หลายคนคงจะกำลังเจอกับสภาวะเงินขาดมือ อันเนื่องมาจากปัญหาหนี้สินต่างๆที่ตัวเองได้ก่อไว้ ส่วนใหญ่มาจากหลายสาเหตุ เช่น บางท่านสมัครบัตรเครดิตไว้หลายใบ แต่ละใบล้วนมีวงเงินมหาศาล อย่างน้อยๆ ก็สามเท่าของเงินเดือน ทำให้ลืมตัว ใช้จ่ายอย่างไม่ยั้งคิด และกว่าจะรู้ตัวอีกที ยอดหนี้ต่อเดือน ก็มากเกินเงินเดือนตัวเองไปแล้ว
บางท่านอาจจะกู้มาด้วยความจำเป็น เพราะต้องเป็นเสาหลักให้ครอบครัว มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมาย แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ท่านไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตได้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่ท่านสามารถทำได้ในเวลานี้คือ หาทาง ปลดหนี้ ทุกบัตรจากยอดแสนให้กลายเป็นศูนย์ให้ได้ ฟังดูเหมือนจะยาก แต่ที่จริงแล้ว ทำได้ไม่ยากเลย
วิธี ปลดหนี้ บัตรเครดิต
1. ทำเรื่องโอนหนี้กับสถาบันการเงินที่รับโอน
ปัจจุบันมีสถาบันการเงินต่างๆที่มีบริการรับโอนหนี้ วิธีการโอนหนี้ที่ว่าก็คือ ไม่ว่าท่านจะมีบัตรเครดิตกี่ใบก็ตาม ท่านสามารถรวบรวมยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดให้เป็นยอดเดียว แล้วผ่อนชำระกับเจ้าหนี้เจ้าเดียว ซึ่งจะช่วยลดรายจ่ายต่อเดือนลงได้มาก เนื่องจากสถาบันการเงินเหล่านั้น จะอนุมัติให้ท่านยืดระยะเวลาผ่อนคืนยาวนานได้หลายปี
ยกตัวอย่างเช่น
- ปัจจุบัน คุณมีหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด 5 ใบ ยอดเงินต้นทั้งหมดรวมดอกเบี้ย = 300,000 บาทโดยประมาณ
- สถาบันการเงิน ( ธนาคาร ) รับรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตของคุณ โดยพิจารณาจากเงินเดือนคุณเป็นหลัก ว่ามีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนได้แค่ไหน ซึ่งส่วนใหญ่จะอนุมัติวงเงินกู้สูงสุด 5 เท่าของเงินเดือนที่คุณได้รับในปัจจุบัน
- เมื่อสถาบันการเงินอนุมัติแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำสัญญา ซึ่งในสัญญาเหล่านี้จะระบุจำนวนเดือนผ่อนชำระหนี้สินคืนให้กับทางธนาคาร ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 36-60 เดือน ตามแต่จะตกลงกัน หลังจากนั้น ทางสถาบันการเงินจะจัดการชำระหนี้แทนคุณให้กับบริษัทบัตรเครดิตต่างๆจนหมด
- ซึ่งจากปกติคุณต้องชำระหนี้ต่อเดือนทั้ง 5 บัตร =เดือนละ 25,000โดยประมาณ ยอดหนี้ทั้ง 5 จะถูกนำมารวมกันเป็นก้อนเดียว เพื่อทำการผ่อนชำระคืนให้กับสถาบันการเงินเพียงที่เดียว =ยอดชำระหนี้ต่อเดือนในปัจจุบันของคุณ จะลดเหลือเพียงแค่ เดือนละประมาณ 7,000-10,000 บาท เป็นต้น
2. ปิดบัตรเครดิตทั้งหมดให้เหลือเพียงใบเดียว
