แน่นอนว่าการที่มีความคิดที่จะออมเงินอยู่ในหัวนั้น นั่นหมายถึงการที่เรากำลังเริ่มที่จะสร้างความมั่นคงไว้ให้ตัวเองเพราะการออมเงินนั้นจำให้เรามีเงินเก็บเพื่อที่จะนำเงินเหล่านั้นไปใช้สิ่งต่างๆ การออมเงินบางครั้งก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะออมเงินเพื่อซื้อสิ่งของเสมอไป แต่การออมเงินในที่นี้อาจจะรวมไปถึงการสำรองเงินเพื่อนำไปไว้ใช้เมื่อยามฉุกเฉิน และแน่นอนคนจำนวนไม่น้อยที่อาจจะนึกภาพเกี่ยวกับสภาวะฉุกเฉินไม่ออก
หรือใครที่ขี้เกียจออม ลองอ่านดู >>> เทคนิคออมเงิน สำหรับคนขี้เกียจ <<<
อาจจะเป็นเพราะว่าไม่เคยเจอวิกฤตเกี่ยวกับการเงินของตัวเองเพราะว่าตัวเองนั้นมีเงินใช้อยู่ตลอดไม่ขาดมือ สภาวะฉุกเฉินคือสิ่งที่คนทุกคนนั้นไม่อยากให้เกิดขึ้นแน่นอน เพราะเมื่อใดก็ตามที่เกิดขึ้นแล้วอาจจะส่งผลกระทบถึงเงินบางส่วนของเรา สภาวะฉุกเฉินจะทำให้เกิดการใช้เงินบางอย่างที่มากกว่าปกติซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นค่ารักษาพยาบาลหรือเสียเงินให้กับอุบัติเหตุ ถ้าเราไม่มีการออมเงินแล้วอาจจะต้องลดรายจ่ายที่เราควรจ่ายจากส่วนอื่นลงเพื่อที่จะมาจ่ายเงินให้กับสภาวะฉุกเฉิน และยิ่งถ้าเรามีเงินออมไว้แล้วนั้น เราก็สามารถนำเงินออมของเรามาใช้จ่ายสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้ ดังนั้นเราทุกคนจึงควรออมเงิน แต่การออมเงินของใครหลายๆคนที่ อยากออมเงิน นั้นมักจะล้มเหลวด้วยสิ่งบางสิ่ง ซึ่งมีดังนี้
1. ขาดวินัยในการออมเงิน
แน่นอนทุกคนที่จำนวนไม่น้อยที่มีช่วงระยะเวลาเริ่มแรกของการออมเงินที่สุดแสนจะประหยัดอดออม สิ่งใดที่เก็บเงิน ออมเงิน ก็จะทำได้โดยง่ายและสามารถออมเงินจนมีเงินเก็บได้อย่างมากมายในช่วงเวลาแรกๆของการออมเงินนั้น แต่เมื่อใดก็ตามที่ออมไปเรื่อยๆก็เริ่มที่จะประหยัดเงินน้อยลง อาจจะซื้อสิ่งของบางอย่างที่ไม่จำเป็นเล็กๆน้อยๆแต่ก็มีเงินเหลือกลับไปออมน้อยลง แต่บางครั้งก็อาจจะซื้อของบางอย่างหลายๆชิ้นจนไม่มีเงินเหลือเพื่อที่จะกลับไปออมเงินสำหรับวันนั้น ที่เป็นแบบนี้อาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่มองว่ามีเงินเก็บที่เยอะอยู่แล้ว ไม่ประหยัดสักวันจะเป็นอะไรไป มีวันแรกแล้วก็อาจจะมีวันต่อๆไปที่เราจะไม่ออมเงิน จนสุดท้ายเราก็ขาดวินัยการออมเงิน จนทำให้เราออมเงินไม่สำเร็จ
2. สู้ความต้องการของตัวเองไม่ไหว
