หนุ่มไฮโซที่มีผลงานทางวงการบันเทิง และมีชื่อเสียงจนทำให้หลายๆ คนรู้จักไม่น้อย สำหรับ ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล ทายาทเจ้าของศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ด้วยความเป็นหนุ่มไฮโซ มีฐานะทางการเงิน ทำให้หลายคนอาจจะอยากรู้ว่าหนุ่มก้องมีวิธีการออมเงินวิธีไหนที่จะช่วยต่อยอดในการเก็บ เชื่อว่าใครๆก็อยากจะรู้ คติการลงทุน ของไฮโซหนุ่มคนนี้เช่นกัน
การออมเงินในความคิดของก้อง กรุณ
ด้วยความที่ไม่ใช่เซียนเก่งกาจในเรื่องลงทุน แค่พยายามคิดอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ได้จำกัดรูปแบบว่าเป็นการลงทุนในหุ้น กองทุนรวม หรือฟิวเจอร์ส (สัญญาซื้อขายล่วงหน้า) เท่านั้น การลงทุนในสิ่งที่ตัวเองชอบเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะหากเริ่มต้นจากสิ่งที่ไม่ชอบ ก็ไม่อาจทำให้ต่อยอดทำอย่างอื่นได้ แม้จะเป็นทายาทเจ้าของศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ แต่อำนาจการตัดสินใจทุกอย่าง ก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง การออมเงินจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากเหมือนกัน และเขาเองก็อยากจะก้าวเดินไปตามเส้นทางที่เขารัก โดยการลงทุนตามที่ใจเขารักนั่นเอง
รู้จักบริหารเรื่องการออมเงินได้เป็นอย่างดี
เขาเริ่มต้นลงทุนในหุ้น ช่วงแรกก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อขายหุ้นจะอาศัยคำแนะนำของคุณพ่อและคุณอาเป็นหลัก ต่อมาเมื่อเขาได้มีโอกาสเริ่มต้นทำงานในวงการบันเทิง ทำให้มีรายได้เข้ามามากขึ้น สามารถบริหารและจัดการเรื่องเงินได้ดีขึ้น นอกจากจะซื้อหุ้นและทองคำเก็บไว้บ้างแล้ว เขายังมีการลงทุนในแบบอื่นที่แตกต่างไปจากคนส่วนใหญ่ด้วย เรียกว่าเป็นการลงทุนในสิ่งที่ตัวเองรักนั่นเอง ใครๆ ก็มีสิ่งที่ตัวเองรักอยู่ในใจอยู่แล้วจริงไหม รวมถึงการลงทุนด้วย แน่นอนว่าคุณก็คงอยากจะลงทุนในสิ่งที่ตัวเองรักที่สุด ซึ่งก้อง กรุณ ก็เหมือนกัน
ออมเงินในแบบฉบับที่ตัวเองมีความชอบ
ไมน่าเชื่อว่า การลงทุนในรูปแบบที่ตัวเองชอบ และแตกต่างจากคนอื่น จะทำให้ประสบผลสำเร็จได้ ซึ่งสิ่งที่เขาลงทุนก็คือ การลงทุนกับงานศิลปะแนวใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนดังทั้งฝั่งยุโรปและอเมริกา เป็นผลงานภาพวาดที่ใช้วิธีการสลักลงบนหนังสัตว์ของศิลปินชื่อ Mark Evans โดยวิธีการก็คือการเอามีดมาขูดเป็นรูปภาพต่างๆ ซึ่งตอนนี้มีคนเดียวในโลกที่สร้างสรรค์งานแนวนี้ และด้วยความที่เป็นของหายาก ชิ้นงานของเขาจึงเป็นที่ต้องการของนักสะสมงานศิลปะอย่างมาก และมีราคาพุ่งขึ้นตลอด อย่างครั้งแรกซื้อมาในราคา 2,000 ปอนด์พอเดือนต่อมาราคาขึ้นเป็น 4,000 ปอนด์ ซึ่งก็เป็นการลงทุนที่น่าลงทุนมากทีเดียว ราคาพุ่งสูงขึ้นตลดและรวดเร็วแบบนี้ ไต้องกลัวว่าจะขาดทุนเลยล่ะ
