คุณคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมว่า จำเป็นที่จะต้องมีเงินไว้จับจ่ายใช้สอยสิ่งต่างๆ และต้องการมีเงินคราวละมากๆด้วย เพื่อใช้สนองตอบความต้องการในด้านต่างๆได้อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ หากคุณไม่ใช่ลูกเศรษฐีที่รวยระดับที่ว่านั่งกินนอนกินได้อย่างสบาย หรือไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์ดาวค้างฟ้าที่มีเงินเป็นร้อยๆล้านแล้วละก็ สิ่งๆหนึ่งที่มนุษย์เงินเดือนจะต้องทำเพื่อรองรับเหตุการณ์ทางการเงิน ที่อาจจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า นั่นก็คือ การเก็บออมเงิน และ การบริหารเงิน ให้พอใช้ในแต่ละเดือนนั่นเอง
ถ้าหากคุณไม่อยากประทังชีวิตด้วยมาม่า หรือกินน้ำก๊อกตังแต่กลางเดือนแล้วละก็ วันนี้ เรามีเทคนิคควบคุมเงินในกระเป๋าอย่างง่ายมาเสนอ เชื่อได้เลยว่าถ้าคุณปฏิบัติเป็นประจำทุกเดือน นอกจากจะมีเงินทองพอใช้แล้วยังจะมีเงินเหลือเก็บด้วย เทคนิคที่ว่ามีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
ควบคุมเงินในกระเป๋าอย่างง่าย ต้องใช้ เทคนิค สิ!
คุณอยากให้เงินที่หามาอย่างยากลำบากอยู่กับคุณไปนานๆไหม? อยากมีเงินเก็บออมโดยที่ไม่ขาดเลยสักเดือนเลยหรือเปล่า? วันนี้เรามีวิธีการน่าสนใจ มาให้ลองทำกันดูว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ เชื่อว่าไม่ลำบากมากมายเลยที่จะทำตาม (ถึงลำบาก ก็ลำบากเก็บเงิน ดีกว่าไปลำบากตอนที่ไม่มีเงินใช้นะ) ซึ่งเทคนิคดังกล่าวนั้นมีดังต่อไปนี้
เอาเงินรายได้ที่ได้มาทำการจัดสรรปันส่วน แยกเงินที่จะต้องจ่าย กับเงินคงเหลือออกจากกัน
วิธีนี้คุณต้องคิด และลงมือปฏิบัติก่อนที่เงินเดือนจะออก หรือหากคุณได้เงินเดือนมาอยู่ในมือแล้ว ก็จับแยกส่วนเลยว่าส่วนไหนต้องใช้จ่ายกับอะไรบ้าง เทคนิคนี้ทำให้เราสามารถวางแผนการใช้เงินได้อย่างเป็นระเบียบแบบแผนและเป็นนิสัย แล้วอย่าล้มเลิกไปกลางคันเสียล่ะ ไม่อย่างนั้นก็จอดไม่ต้องแจวแต่แรก อยากมีเงินใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนและเหลือเก็บ ต้องรู้จักจัดสรรเงินก่อนใช้จ่าย
ไม่มีใครรู้จักเราเท่าตัวเราเอง ลองสังเกตดูว่า ตัวเราเอง ถนัดออมเงินแบบไหนกัน
ข้อนี้จะเป็นการทำความรู้จักกับตัวเองว่า เราสามารถออมเงินได้ในระดับไหน เพื่อที่จะนำผลที่ได้มาลองวิเคราะห์ดูว่า ธนาคารใดให้ผลตอบแทนสูงสุดจากการออมของเรา ทั้งนี้อย่าลืมว่า เป้าหมายในการออมนั้นคืออะไรเช่น ถ้าออมเงินเพื่อเอาไว้ซื้อบ้านดีๆสักหลัง คุณก็ควรที่จะเลือกธนาคารที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในรูปของการฝากประจำ การเห็นเงินออมงอกเงยขึ้นจะทำให้เรารู้สึกอยากออมเงินมากกว่าเดิม และมีแรงจูงใจในการออม ทำให้ประสบความสำเร็จในการออมเงินได้ไม่ยาก
จัดสรร แบ่งเงินออกเป็นส่วนๆในการใช้จ่ายให้เหมาะสม
เทคนิคนี้เกี่ยวพันกับข้อแรกเลยก็ว่าได้ แต่ในข้อนี้จะเป็นการแจกแจงค่าใช้จ่าย ว่าแต่ละเดือนนั้นเราต้องจ่ายเงินไปกับอะไรบ้าง เพื่อให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อ๋อ นี่เองที่ฉันจ่ายไป จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งคิดในภายหลัง
ทำบันทึก การเงิน ประจำตัวเอง หรือที่เรียกกันว่า บัญชีรายรับรายจ่ายยังไงล่ะ!
ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมากๆ ที่จะทำให้คุณได้เห็นว่าการเงินของเรานั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ทั้งนี้การทำบัญชีรายรับรายจ่ายนั้น ทำให้เรารู้ว่าใช้จ่ายไปกับสิ่งใดเป็นเงินเท่าไหร่บ้าง อะไรบ้างที่เป็นค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เพื่อที่จะได้สามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นลงได้นั่นเอง
ทั้งนี้ การที่จะทำให้เทคนิคดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นผลสำเร็จ คุณต้องอาศัยความมีระเบียบวินัยในตัวเอง ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังเช่นการที่เราตั้งเป้าหมายว่า อยากจะซื้อบ้านสักหลัง มีรถสักคัน เพื่อเป็นแรงจูงใจในการเก็บเงิน และทำให้ไปถึงเป้าหมายนั้นได้ในที่สุด