การใช้ชีวิตให้อยู่รอดในสังคมให้ปลอดภัย ให้มีกินเหลือใช้ ต่างก็ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายต่อหลายคนจะต้องมีการดิ้นรน เพื่อให้ตัวเองและครอบครัวได้อยู่รอด ซึ่งหากการหาเงินมาได้ง่ายๆ แต่ไม่รู้จักเก็บก็คงจะเหนื่อยเปล่า ไม่ว่าจะอยู่ในสายอาชีพไหนก็ตาม โดยเฉพาะนักแสดง หรือคนในวงการบันเทิง
ที่เราๆ คุณๆ มองแล้วคงจะคิดว่า เป็นดารานักร้องเนี่ยดูแล้วน่าจะหาเงินได้เยอะเลยเนอะ เพราะแค่ค่าตัวละคร อีเว้นต์ต่างๆ หรืองานโฆษณา แค่คิดก็เห็นเม็ดเงินลอยมามากมาย ขนาดดาราที่เพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ แม้จะยังไม่เทียบเท่าระดับซุปตาร์ แต่ก็ถือว่ามีรายได้ที่มากว่าคนธรรมดาที่กว่าจะหามาได้ทั้งเดือนเลยทีเดียว ส่วนการเก็บออมเงินของดาราแต่ละคนเชื่อว่าคงจะมีแนวคิดที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน เหมือนอย่างที่นางเอกสาววิกหมอชิต
ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม ซึ่งป็นนางเอกอันดับต้นๆ ที่มีงานละครและอีเว้นท์เข้ามาไม่ขาดสาย จากเด็กสาวธรรมดา ทำให้เธอกลายมาเป็นนางเอกที่ฮอตและมีงานต่อเนื่องตลอด แม้จะไม่เปรี้ยงปร้างเท่ากับนางเอกแถวหน้าเมืองไทย แต่เธอก็พอใจกับจุดยืนของตัวเอง ประกอบกับเธอเองก็เป็นคนที่หาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ แม้จะหาเงินมาได้มากมายจากงานแสดง แต่ก็ทำให้เธอได้รู้จักค่าของเงิน จึงทำให้เธอต้องหาทางวางแผน ใช้เงิน จัดการออมเงินเพื่ออนาคตอีกด้วย
ออมเงินได้เพราะรู้ค่าของเงินทำให้มีการวางแผนตลอด
เพราะการที่เธอเองก็ถือได้ว่าเป็นหัวหน้าครอบครัว และจะต้องคอยดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆทุกเรื่องในบ้านและยังคิดอยู่เสมอว่าหากตัวเองเจ็บป่วยขึ้นมาเมื่อไหร่ คนในครอบครัวอาจจะลำบาก จึงส่งผลทำให้เห็นความสำคัญในเรื่องการวางแผนบริหารเงิน เพื่อให้มีเงินออม ซึ่งเธอจะจัดระบบทำตารางรายรับ-รายจ่ายต่อเดือน โดยแบ่งเงินเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวแบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายส่วนตัว และส่วนที่เหลือก็จะทำการเก็บเป็นการออมเงินไว้ เพื่อทำให้มันงอกเงยและเพิ่มพูนด้วยการลงทุนในแบบต่าง ๆ ด้วยการวางแผนให้ครบ เพราะเป็นคนที่ทำงานหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก นางเอกคนดัง ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม จึงเห็นคุณค่าของการใช้เงินอย่างมาก และคิดว่าการหารายได้ไม่ใช่เรื่องที่จะได้มาง่ายๆ แม้จะอยู่ในอาชีพดารา แต่ทุกอย่างต้องมีขึ้นมีลง จึงทำให้ต้องมีการวางแผนและบริหารเงินอย่างมีระบบ เพราะเธอเองก็บอกว่ารู้คุณค่าของเงินและ รู้ว่ากว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท ต้องแลกกับการทำงาน เงินเหมือนจะหาง่ายแต่กว่าจะได้มามันก็ยาก กว่าจะได้แต่ละบาทมันเหนื่อยมาก ว่าจะจบละครแต่ละตอน แต่ละฉาก เมื่อเริ่มมีรายได้อยากได้อะไรก็จะซื้อ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าสิ่งนั้นสำคัญแค่ไหน เพราะชีวิตคนไม่แน่นอนจะเจ็บป่วยหรือตายวันไหนก็ได้ ยังไงก็ไม่ควรประมาทในการใช้ชีวิตการออมเงินไว้แต่เนิ่นๆ จะเป็นการวางแผนให้กับตัวเองและอนาคต รวมถึงคนในครอบครัวด้วย