ลงทุนในสิ่งที่ชอบ คือการออมเงินที่ดี
การลงทุนกับงานศิลปะนอกจากความชอบส่วนตัวเวลาได้ดูคอลเลคชั่นภาพสวยๆ ก็ต้องไม่ลืมนึกถึงเรื่องของผลตอบแทนจากการลงทุนด้วย แน่นอนว่าการลงทุนทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าจะต้องศึกษาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับสิ่งที่จะลงทุน อีกอย่างที่เขาโชคดี คือ คุณพ่อของเขาจะสอนในเรื่องของความพอดี เมื่อไหร่ควรจะพอ ทำให้เขาไม่ลงทุนแบบเต็มที่ไปด้านใดด้านหนึ่งเกินไป และตัวเขาเองก็ยังมีแผนอยากทำอะไรใหม่ๆ อีกหลายอย่าง ทั้งลงทุนในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ส่งออก ร้านอาหารญี่ปุ่น รวมถึงเสื้อผ้าแฟชั่น แต่จะทำในสิ่งที่ชอบได้ทั้งหมดก็ต้องมีเงินทุนเสียก่อน ซึ่งเขาก็ค่อยๆ พยายามสะสมเงินทุนเพื่อลงทุนในสิ่งที่เขารัก จนสุดท้ายก็ประสบกับความสำเร็จที่ต้องการจนได้
บทเรียนในอดีตทำให้กลับมาใช้ในการบริหารการออมเงินได้ดีขึ้น
เมื่อก่อนเขาบอกว่าได้เงินมาเท่าไหร่ก็ใช้หมด เหมือนไม่รู้จักคุณค่าของเงิน แต่พอได้มีความรับผิดชอบขึ้น เริ่มโตขึ้นทำให้เขาอยากทำอะไรด้วยตัวเอง และเริ่มรู้จักวางแผนกันเงิน 30% ของรายได้ไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย ส่วนที่เหลือเก็บไว้เป็นทุนตามฝันที่อยากทำ สำหรับคนที่อยากลงทุน ก้อง กรุณฝากไปถึงทุกคนว่า หากคุณใช้เงินเยอะ คุณต้องหารายได้ให้เยอะกว่าค่าใช้จ่าย ช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ คือการลงทุน อย่าให้ความกลัวปิดโอกาสคุณจากการเรียนรู้ เหมือนอย่างคำที่ว่า no pain, no gain ขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่ทุ่มลงทุนทั้งหมด ต้องรู้จักเผื่อใจกระจายความเสี่ยงด้วย ทุกอย่างควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความพอดี เมื่อเกิดสิ่งผิดพลาดขึ้นก็ควรเก็บไว้เป็นบทเรียน เพราะนั่นจะทำให้คุณสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้นั่นเอง
การลงทุนในสิ่งที่รัก ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ลองคิดดูสิ ถ้าเป็นคุณระหว่างการลงทุนในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบเลยและไม่มีความถนัดเลยกับการลงทุนในสิ่งที่คุณรักที่คุณชอบและมีความถนัดมากพอ คุณจะเลือกลงทุนแบบไหน แน่นอนว่าต้องเลือกลงทุนในสิ่งที่ตัวเองรักอยู่แล้ว แถมการลงทุนในสิ่งที่ตัวเองรัก ยังประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดายกว่าอีกด้วย
ดังนั้นใครที่กำลังมองหาการลงทุนและกำลังตัดสินใจไม่ถูกอยู่ว่าจะลงทุนแบบไหนดี ลองเลือกการลงทุนในแบบของคุณกันดูนะคะ รักหรือชอบการลงทุนแบบไหนก็เตรียมพร้อมไปลงทุนกันได้เลย แล้วคุณจะประสบความสำเร็จได้อย่างก้อง กรุณแน่นอน