ช่องทางการหาเงิน ที่คุณเลือกเองได้

คนเรานั้นใช่ว่าจะมี ช่องทางการหาเงิน เพียงช่องทางเดียว อยู่ที่ว่าเราจะเลือกช่องทางไหนนั่นเอง

ซึ่งจากการสังเกต คนไทยส่วนใหญ่มักมี ช่องทางการหาเงิน โดยการเป็นลูกจ้างประจำ มากกว่าที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยตัวเอง เพราะคิดว่าไม่ต้องใช้ความคิดอะไรมาก แค่ทำตามคำสั่งอย่างเดียว ก็ได้เงินแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ช่องทางที่จะทำให้เรารวยได้ อย่างมากก็แค่พอมีพอใช้เท่านั้นเอง วันนี้เราจึงนำช่องทาง การหาเงิน 3 ช่องทางหลักๆ มาแนะนำให้คุณได้มีโอกาสเลือกงานที่ต้องการด้วยตัวเองกัน

ช่องทางที่ 1 เป็นลูกจ้าง

อย่างที่บอกไปแล้วข้างต้นว่าคนไทยส่วนใหญ่มักจะเลือกช่องทางการหาเงินช่องทางนี้กันเกือบ 100% เพราะไม่ต้องใช้ความคิดอะไรมาก แค่ทำตามคำสั่ง ก็มีเงินเดือนให้ใช้ทุกเดือนแล้ว แถมยังเป็นรายได้ที่มั่นคง ไม่ต้องกลัวเสี่ยงว่าจะขาดทุนอีกด้วย แต่อาชีพนี้ก็มักจะไม่ทำให้เรารวยสักที เพราะอะไร มาดูข้อดีข้อเสียของอาชีพนี้กัน

ข้อดีของการเป็นลูกจ้าง

1. ไม่ต้องเหนื่อยอะไรมาก แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ
2. ถ้าผลงานเข้าตาเจ้านาย อาจได้โบนัส หรือได้เลื่อนตำแหน่งเลยทีเดียว
3. ไม่ต้องเสี่ยงกับการขาดทุน เพราะอย่างไรก็ได้เงินเดือนเป็นรายได้ประจำอยู่แล้ว

ข้อเสียของการเป็นลูกจ้าง

1. ต้องพยายามพัฒนาความสามารถของตัวเองอยู่ตลอด และต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของบริษัท มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงกับการโดนเลย์ออฟได้
2. อยู่ตำแหน่งสูงๆ ได้เงินเดือนเยอะ มักจะเสี่ยงต่อการโดนปลด โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ หรือมีคลื่นลูกใหม่ที่ความสามารถมากกว่า แต่เงินเดือนน้อยกว่ามาเป็นตัวเปรียบเทียบ

ช่องทางที่ 2 เป็นเจ้าของธุรกิจ

ช่องทางการหาเงินช่องทางนี้ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มต้นจากการเป็นลูกน้องมาก่อนเพื่อเรียนรู้งานและเก็บออมเงิน เมื่อมีช่องทางและทุนทรัพย์ก็เปิดธุรกิจของตัวเอง คราวนี้เรามาดูข้อดีข้อเสียของการเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยตัวเองกันดีกว่า

ข้อดีของการเป็นเจ้าของธุรกิจ

1. ทำงานอย่างมีอิสระ ไม่มีใครมาบังคับ และสามารถกำหนดเวลาทำงานของตัวเองได้
2. สามารถกำหนดรายได้ของตัวเองได้ อยากมีรายได้มากก็ทำงานให้มาก

ข้อเสียของการเป็นเจ้าของธุรกิจ

1. รายได้ไม่คงที่ ถ้ามีลูกค้ามากก็มีรายได้มาก ในทางตรงกันข้ามถ้ามีลูกค้าน้อย รายได้ก็น้อยตามไปด้วย
2. หากเศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจย่อมได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ง
3. หากธุรกิจใหญ่ขึ้น อาจรับผิดชอบงานด้วยตัวเองไม่ไหว จำเป็นต้องจ้างพนักงานเพิ่ม นำมาซึ่งค่าใช้จ่าย และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น

ช่องทางที่ 3 เป็นนักลงทุน

การเป็นนักลงทุนในที่นี้ หมายถึงการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง ซึ่งก็เป็นช่องทางการหาเงินที่นิยมอีกช่องทางหนึ่ง แต่การเล่นหุ้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นกัน

ข้อดีของการเป็นนักลงทุน

1. ไม่มีเวลาทำงานที่แน่นอน แค่ใช้เงินในการทำงาน
2. ทำกำไรได้สูง ถ้ามีความสามารถในการลงทุน จับทิศทางตลาดได้

ข้อเสียของการเป็นนักลงทุน

1. การลงทุนด้วยการเล่นหุ้นอาจมีการพลิกผันได้ตลอดเวลา เพราะราคาหุ้นจะปรับขึ้นลงอยู่เสมอ ซึ่งถ้าการลงทุนผิดพลาด ย่อมประสบภาวะขาดทุน
2. ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก จึงเหมาะกับผู้ที่มีเงินทุนจำนวนหนึ่ง
3. มีความเสี่ยงสูง ผู้ที่จะเป้นนักลงทุนได้จึงต้องศึกษาข้อมูลให้ดี และต้องวิเคราะห์เป็น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะขาดทุน

ได้รู้จัก ช่องทางการหาเงิน ทั้ง 3 ช่องทางกันไปแล้ว ลองพิจารณาช่องทางการหาเงินที่เหมาะกับตัวเองกันดู

สำหรับผู้ที่ยังไม่มีเงินทุน อาจจะเริ่มจากการเป็นลูกจ้างแล้วค่อยๆ เก็บเงินทีละนิดก็ได้ เมื่อมีเงินเพียงพอแล้วจึงค่อยขยับขยายเป็นเจ้าของกิจการ แค่นี้คุณก็สามารถพาตัวเองเข้าสู่เส้นทางของความร่ำรวยได้แล้วล่ะ เพียงแค่มีความขยันและอดทน เงินล้านก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วล่ะ