มีคนจำนวนไม่น้อย ที่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองรู้นั้นมันเพียงพอต่อการสร้างบริษัทหรือว่ามันเพียงพอต่อการเป็นเจ้าของกิจการอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเราต้องการสร้างเพียงบริษัทเล็กๆที่ไม่ใหญ่มาก ก่อตั้งกิจการที่ไม่คิดว่าจะขยายตัวเองต่อแล้วนั้น เราก็สามารถสร้างสิ่งต่างๆเหล่านั้นด้วยความรู้ที่ไม่ต้องมากมายเท่าไหร่เกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่ควรรู้
ซึ่งการที่เราทุกคนนั้นก่อตั้งบริษัทหรือสร้างธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่งขึ้นมานั้น ล้วนหวังลึกๆว่าต้องการความเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นที่ต้องการของคนทุกคน พวกเขาเหล่านั้นล้วนทำการบ้านอย่างหนักเพื่อที่จะพยายามทำให้ตัวเองไปถึงความฝันเหล่านั้น มันไม่ง่ายเลยที่เราจะทำให้ถึงจุดนั้นได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เช่นกัน สิ่งที่เราควรรู้ในการทำให้ธุรกิจ บริษัทของเรานั้นให้ กิจการเติบโต อย่างต่อเนื่องได้ต้องควรรู้ดังนี้
รู้เกี่ยวกับงานที่บริษัทของตัวเองทำอยู่
นับเป็นสิ่งพื้นฐานเลยก็ว่าได้ ถึงการรู้ว่าสินค้าหรือบริการที่บริษัทตัวเองทำอยู่นั้นคืออะไร การรู้ในที่นี้หมายถึงว่ามีความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองทำ มีความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการของตัวอย่างแท้จริง มีความเชี่ยวชาญกับสิ่งๆนั้น มีบริษัทจำนวนไม่น้อยที่ประธานบริษัทนั้นไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่ตัวเองทำอยู่ ทำให้บริษัทเหล่านั้นอาจจะไม่พัฒนาให้เติบโตขึ้นสักทีหรืออาจจะเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ การที่เรารู้เกี่ยวกับงานที่เราทำอยู่อย่างแท้จริงนั้นทำให้เราสามารถพัฒนาและสามารถใส่ความแปลกใหม่ลงในสินค้าและบริการที่เราทำอยู่เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ได้อย่างง่ายได้ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจำนวนไม่น้อยที่เริ่มต้นจากสิ่งที่ตัวเองชอบ และพยายามที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองชอบเหล่านั้นจนมีความรู้อย่างแท้จริง หลังจากนั้นพวกเขาไม่ลังเลที่จะสร้างบริษัทหรือไม่ลังเลที่จะทำสิ่งต่างๆที่ตัวเองชอบนั้นออกขายและทำสิ่งต่างๆให้กับสิ่งที่ตัวเองชอบ จนประสบความสำเร็จในที่สุด
รู้เกี่ยวกับปัจจัยต่างๆที่มีผลกระทบกับบริษัทของเรา
ปัจจัยต่างๆที่อยู่รอบตัวนั้น ล้วนสามารถส่งผลได้กับเราทั้งสิ้น เราไม่มีทางรู้ได้ว่าเศรษฐกิจบ้านเมืองที่ยังเป็นปกติในทุกวันนี้ อยู่ดีๆจะเกิดปัญหาต่างๆตอนไหน ในบางครั้งระหว่างที่เรากำลังมีความสุขกับอาหารมื้อเช้าที่แสนอร่อยอยู่นั้น ก็อาจจะมีข่าวหุ้นตกลงมาอย่างรวดเร็วและอาจจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเราอย่างมากได้ ในบางครั้งเราอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้แต่เราสามารถเตรียมตัวรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ เราควรที่จะศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อบริษัทของเราทุกอย่าง เราควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับปัจจัยรอบๆตัวที่มีผลกระทบต่อสินค้าหรือบริการของเรา เมื่อมีบางสิ่งเพิ่มขึ้นหรือบางสิ่งลดลงนั้นควรทำอย่างไร โดยเฉพาะบริษัทที่ต้องอาศัยชิ้นส่วนการผลิตจากหลายๆที่แล้วนั้น การที่ศึกษาปัจจัยต่างๆรอบด้านนั้นยิ่งสำคัญมากมาย ซึ่งในสินค้าแต่ละอย่าง ในบริหารที่แตกต่างกัน และในบริษัทต่างๆนั้น ล้วนอาจจะมีปัจจัยที่มีผลกระทบกับตัวเองที่แตกต่างกัน เทศกาลกินเจนั้นอาจจะไม่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมพวกแร่ต่างๆ แต่เทศกาลกินเจนั้นส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมจำพวกอาหารอย่างแน่นอน
รู้ถึงความสามารถของคนในองค์กร
คนทุกคนนั้นล้วนมีขีดจำกัดความสามารถของตัวเอง และแต่ละคนนั้นล้วนมีสิ่งต่างๆที่แตกต่างกัน ความสามารถในการทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งสิ่งที่แตกต่างกันนี้เราไม่สามารถรู้ได้ระหว่างที่เรารับพนักงานต่างๆนั้นเข้าทำงาน เราไม่สามารถรู้ได้ว่าแต่ละคนนั้นมีขีดจำกัดความสามารถในการทำงานขนาดไหนในระหว่างที่เรากำลังอ่านใบสมัครหรือตอนที่เรากำลังสัมภาษณ์ใครสักคนอยู่ แต่เราจะรู้ถึงขีดจำกัดความสามารถในการทำงานของแต่ละคนเมื่อพวกเขาเหล่านั้นเริ่มทำงานจริงๆ แต่ละคนนั้นก็จะมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันไป ผู้บริหารระดับใหญ่หรือเจ้าของบริษัท เจ้าของธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่ศึกษาเรื่องจุดเด่นของขีดจำกัดความสามารถในการทำงานของแต่ละคนนั้น การมอบหมายงานให้ทำนั้น เช่นการมอบง่านเกี่ยวกับการออกแบบ ถึงแม้ว่าจะมีพนักงานในแผนกการออกแบบเยอะก็จริง แต่ในจำนวนพนักงานเหล่านั้นทุกคนล้วนถนัดเรื่องที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบออกแบบสื่อต่างๆที่เกี่ยวกับธรรมชาติก็จะทำงานออกแบบเกี่ยวกับธรรมชาติได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เรารู้ว่าถ้าอยากได้งานที่สมบูรณ์แบบที่สุดนั้น เราต้องมอบงานให้กับคนที่รักและชอบที่จะทำงานสิ่งนั้นทำไม่ใช่ว่าให้ใครก็ได้ทำ
รู้ว่าจะพัฒนาบริษัทตัวเองต่อไปในทิศทางใด
ทิศทางของกันพัฒนานั้น สำคัญมากเพราะว่าทิศทางของการพัฒนาสามารถทำให้พนักงานในบริษัท คนต่างๆในองค์กรของเรารับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงและสามารถสัมผัสได้ถึงการเจริญเติบโตขึ้น และจะทำให้พวกเขาเหล่านั้นย่อมทำงานที่หนักขึ้นเพื่อที่จะพัฒนาบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ให้เติบโตและให้ประสบความสำเร็จที่มากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามนั้นถึงแม้ว่าเรานั้นจะรู้ทิศทางการเติมโตของบริษัทและสามารถวางแผนเพื่อการเติบโตของบริษัทแล้วนั้น เราต้องสามารถที่จะทำให้ทุกคนในองค์กรที่เราดูแลอยู่ เราต้องทำให้พนักงานในบริษัทของเรานั้นมีความคิดเห็นคล้อยตามกัน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน มีวิสัยทัศน์ที่อยู่บนเส้นทางเดียวกันเสียก่อน เพราะเมื่อสิ่งต่างๆนั้นอยู่ในสภาวะที่มีความคิดต่างๆที่ไปในทางทางเดียวกันแล้วนั้น เวลาจะพูดคุยหรือทำสิ่งต่างๆนั้นก็จะไปในทิศทางเดียวกันเหมือนแม่น้ำหลายๆสายที่ไหลสู่แม่น้ำเส้นใหญ่เส้นเดียวกัน