เราลองมารู้จักว่า อิสระของเงิน กันบ้างดีไหม???
รู้ไหมว่า อิสระของเงิน มันเป็นยังไง รู้ไหมว่าเงินนั้นกว่าจะหาได้แต่ละบาทมันยากแค่ไหน รู้ไหมว่ากว่าบุพการีจะเลี้ยงให้โตมาต้องใช้เงินเท่าไหร่ รู้ไหมว่าวันๆนึงในชีวิตประจำวันคนเราใช้เงินไปมากน้อยแค่ไหน ไม่รู้หรอก!!!เชื่อดิ! เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครทำ บัญชี รายรับ – รายจ่ายกันหรอกมีเท่าไหร่ควักออกจากกระเป๋าซิ้อๆ สิ่งที่คิดคือ มีค่ารถกลับบ้านได้ก็พอหรือคิดจะเหลือกลับบ้านก็เหลือแค่ 5 บาท 10 บาท
ทำไม??? เพราะการสอนไง เพราะการสอนของใครก็ตามที่สอนเด็กรุ่นหลังๆ สอนความหวังของโลก รุ่นต่อๆไปแบบนั้นไง นั้นคุณลองบ้างดิ! ลองสอนลูกแบบใหม่สอนให้คิดต่าง อย่าตามใจ อย่างเช่น จากให้เงินลูกไปโรงเรียนวันละ 100 บาทลองให้ตามจำนวนที่ใช้บ้าง ไปโรงเรียน จากปกตินั่งมอไซต์ไปโรงเรียน กรณีรีบ ลูกรีบมากเพราะไร! ตื่นสายไง นั่งมอไซต์ ไปเรียน 50 บาท ลองให้ตื่นสัก ตีห้านั่งรถเมล์ไปโรงเรียน ไปกลับ 8 บาท อ่ะ 16 บาท ตื่นสายไม่ได้นะ ตื่นสายก็ไปช้า เหมือนเดิม อีกอย่างหารถนั่งไม่ได้ไม่มีที่นั่งลำบากเลยทีนี้เพราะว่า ช่วง 6 – 7 โมงเนี่ยช่วงวัยทำงานจะแออัดนั่งรถไฟฟ้านั่งรถเมล์ไปทำงานกันละ ซวย!!! เด็กนั่งเรียนคงเหลือพื้นที่ยืนบนรถเมล์แค่ไม่กี่ตาราง
ภารกิจ! ใช่มันต้องมีภารกิจเหมือนการเล่นเกมส์ไง ภารกิจนั้นไม่ยาก ให้เก็บเหลือจากโรงเรียนวันละ 20 บาท เหรียญอย่าไปเก็บให้ลูกหัดเก็บแบงค์เพราะหากโตขึ้นในภายภาคหน้า เขาจะชอบจับแต่แบงค์ จะไม่ชอบจับเหรียญนั่นแหละคือทฤษฏีให้เขามีแนวคิดต่างตั้งแต่เด็ก อาหารที่โรงเรียน ประหยัดเอาข้าวไปกินที่โรงเรียน แม่ทำข้าวให้กินทุกๆวัน สั่งได้อยากกินไร เช้ามาก็หิ้วข้าวไปกินโรงเรียน การหิ้วข้าวไปกินที่โรงเรียนในระยะแรกเด็กจะอายมากๆ จนต้องแยกตัวมากินคนเดียวไม่กล้ากินที่โรงอาหาร แต่ถ้าลูกของคุณ ลองเอาไปกินร่วมกับเพื่อนเขาจะเป็นเด็กที่พิเศษ และเป็นเด็กที่เปลี่ยนแนวความคิดเพื่อน เพราะอะไร??? กรณีที่ ลูกอยู่ ป.1 เด็กๆในช่วงนี้จะเบื่ออาหารเดิมๆหรืออาหารของโรงเรียนมาก หากเป็นแบบถาดหลุมหรือเป็นแบบที่โรงเรียนกำหนดมา เด็กสั่งกินไม่ได้ น่าเบื่อมากขอบอก! ผ่านมาแล้วก็บอกให้ฟัง กรณีนี้ลูกของคุณจะโดดเด่นเพราะ อาหารแลกจากเพื่อนคนอื่นๆทำให้เขาเป็นคนแตกต่าง และเพื่อนๆคนอื่นๆก็จะเอาข้าวที่บ้านมาร่วมกินแจมด้วยเหมือนกัน เอ้า!!!