วางแผนเพื่อการออมเงินในอนาคตจะต้องมีวินัยเพื่อให้มีเงินเก็บ
นางเอกสาวกล่าว่าหากคุณต้องการจะออมเงิน ก็ต้องเก็บอย่างมีวินัย และพอมีเงินเก็บสักก้อนที่เพิ่มมากขึ้นก็ควรหาทางลงทุนให้เงินมันงอกเงย เพิ่มขึ้น แรกๆเชื่อว่าหลายๆคนอาจจะกล้า ๆ กลัว ๆ เธอแนะนำว่าให้ลองศึกษาหาความรู้จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ ก่อน และอย่าเพิ่งลงทุนเพียงเพราะคนอื่นเขาว่าดี แต่ควรปรึกษาคนที่มีประสบการณ์ในเรื่องของการลงทุนก่อน หรือปรึกษาคนที่มีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ แล้วจึงค่อยตัดสินใจลงทุน เพื่อที่คุณเองจะได้ไม่เจ็บตัว เพราะการที่เอาเงินไปลงทุนมากๆ โดยที่ไม่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนที่เป็นเงินก้อน หากลงทุนผิดพลาดเงินที่มีอยู่ก็จะหายไปแบบไม่ได้คืนแน่นอน ต้องค่อยๆ คิดค่อยๆ ตัดสินใจ แม้จะเห็นคนอื่นทำสำเร็จ ก็อย่าเพิ่งคิดว่าคุณจะสำเร็จเร็วเหมือนเขา เพราะเขาอาจจะล้มหรือพลาดมาก่อน เพราะหากทำไม่ศึกษาให้ดี อาจจะเป็นผลเสียที่ตามมา แล้วเงินที่นำมาเก็บไว้เป็นสำหรับการออมเงินก็จะสูญไปเช่นกัน และอาจจะไม่สามารถนำกลับมาได้อีก
ออมเงินด้วยการต่อยอดในการลงทุนหลากหลายรูปแบบ
นอกเหนือจากการฝากเงินธนาคาร ที่เธอแบ่งมาฝาก และแบ่งค่าใช้จ่ายในแต่ละวันแล้ว ยังมีเงินสำรองที่เธอแยกเก็บไว้เวลาที่อาจจะเป็นเรื่องฉุกเฉินอีกด้วย นอกจากนี้สาวยุ้ยยังมีการแบ่งสรรเงินไปลงทุนด้วย เพราะการลงทุนในความคิดของเธอคือการต่อยอด ที่จะทำให้เห็นผลตอบแทนงอกเงยขึ้นมาอย่างชัดเจนกว่า และการลงทุนมีหลากหลายรูปแบบซึ่งจะมีความเสี่ยงหลายระดับ ทำให้ตัวเธอเองจะต้องคิดและต้องเลือกให้เหมาะสม สำหรับนางเอกสาวเธอเลือกลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ แอลทีเอฟ (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพราะนอกจากจะช่วยลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังให้ผลตอบแทนในอัตราสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอีกด้วย ซึ่งเป็นเงินลงทุนที่ถือเป็นการออมเงินระยะยาวที่จะนำไปใช้ในอนาคต สำหรับวัยขนาดเธอนั้น การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวจะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่เงินลงทุนของได้มากอีกด้วย เพราะหากแก่ตัวไปจะได้มีเงินพอใช้ โดยที่ไม่เดือดร้อน แม้จะไม่มีงานแสดงก็ตาม
และนางเอกสาว ยุ้ย จีรนันท์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า การลงทุนหากไม่มีประสบการณ์ และยังดันทุรังและไม่ยอมฟังใคร อาจเป็นผลเสียที่จะทำให้คุณและคนรอบข้างเสียใจ เพราะเงินที่ลงทุนไปนั้น อาจจะเป็นก้อนสุดท้ายที่มีอยู่ ตั้งสติและรู้จักคิดก่อนจะทำอะไร จะได้ออมเงินไปอีกนาน