, ผู้ผลิตอาหารสัตว์เบอร์ 1 ของโลกแล้ว เครือซีพี ยังจัดว่าเป็นผู้ผลิตสัตว์ปีกที่มีบทบาทสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วยค่ะ ความมั่งคั่งจากการเป็นผู้ผลิตอาหารต่าง ๆ ช่วยให้กิจการที่ลงทุนด้านค้าปลีกอย่าง 7-11 ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เห็นได้เลยว่าเราสามารถเดินเข้าร้าน 7-11 ได้สะดวกมาก ๆ สมกับชื่อ convenience store จริง ๆ ค่ะ ณ จุดนี้ ขอปรบมือรัว ๆ ค่ะ
ถัดมาก็คือ กิจการของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ หรือ ThaiBev ที่ถือครองส่วนแบ่งตลาดด้านเครื่องดื่มมากที่สุด และ ยังตอกย้ำความสำเร็จในการจับตลาดได้ถูกทางและแม่นยำมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ หรือ การลงทุนในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือ กิจการด้านการโรงแรมที่ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศอีกเช่นกันอย่าง โรงแรมพลาซ่า แอททินี่ ทั้งในกรุงเทพฯ และ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ก็ดังไม่แพ้ใครค่ะ
มาต่อกันที่อันดับที่ 4 อย่างครอบครัวอยู่วิทยา ที่มุ่งเจาะตลาดด้านยาโดยการนำเข้ามาจำหน่ายแล้วก็ต่อยอดมาผลิตยาเด็กอย่าง เบบี้ดอล แล้วค่อยเพิ่มไลน์การผลิตมาเป็นกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังอย่างกระทิงแดง ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกส่งออกไปขายในหลาย ๆ ประเทศเกือบทุกมุมโลกค่ะ นอกจากแบรนด์ดังอย่างกระทิงแดงแล้ว ก็ยังมีแบรนด์น้องใหม่สำหรับเจาะตลาดฐานลูกค้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก ไม่ว่าจะเป็น ลูกทุ่ง, สปอนเซอร์, กาแฟกระทิงแดง หรือ เรดบูลเอ็กตร้า และ เพียวลิคุ ค่ะ
และแล้วเราก็มาถึงธุรกิจอันดับที่ 5 ของตระกูลรัตนรักษ์ ที่หยิบจับกิจการได้มั่นเหมาะทั้งกิจการโทรทัศน์ช่อง 7, กิจการธนาคารกรุงศรีฯ และ อีกหนึ่งกิจการหลักอย่างปูนซีเมนต์นครหลวง หรือ ปูนตราอินทรี นั่นแหละค่ะ ซึ่งถึงแม้จะมีทุนใหญ่กำไรหนัก ๆ เน้น ๆ จากทั้งสามกิจการโดดเด่นแล้ว เขาก็ยังลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์อีกด้วยค่ะ ทำให้ตระกูลนี้มีที่ดินครอบครองไม่น้อยไปกว่าไปกว่าเจ้าสัวเจริญและเจ้าสัวธนินท์เลยหล่ะค่ะ
เมื่อเรามองย้อนขึ้นไปที่ 5 เศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยกับกิจการต่าง ๆ ที่เขาปักหมุดกันนั้น เราจะเห็นว่า กิจการต่าง ๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ที่เราต้องกิน, ต้องดื่ม, ต้องซื้อหาจับจ่าย, ต้องพักอาศัย, ต้องก่อสร้าง และ ต้องเก็บออม และเชื่อว่าเมื่อธุรกิจโตขึ้น มีความมั่นคงดี การลงทุนใช้เงินต่อเงินคือหลักบริหารความรวยที่สำเร็จมาหลายรุ่นแล้วค่ะ การแปรรูปเงินไปเป็นทรัพย์สินที่ดิน หรือ อาคารให้เช่า ก็เท่ากับคุณทำงานไป และ ทรัพย์สินของคุณก็ช่วยคุณทำงานไปด้วย รายได้ของคุณจึงเกิดจากเงินที่ไหลเข้ากระเป๋ามาเอง เทียบกับอีกคนที่ทำงานตัวเป็นเกลียวอยู่คนเดียว รายได้ก็วิ่งเข้าทางเดียว ถ้าคุณหยุดพักเงินก็หยุดวิ่ง แต่กับทรัพย์สินที่ทำงานแทนคุณนั้น เขาไม่ต้องหยุดพักและเงินก็จะไม่หยุดวิ่งค่ะ ทีนี้ หากคุณคิดจะผันตัวมาทำธุรกิจก็ต้องเลือกให้ถูกทาง และนำเงินไปจัดการต่อยอดให้สูง ๆ ขึ้นนะคะ ถึงจะรวยค่ะ