เมื่อใช้วิธีการรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตข้างต้นแล้ว คุณก็จะกลับเข้าสู่วงจรเดิมใหม่อีกครั้ง นั่นคือ บัตรเครดิตทั้ง 5 ใบของคุณ มีวงเงินคงเหลือให้ใช้จ่ายได้เต็มที่ หากคุณไม่มั่นใจว่าจะควบคุมหรือยับยั้งสติเอาไว้ได้ ก็จัดการยกเลิกมันซะ โทรยกเลิกและหักบัตรทิ้งให้หมด จนเหลือเพียงใบเดียวที่คุณได้ทำการคัดเลือกแล้วว่า คุ้มค่าและมีอัตราดอกเบี้ย+ค่าธรรมเนียมที่ย่อมเยาที่สุด เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน
หากคุณไม่โทรยกเลิก คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี เพื่อรักษาสถานภาพเจ้าของบัตร หลังจากนั้น หันมาใช้วิธีเก็บออมแทน
ให้คิดเสียว่า คุณชำระหนี้ทุกเดือนให้กับบัญชีเงินฝากประจำในธนาคารแห่งหนึ่ง เดือนละ 2,000 บาท และเมื่อถึงสิ้นปี คุณจะตกใจกับยอดเงินที่คุณสะสมได้ เมื่อถึงเวลานั้น คุณจะเริ่มสนุกกับการเก็บเงินเพื่อสร้างอนาคต
บัญชีเงินฝากประจำ จะเริ่มต้นที่ฝากประจำ 1 ปีขึ้นไป อัตราเงินฝากขั้นต่ำต่อเดือน เริ่มที่ 1,000 บาท คุณเริ่มต้นด้วยจำนวนไหน ก็ต้องฝากเท่ากันทุกเดือน บัญชีประเภทนี้จะมีดอกเบี้ยรายปีที่สูงกว่าปกติ เห็นหรือยัง ว่าเมื่อคุณ ปลดหนี้ คุณจะมีแต่ได้กับได้
3. ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
คุณเคยสงสัยไหม ว่าเงินของคุณหายไปไหน ทันทีที่คุณแลกธนบัตรย่อยปุ๊บ กว่าจะรู้ตัว คุณก็เหลือติดตัวแค่ไม่เท่าไหร่แล้ว ดังนั้นการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ถือว่าสำคัญมากเลยทีเดียว
ถ้าขี้เกียจพกสมุดเล่มหนา ไม่อยากนั่งตีตารางให้เสียเวลา ปัจจุบันก็มีหลายวิธีให้เลือกทำ เช่น จดลงแท็ปเล็ต หรือในโทรศัพท์มือถือของคุณเอง หากไม่สะดวกอีก ตามร้านหนังสือหรือร้านเครื่องเขียนชั้นนำทั่วไป มีสมุดรายรับรายจ่ายเล่มเล็กๆขาย สนนราคาเริ่มต้นที่ 14 บาทโดยประมาณ
วิธีการจดบันทึกจะช่วยให้คุณลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้มาก เพราะคุณรู้แล้วว่าเงินหายไปไหน
4. หาอาชีพเสริมตามความถนัด
ถ้าคุณเก่งคอมพิวเตอร์ คุณสามารถใช้ความสามารถพิเศษเหล่านั้นของคุณหารายได้เพิ่มได้ไม่ยาก เปิดเฟสบุ๊คขึ้นมาสักเพจหนึ่ง รับแต่งภาพ ทำโปรแกรม ตัดต่อโฆษณา รับออกแบบป้ายสินค้า หรืออะไรก็ตามที่คุณถนัด
หรือคุณเป็นผู้หญิง มีฝีมือในการทำเบเกอรี่ ก็ลงทุนน้อยๆ ซื้อเครื่องทำโดนัตสำเร็จรูป มาทำโดนัทส่งขายเป็นรายได้พิเศษในวันหยุดหรือหลังเลิกงาน เลือกทำอาหารชนิดที่ไม่ต้องใช้เวลานานๆในการผลิต เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง
หวังว่าแนวทางเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ ขอให้คุณชนะ และหมดสิ้นหนี้สินสมความตั้งใจนะคะ และที่สำคัญอย่าเผลอไปทำหนี้สินต่อล่ะ ไม่งั้นคุณก็จะจมอยู่ในวงเวียนแห่งหนี้สินไม่หมดไม่สิ้นกันเสียที
ใครที่ไม่อยากเป็นหนี้ไปตลอดชีวิตก็เร่งจัดการกับปัญหาหนี้สินแล้วเริ่มวางรากฐานชีวิตวัยเกษียณให้กับตัวเองเสียใหม่ แค่นี้หนี้สินก็จะหมดไปพร้อมมีชีวิตวัยเกษียณที่ดีขึ้นแล้วล่ะ