เรื่องของเพื่อนที่หยิบยืมของบางสิ่งไปจากเรา แล้วไม่คืน อาจจะเป็นเรื่องที่พอจะทำใจได้ หากของสิ่งนั้นไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรมากมาย เช่น ซีดีเพลงโปรด ซีรีย์หนัง ขนม หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่สามารถยกให้เพื่อนได้ ก็ไม่ควรนำมาคิดให้กลุ้มใจ เพราะเพื่อนนั้นสำคัญกว่าสิ่งของนอกกายนัก
แต่ถ้าวันหนึ่ง เพื่อนซี้เดินมาบอกคุณว่า ช่วยผ่อนมือถือให้หน่อย โดยใช้บัตรของคุณ เนื่องจากบัตรของคุณมีโปรผ่อนนาน 12 เดือน ดอกเบี้ย 0% ด้วยความไว้ใจคุณก็รูดบัตรให้กับเพื่อนไป โดยที่เพื่อนสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะผ่อนชำระคืนทุกเดือนไม่มีบิดพริ้ว
พอเดือนแรกเพื่อนก็ชำระคืนตรงตามระยะเวลาของรอบบิล เดือนสองผ่านไปก็ไม่มีปัญหา เดือนสามเริ่มคืนไม่ครบ พอทวงถามก็บอกว่าช็อตอยู่ไม่มีเงิน พอเข้าเดือนที่สี่ก็หายไปเลย โทรติดต่อไปไม่รับ จะทำอย่างไรดี
จากกรณีนี้ ผู้เขียนได้เคยเขียนในเรื่องที่มีลักษณะคล้ายๆกัน คือ เพื่อนยืมชื่อไปคํ้าประกันซื้อรถยนต์ แต่ไม่ชำระค่างวดจนโดนยึดรถไป ในกรณีนั้น เมื่อรถถูกยึด ก็จบ ไม่มีปัญหาตามมาสำหรับผู้ที่ให้ชื่อในการคํ้าประกัน แต่ในกรณีนี้ไม่จบ เพราะบัตรเครดิตที่เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของคุณได้นำไปใช้ผ่อนมือถือนั้น คือ บัตรของคุณ ชื่อของคุณ หน้าที่ของคุณ คือ ยังต้องผ่อนชำระคืนจะกว่าจะครบกำหนด 12 เดือน ไม่สามารถยกเลิกกลางคันได้ หรือผ่อนชำระแบบขั้นตํ่าได้ จะต้องทำการผ่อนชำระคืนตามที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาผ่อนชำระ ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เข้ากับสุภาษิตหนังไม่รอง ยังเอากระดูกมาแขวนคอ
ในส่วนของเพื่อน ก็สามารถดัดนิสัยได้ โดยการนัดเจอกัน เพื่อปรับความเข้าใจ แต่ช้าก่อน ไม่ได้แนะนำให้ก้มหน้ารับชำระแทนเพื่อน แต่จะแนะนำเทคนิคเล็กๆน้อยๆแก้เผ็ด คือ เมื่อเจอเพื่อน ให้ทำทีขอดูมือถือ หรือแกล้งขอยืมโทร ในจังหวะนั้นให้คุณรีบเก็บมือถือไว้กับคุณทันที ไม่ต้องทำการส่งคืน ถามว่าถือเป็นการขโมยหรือไม่ ไม่เลยครับ เพราะมือถือเป็นชื่อของคุณ ระบุไว้ชัดเจนในใบเสร็จที่คุณใช้บัตรเครดิตชำระ คุณสามารถทำการยึดคืนได้ ถ้าเพื่อนไม่ยอม แล้วมีการลงไม้ลงมือ ให้ทำการแจ้งความทันที จะได้ไม่ต้องไปทำอย่างนี้กับใครอีก และถ้าที่สุดไม่ได้มือถือคืน และเพื่อนก็ไม่จ่ายเงินคืนค่างวดให้
ทางสุดท้าย คือ เลิกคบเพื่อนคนนั้นไปเลย เพราะเพื่อนกันจริงๆจะไม่ทำกันแบบนี้อย่างแน่นอน ตัดขาดได้เลย เพราะพฤติกรรมแบบนี้ไม่สามารถเรียกว่าเพื่อนได้
ท้ายที่สุด จากกรณีในลักษณะนี้ เกิดขึ้นบ่อยและเป็นปัญหามาก็เยอะ สำหรับคนที่ใจอ่อน ยอมกับคนอื่นไปในทุกเรื่อง และท้ายที่สุด ตนเองก็ต้องมานั่งแบกภาระที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ก่อ แต่เป็นผู้ยื่นมือเข้าไปช่วย และผลที่ได้กลับนำมาซึ่งความเดือดร้อนให้กับตัวเอง
ดังนั้น ก่อนที่จะทำธุรกรรมด้านการเงินให้กับใคร ควรตรวจสอบด้วยว่า เค้าคนนั้นไว้ใจได้มากน้อยเพียงใด แม้แต่ญาติกันก็อาจจะหักเหลี่ยมคุณได้ อย่าไว้ใจใครในเรื่องเงิน เพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน หลายคนเสียเพื่อนมาเพราะเรื่องนี้เยอะมาก ผู้เขียนจึงอยากจะเตือนผู้ที่กำลังจะคํ้าประกันหรือรูดบัตรให้ใคร ไตร่ตรองให้ดี และวางแผนถ้าเกิดเพื่อนคนนั้นไม่ชำระค่างวดคืนให้ คุณจะทำอย่างไร เผื่อใจไว้บ้างนะครับ