แน่นอนว่า เมื่อใดก็ตามที่เรารู้ตัวว่าในตัวเรานั้นมีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่ง จะมากหรือจะน้อยก็ขึ้นอยู่ที่ว่าเรานั้นเก็บออมสะสมเงินได้เยอะมากแค่ไหน ถ้าเรามีเงินเก็บเยอะแน่นอนสิ่งที่ตามมาคืออำนาจในการซื้อที่เยอะขึ้นเช่นกัน สิ่งของบางชิ้นนั้นที่มีราคาแพงตองใช้ระยะเวลาเก็บเงินที่ค่อนข้างนานสำหรับใครหลายๆ แต่สำหรับคนที่มีเงินเก็บแล้ว ของชิ้นนั้นก็สามารถซื้อได้โดยใช้เงินเก็บในตัวเราเอง คนบางคนที่มีเงินเก็บที่เยอะประกอบกับมีความต้องการที่เยอะ ก็อาจจะนำเงินเก็บเหล่านั้นไปซื้อสิ่งของต่างๆที่อยากได้โดยคิดเพียงว่า เงินเก็บเมื่อหมดไปเดี๋ยวก็สามารถหาเก็บใหม่ได้ แน่นอนว่าถึงแม้เราจะสามารถเก็บเงินจนได้มากแล้วก็จริง แต่เรายังมีความอยากที่มากมายอยู่เราก็จะนำเงินเก็บเหล่านั้นไปใช้ซื้อสิ่งของต่างๆที่อยากได้เรื่อย จนสุดท้ายเงินเก็บของเราก็จะไม่ถึงไหนทำให้เราออมเงินได้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น
3. ออมเงินในจุดที่สามารถนำเงินออมออกไปใช้ได้ง่ายเกินไป
บางครั้งอุปสรรคของการออมเงินอย่างแรกคือ การที่ว่าเราจะทำยังไงเพื่อให้ตัวเราเองนั้นมีเงินเหลือเก็บในแต่ละวันให้ที่มากพอที่นำเงินเหล่านั้นไปออมได้ แต่อุปสรรคต่อไปของการออมเงินคือ ทำอย่างไรที่จะไม่ให้ตัวเองนั้นนำเงินออมออกมาใช้ซื้อสิ่งของต่างๆที่อยากได้ อุปสรรคอย่างที่สองนี้ยิ่งเราสามารถนำเงินออมของเราออกมาใช้ได้ง่ายมากเท่าไหร่ ความยากของการออมเงินก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น คนที่มีบัตร ATM ติดตัวหรือบัตรเงินสดเดรบิตติดตัวนั้น แน่นอนว่าความสะดวกในการใช้เงินก็จะเพิ่มขึ้นมาก ยิ่งไม่มีวินัยด้วยแล้วก็จะทำให้ตัวเองใช้หมดได้อย่างง่ายดายอีกด้วย คนจำนวนไม่น้อยที่มักสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองยากๆเมื่อตัวเขาเองนั้นคิดที่จะนำเงินออมออกไปใช้ ทั้งนี้เพราะเพื่อทำให้ตัวเองนั้นรู้สึกถึงความเบื่อหน่ายในการนำเงินออมของตัวเองนำออกไปใช้
4. ออมเงินอย่างไม่เป็นระเบียบ
แน่นอนว่ามีสิ่งต่างๆมากมายที่พร้อมจะช่วยเราให้สามารถออมเงินได้สำเร็จ มีทั้งสถาบันการเงินต่างๆที่มากมายสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในการออมเงินและสะดวกสบายในการใช้เงินออมนั้น กระปุกออมสินสำหรับคนที่ต้องการออมเงินอย่างง่ายๆ อาจจะเลือกออมเงินด้วยหุ้นสำหรับคนที่ต้องการการตอบโตของเงินที่ออมไป และอื่นๆอีกมากมาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีสิ่งต่างๆที่ช่วยให้เราออมเงิน แต่ถ้าตัวเราเองนั้นเลือกที่จะใช้หลายสิ่งพร้อมๆกันแล้ว เงินก็อาจจะกระจัดกระจาย เวลาที่จะนำเงินออมออกมาใช้เป็นก้อนที่มีจำนวนเยอะก็อาจจะลำบากหน่อยในการรวบรวม ทางที่ดีนั้นเราควรที่จะออมเงินทีละแหล่ง เมื่อมีเงินออมถึงจำนวนที่เราต้องการแล้วเราก็ค่อยเลือกแหล่งออมเงินอย่างอื่นต่อ เพื่อสร้างขีดจำกัดของเงินออมแต่ละแหล่งไม่ให้มากเกินไป เพื่อที่เวลาจะนำเงินก้อนออกมาใช้จะได้มีแหล่งอื่นๆคอยหนุนอยู่