คงเคยได้ยินกันมาบ้างกับประโยคที่ว่า อย่าให้เพื่อนยืมเงิน เพราะนอกจากจะเสียเงินแล้วยังอาจเสียเพื่อนด้วย แต่แน่นอนว่าเมื่อเพื่อนบากหน้ามาขอยืมเงินจริง ใครหลายคนอาจจะใจอ่อนได้ง่ายๆ ครั้นพอให้ยืมไปแล้วก็ต้องมานั่งกังวลว่าจะได้คืนหรือไม่ นอกจากนี้ด้วยความเป็นเพื่อน ยังทำให้ไม่กล้าทวงเงินคืนอีกด้วย
ทีนี้เราก็คงต้องไปแก้ไขกันที่ตัวคนยืมถึงจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งกฎของการ ยืมเงินเพื่อน ที่เหล่าคนช่างยืมทั้งหลายควรจำได้ มีดังนี้
1. สัญญาต้องเป็นสัญญา
อย่าลืมว่าตอนที่เราเดือดร้อนนั้นเราเร่งเอาเงินเค้าแค่ไหน เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีเงินก็ควรรีบคืนเช่นกัน เมื่อได้สัญญาไปแล้วว่าจะคืนเงินเพื่อนเมื่อไหร่ อย่าผิดสัญญาเชียว อีกอย่างที่ไม่ควรทำก็คือการผัดวันประกันพรุ่ง ถึงแม้ว่าจะบอกไว้ล่วงหน้าก่อนจะถึงกำหนดจริงๆ แต่ถ้าทำบ่อยๆก็เหมือนการเหนียวหนี้นั่นเอง วันหน้าหากมีเรื่องเดือดร้อนต้องใช้เงินอีก คงไม่มีใครกล้าให้ยืมเงินอีกแล้ว ดีไม่ดีจะมองหน้ากันไม่ติดเสียเปล่าๆ ฉะนั้นจำไว้ว่าสัญญาต้องเป็นสัญญา ยืมเงินเพื่อนก็เหมือนการกู้ยืมเงิน หรือการขอสินเชื่อจากธนาคารที่เราต้องจ่ายคืนให้ตรงเวลาเพื่อรักษาเครดิตไว้นั่นเอง
2. อย่าหลบและอย่าอาย
ตอนที่ขอยืมเงินกล้าสู้หน้าเพื่อนขนาดไหน ตอนที่ยืมมาแล้วก็ควรทำแบบเดียวกัน ข้อดีของการไม่หลบลี้หนีหน้าก็คือ เพื่อนที่เป็นเจ้าหนี้เราจะได้ไม่เข้าใจผิดคิดว่าเราหนีหนี้ ถ้ามีเหตุจำเป็นที่ทำให้ไม่สามารถใช้เงินคืนได้ตามกำหนด ควรบอกกล่าวกันตรงๆ ซึ่งแบบนี้ดีกว่าแน่ๆทั้งในแง่ของลูกหนี้และในแง่ของมิตรภาพ ซึ่งเพื่อนของคุณคงจะเข้าใจได้มากกว่าการหลบหน้าติดต่อไม่ได้เลย บอกความจำเป็นไปตามตรงอย่าปล่อยให้ค้างคา จะได้ไม่ผิดใจกับเพื่อน
3. รักษาน้ำใจคนให้ยืม
สาเหตุหลักๆเลยที่เพื่อนทะเลาะกันเรื่องยืมเงินก็คือการเหนียวหนี้ ไม่ยอมคืนเงินเสียทีโดยอ้างว่าไม่มีเงิน แต่กลับมีเงินไปทำอย่างอื่น ทั้งที่ควรจะเป็นเงินที่นำไปคืนเพื่อน เช่น การอัพรูปไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือต่างประเทศบนโซเชียลมีเดีย แต่เมื่อเพื่อนทวงถามถึงเงินที่ยืมไปกลับได้รับคำตอบว่ายังไม่มีเงิน ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อย่างแรกที่จะตามมาก็คือความหมั่นไส้ หรือความอคติ และอาจจะทำให้ผิดใจกันเพราะการกระทำที่ไม่รักษาน้ำใจ สิ่งเหล่านี้ไม่ดีต่อมิตรภาพแน่ๆ สุดท้ายแม้เราจะคืนเงินเพื่อนทุกบาททุกสตางค์ที่ยืมมา แต่สิ่งที่เสียไปอาจะเป็นมิตรภาพที่ไม่มีวันได้คืน เพราะฉะนั้นอย่าให้เหตุการณ์แบบนี้มาทำลายมิตรภาพดีๆเลยดีกว่า ถ้าไม่มั่นใจว่าจะสามารถหาเงินมาคืนเพื่อนได้ทันก็อย่ายืมเสียแต่แรก เพราะมันไม่คุ้มกันเลยกับมิตรภาพที่ต้องเสียไป