ไม่ใช่หรอ ลองดูสิ แล้วคุณจะได้คำตอบที่ดีเลย์บอก นอกจากนี้กรณีที่บ้านไหนแม่เด็กๆไม่ได้ทำให้เหมือนบ้านคุณ ก็ให้ลูกคุณเก็บเงินมันซะเลย อ่าว!!! อยากกินอะไร สั่ง!ฮ่าๆ รับรายการอาหารในห้องเก็บเงินมา ก่อน แนะนำช่วงเช้าๆนะ เพราะช่วงเย็นคิดว่าค่าขนมเด็กๆคงจะหมด เด็กทุกคนต้องมีเงินค่าข้าวที่แม่ให้มาอยู่แล้วละ แน่นอน เช่น ที่โรงเรียนจ่าย 30 บาท ในมื้อกลางวัน ก็เก็บเงิน 25 บาท การตลาด การตลาด! แน่นอนว่าต้องเลือกเราอยู่แล้ว ก็จ่ายโรงเรียน 30 จ่ายเราแค่ 25 มันเหลืออีก 5 บาท เอาไปซื้อขนมของเล่นได้ แค่บีบให้เป็น สอนลูกพูดให้เป็นว่า ถ้าซื้อข้าวกับเราอร่อย แถมเหลืออีก 5 บาทจะซื้อของเล่นขนมก็ยังได้ แค่นั้นเอง เงินกระเป๋าลูกเขาก็เข้ากระเป๋าลูกเรา ไม่ยาก!!! แถมคุณแม่ยังได้ ค่างานอดิเรกที่บ้าน จากที่ทำงานอีกด้วยในตอนเช้า หรือระหว่างเป็นแม่ศรีเรือนอยู่บ้านนั่นก็คือ แม่ค้าขายอาหารตามสั่งช่วงกลางวันเด็กๆนั่นเอง ลองคิดคำนวณรายได้เล่นๆนะ ใช้เวลาในการทำอาหาร 2 ชั่วโมง สองชั่วโมงเองหรอ! ถ้าคิดลึกๆหน่อยอย่าคิดตื้นๆคิดว่าอาหารตามสั่งเด็กจะสั่งไร? ไข่เจียว ผัดหมูหวาน ผัด อะไรก็ตามแต่ที่เขาชอบกินและกินง่ายๆ แน่นอน ว่าอาหารซ้ำๆอย่างไข่เจียวจะเยอะซะส่วนใหญ่ และจากหลักการแล้ว เด็กๆชอบสั่งกินตามเพื่อน อันนี้ เพราะอะไร??
เพราะเขายังไม่มีความคิดต่างไง เพราะเด็กในวัยนี้ยังไม่พร้อมที่จะพัฒนาสมองอะไรมาก แต่เด็กช่วงนี้จะมีมันสมองที่เร็วคิดได้ไว เก่งกว่าผู้ใหญ่ดังนั้น หากแม่คนไหนอยากสอนลูกให้อัจฉริยะควรสอนตั้งแต่เด็กแบเบาะหรือเป็นวุ้นไปเลยยิ่งดี! เวลาสองชั่วโมง เด็กสัก 10 คน คนละ 25 บาท รายได้วันนั้น 250 บาท รายได้ 250 บาท / 2 ชั่วโมง ว้าว!!! เป็นไงละ เยี่ยมไปเลย และถ้าคำนวนต่อเดือน 250 เดือนนึงจะเท่ากับ 7500 บาท ใช้เวลาต่อวันวันละ 2 ชั่วโมงคิดซะว่าเป็นงานอดิเรกเล่นๆ ต่อจากลูก เท่ากับรวมแล้วเบ็ดเสร็จไปโรงเรียน 50 บาท พอไหม?? จากวันละร้อย พอ! ที่เหลือเขาจะกินขนมก็เรื่องของลูก ซื้อของเล่นชั่งเขาอย่าไปปิดกั้นเพราะจะทำให้เขาเครียด กับการใช้เงินให้ใช้สบายๆแต่มีเงินเก็บเป็นพอ ตั้งกติกา มีภารกิจก็ต้องมีกติกา ทุกอย่างต้องมีควบคู่กัน กติกา ลูกสามารถใช้เงินวันละ 50 บาทไปโรงเรียนได้ในระยะเวลา 3 เดือน เขาอยากจะได้อะไรก็ซื้อให้เขาซะ! แต่….ต้องมีงบ
