สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่อย่างเราๆ จะ เทรดหุ้น ผ่าน Marketing หรือจะเทรดผ่าน Internet ดี หลายๆ คนคงกำลังตัดสินใจอยู่ … วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกันดีกว่าว่าแต่ละแบบ ได้อะไร และต้องเสียอะไรบ้าง
การ เทรดหุ้นผ่าน Marketing หรือผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด
ก็คือ เราจะมีเจ้าหน้าที่การตลาดมาช่วยดูแลบัญชีของเรา โดย Marketing จะช่วยเราดู Port ของเราว่าวันนี้เรามีเงินเหลือเท่าไร มีหุ้นอะไรอยู่ใน Port บ้าง ทุกเช้าก็จะส่งข้อมูลบทวิเคราะห์หุ้น วิเคราะห์ตลาดในภาพรวมให้กับเรา พอถึงเวลาที่เรามีหุ้นที่สนใจและต้องการที่จะซื้อเข้าพอร์ต เราก็แค่โทรหา Marketing ของเรา แล้วก็บอกว่าอยากได้หุ้นอะไร จำนวนเท่าไร และราคาประมาณเท่าไรที่รับได้ Marketing ก็จะเข้าไป key ข้อมูลในระบบซื้อขายหุ้นให้กับเรา แล้วต่อจากนั้นก็จะนั่งเฝ้าหน้าจอแทนเราว่าหุ้นที่เราต้องการซื้อนั้น ได้มาหรือยัง ได้มาตามจำนวนที่เราต้องการหรือเปล่า หรือแม้ตอนขายเราก็เพียงแต่โทรบอก Marketing ว่าเราต้องการขายหุ้นอะไร จำนวนเท่าไร Marketing ก็จะช่วยดูให้เราอีกเหมือนกันว่า หุ้นที่เราต้องการขายนั้นขายได้หรือยัง….และขายได้เท่าไร
นอกจากการสั่งซื้อขายหุ้นแทนเรา สิ่งที่ Marketing จะช่วยเราอีกก็คือ เวลาที่มีการจองหุ้นใหม่ๆ เราก็สามารถทำผ่าน Marketing ได้ด้วยเหมือนกัน แล้วที่สำคัญอย่างหนึ่งการทำรายการต่างๆ กับ Marketing นั้น จะถูกอัดเทปทางโทรศัพท์ไว้หมด เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่แน่ใจการทำรายการต่างๆ เราก็สามารถแจ้งกับบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อขอฟังการทำรายการได้ แต่บริษัทจะเก็บเทปบันทึกเสียงทางโทรศัพท์ไว้ประมาณ 3-6 เดือนเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม >>> เริ่มต้นเล่นหุ้น ไม่ใช่เรื่องยาก <<<
ทีนี้มาถึงการเทรดหุ้นผ่าน Internet หรือเทรดหุ้น Online
หมายความว่า เราต้องทำรายการซื้อขายหุ้นด้วยตัวเองผ่านระบบ Internet ที่บริษัทหลักทรัพย์มีให้ ซึ่งเราสามารถส่งคำสั่งได้ตลอดเวลา 24 ชม. แต่ข้อมูลการซื้อขายของเราจะเข้าระบบของตลาดหลักทรัพย์ ณ เวลาที่เปิดตลาด โดยระบบจะเอาคำสั่งของเราไปเข้าคิวไว้ เพื่อรอเวลาตลาดเปิดคำสั่งของเราก็จะเข้าไปในระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนักลงทุนหน้าใหม่ส่วนใหญ่จะสมัครใช้การเทรดหุ้นผ่าน Internet กัน เพราะสะดวก สามารถทำการเทรดได้ทุกที่ ทุกเวลา เสียค่าคอมมิชชั่นถูกกว่าการเทรดผ่าน Marketing และยิ่งสมัยนี้โทรศัพท์มือถือเป็นมากกว่าการใช้โทรเข้า โทรออก รับข้อความต่างๆ แล้ว โทรศัพท์มือถือยังเหมือนกับเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ย่อยให้เราได้ใช้งานได้ในทุกที ดังนั้นจึงทำให้การเทรดหุ้น Online นั้น นอกจากจะเทรดบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กแล้ว ยังสามารถเทรดผ่านโทรศัพท์มือถือที่เป็น Smart Phone ได้อีกด้วย
โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นในการเทรดหุ้นผ่านโทรศัพท์มือถือและ Tablet ขึ้นมา รวมทั้งสามารถใช้ได้ทั้งกับระบบปฏิบัติการ Andriod และ ios โดยระบบที่ใช้ Trade หุ้น Online จะเรียกว่า โปรแกรม Streaming ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับระบบปฏิบัติการของ IPhone และ Andriod อีกทั้งยังมีเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำรายการ การแจ้งเตือนให้เรารู้ได้ว่าคำสั่งซื้อขายที่เราส่งไปนั้นมีการจับคู่กันในตลาดหรือยัง
และไม่ว่าจะเทรดหุ้นผ่าน Marketing หรือการเทรดหุ้นผ่าน Internet สิ่งสำคัญที่เราจะต้องคำนึงถึง คือ การรักษาข้อมูลส่วนตัวของเรา ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลพอร์ตการลงทุน ข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขที่บัตรประชาชน Username Password ที่ใช้เข้าระบบงาน หรือแม้แต่สำเนาบัตรประชาชน เพราะบางครั้ง Marketing ที่เป็นผู้ดูแลบัญชีของเรา อาจจะใช้ข้อมูลของเราไปในทางที่ไม่ถูกต้องอย่างที่เป็นข่าวก็ได้ หรือบางครั้งที่มีการแจ้งเตือนทาง SMS เราก็อย่าเพิ่งรำคาญเพราะบางครั้งก็อาจจะเป็นข้อมูลที่สำคัญหรือเป็นข้อมูลที่ผิดปกติในการทำรายการซื้อขายหุ้นของเราก็เป็นได้
เพราะฉะนั้นหลังจากที่เราได้รู้ว่าการเทรดหุ้นผ่าน Marketing กับการเทรดหุ้น Online นั้นมีข้อแตกต่างกันยังไงแล้ว เราก็ลองเลือกแบบที่เหมาะกับตัวเรา เพื่อที่จะทำให้เราสามารถลงทุนในหุ้นได้อย่างสะดวกสบายและมีความสุขในการลงทุนกัน
ไม่ว่าจะเทรดผ่านช่องทางไหน ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี
ลองหาหนังสือเกี่ยวกับวิธีเทรดหุ้นดูได้ >> ที่นี่