4. รักษามิตรภาพไว้ก่อนจะดีมาก
อย่าลืมว่าเหตุผลหลักๆเราที่สามารถ ยืมเงินเพื่อน มาได้ก็เพราะความไว้ใจ และมิตรภาพที่มีต่อกัน ดังนั้นหากมีหนี้ก็ควรใช้คืนตามกำหนด อย่าผัดวันประกันพรุ่ง ต้องบอกก่อนว่าการที่เราขอ ยืมเงินเพื่อน นั้น สิ่งที่เป็นหลักประกันก็คือ มิตรภาพ ซึ่งถ้าเทียบกันจริงๆ นี่คือสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินมากมายนัก โดยเฉพาะเมื่อมิตรภาพเป็นสิ่งที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นจึงควรใช้หนี้ให้เร็วที่สุด คิดถึงใจเขาใจเรา และระลึกถึงมิตรภาพที่มีร่วมกันไว้เสมอ อย่าปล่อยให้ความโลภเพียงชั่วครั้งชั่วคราวมาทำลายมิตรภาพได้ อย่างไรเสียมิตรภาพก็สำคัญมากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่เงินซื้อหาไม่ได้
5. คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนยืม
สุดท้ายนี้อย่าลืมคิดไตร่ตรองให้ดีตั้งแต่แรกก่อนยืมเงินเพื่อน เพราะหากยืมแล้วไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ ก็จะทำให้มองหน้ากันไม่ติดจนอาจเสียเพื่อนได้ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะยืมเงินใคร ควรไตร่ตรองให้ดี ว่าเรามีความจำเป็น และมีความสามารถในการชำระหนี้แค่ไหน เพราะการที่ต้องแลกมิตรภาพกับเงินนั้นเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มเอาเสียเลย ถ้ายืมแล้วต้องผิดใจกันจนทำให้เสียเพื่อน สู้อย่ายืมเสียแต่แรกดีกว่า
เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยเป็นหนี้ และเคยผิดชำระหนี้ ชำระหนี้ไม่ตรงตามเวลามาก่อน ไม่ว่าอะไรจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้น อย่าปล่อยให้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ของคุณคือเพื่อน ถ้าหากคุณยังไม่อยากเสียเพื่อนดีๆไป ยกเว้นแต่ว่าคุณจะไม่ชอบเพื่อนคนนั้น ซึ่งก็ยังมีอีกหลายวิธีที่จะเลิกคบเพื่อนสักคน ที่ไม่ใช่วิธีนี้ แถมการเบี้ยวหนี้ยังอาจทำให้เพื่อนคนอื่นๆไม่กล้าให้คุณยืมเงินไม่ว่าจะมีความจำเป็นขนาดไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นอย่าลืมว่ามิตรภาพต้องมาก่อนเสมอ เมื่อยืมเงินเพื่อน แล้วก็ควรคืนให้ตรงเวลาด้วยนะ