แน่นอนว่าต้องมีงบ เพราะไม่นั้นเด็กจะไม่รู้จักการใช้เงินอยากได้อะไรเพ้อฝันไปทั่ว งบให้สัก 5000 บาท ซื้ออะไรก็ได้ 5000 บาท ถ้าหาก ใช้วันละ 50 บาทได้ 3 เดือนและมีเงินเก็บตามยอด คำนวณเงินที่ลูกเก็บก่อน 20 บาท สามเดือนเท่ากับ 1800 บาท เด็ก ป. 1 มีเงินเก็บ 1800 บาทถือว่าเยี่ยมมาก! คำนวณรายได้เราสิ 22500 บาท จากการขายอาหารให้เด็กได้ วันละ 2 ชั่วโมงชิวๆ แค่ทำกับข้าว สามเดือนรายได้ สองหมื่นนับว่า รวยได้เลยถ้าทำรวมกับงานประจำด้วยอีก แบ่งเบาภาระไปได้เยอะเลยทีเดียว ในเรื่องค่าน้ำค่าไฟ เอาส่วนต่างตรงนี้มาจ่ายได้อย่างดี งบ 5000 เผลอๆลูกคุณอาจจะไม่อยากได้ หรืออาจจะไม่ซื้อของเล่นแต่ขอเป็นเงินสดแทน ถ้าเขาขอเป็นเงินสดแทน เราขอแสดงความยินดีด้วย! จงเปิดบัญชีธุรกรรมการเงินให้กับลูกของคุณซะเพราะต่อจากนี้ เขาจะกลายเป็นเศรษฐีตัวจิ๋ว
เทคนิคนี้สอนอะไร??? เทคนิคนี้สอนให้เขารู้จักประหยัด รู้จักการทำธุรกรรมการเงินรู้จักการอดออม รู้จักการมีหน้าที่ รักษาหน้าที่ของตนเอง รู้จักการตื่นเช้า รู้จักหลักการขาย รู้จักเพื่อนใหม่ๆ รู้จักอะไรหลายๆอย่าง จากเทคนิคนี้!!มันได้ผลอย่างมากทีเดียว ถ้าคุณใส่ใจ ถ้าคุณรักลูกถ้าคุณอยากจะดูแลเขา คุณต้องควบคุม ต้องเสนอหลายๆอย่างให้กับเขา ของที่เด็กอยากได้ เขาก็แค่อยากได้ ซื้อมาให้ก็เหมือนทิ้งเงินไปเพราะเด็กเมื่อได้แล้วจะไม่ค่อยใส่ใจในคุณค่าของนั้นๆสักเท่าไหร่ เมื่อได้มาแล้วก็เบื่อ และอยากจะได้ของชิ้นใหม่แต่ถ้าเราทำอย่างนี้ของชิ้นนั้นเขาจะมีคุณค่าสำหรับเขา และเขาจะรู้จักการใช้เงิน เมื่ออยากได้อะไร เมื่อมีเงิน เขาสามารถที่จะเอาเงินนั้นไปใช้ได้เพราะเป็นเงินเก็บโดยไม่ต้องเดือดร้อนพ่อแม่ อีกทั้งยัง คิดถึงการซื้อมากยิ่งขึ้นเพราะถ้าเขาซื้อไปเงินก็จะน้อยลง มานั่งเก็บอีกมันลำบาก สู้เอาไปทำอย่างอื่นซะจะดีกว่า หรือให้คิดว่า หากจะซื้อตุ๊กตาตัวนึงมีเงินเก็บ 1800 บาท ตุ๊กตาตัวละ 800 บาท เขาจะเหลือ 1000 บาท ซื้อมาเขาจะเอามาเล่นมาทำอะไรกับมันได้บ้างมันจะคุ้มค่ากับที่ซื้อมาไหม ซื้อมาแล้วจะได้อะไร รวยขึ้นไหม??? แค่นั้นเอง หลักการ……