สวัสดีท่านผู้อ่านที่น่ารักและที่ติดตามบทความของเรามาตลอดเลยนะคะ วันนี้เรามาเอาใจสาวๆหนุ่มๆ คุณพ่อบ้านและคุณแม่บ้านกันบ้างดีกว่าค่ะ การเดินซื้อของหรือเดิน ช้อปปิ้ง สำหรับใครหลายๆคนนั้นถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ
ดิฉันก็เหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาที่ต้องไปหาเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าซื้อของแฟชั่น เครื่องสำอางกระเป๋า รองเท้า และอาหารการกินต่างๆจะชอบมาก และเมื่อกลับบ้านมาก็จะพบว่าตัวเองนั้น ได้ของติดไม้ติดมือมามากมายหลายอย่างเลย บางทีก็ได้ของจุกจิกอะไรไม่รู้มาด้วย มานับเงินที่เหลืออีกที อ่าว ซวยแล้ว ใช้เงินเกินงบ
นั่งเครียดกันเลยล่ะค่ะทีนี้ ทำไมเผลอใช้จ่ายไปเยอะเชียว สาเหตุหลักๆเลยก็คือ ไปเจอของลดราคาค่ะ 50 % ซื้อ 1 แถม 1และก็จะชอบคิดว่า ซื้อๆไปเถอะมันลดราคา เดี๋ยววันหนึ่งก็ได้ใช้งานเอง จนเมื่อวันหนึ่งมาถึงก็เริ่มคิดว่า ไม่ได้ละ ถ้าขืนเรายังเป็นแบบนี้ ซื้อของตามใจ เห็นปุ๊ปซื้อปั๊ปแบบนี้บ่อยๆนั้นคงจะไม่ไหวแน่ อาจจะทำให้เราไม่มีเงินเหลือเก็บเลยก็ได้ ดังนั้นเมื่อคิดได้ ครั้งต่อไป ถ้าได้ไป ช้อปปิ้ง ซื้อของอีกก็จะเริ่มวางแผนต่างๆ ดังนี้เลยค่ะ
1. ก่อนจะขับรถออกจากบ้าน
เรามาสำรวจรอบบ้านๆกันก่อนค่ะว่า เราขาดเหลืออะไรบ้าง น้ำมันพืช, น้ำยาล้างจาน, น้ำยาล้างห้องน้ำ, ข้าวสาร, อาหารสำเร็จรูป, ผัก, ผลไม้, ของใช้ในบ้าน,ของใช้ส่วนตัว มีอะไรที่มันมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อบ้าง แล้วทำรายการออกมาเพื่อป้องกันการลืมเวลาไปซื้อ และป้องกันการซื้อของเกินที่ไม่อยู่ในรายการ
2. เปรียบเทียบราคา
เราต้องมีความรอบค่ะ ดิฉันจะชอบเข้าเว็บเช็คราคาก่อนเสมอ เหมือนเราจะซื้อสินค้าไอทีเราก็จะเข้าไปในเว็บเช็คและเปรียบเทียบราคาก่อน จะได้รู้ว่าถ้าซื้อไปเราจะเหลือเงินเท่าไหร่ สามารถซื้อของที่จำเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่ วิธีนี้สามารถใช้ได้กับสินค้าทุกรายการเลยจ้า เช่น เราอาจจะเข้าเว็บของห้างสรรพสินค้าที่เราจะไปซื้อของขึ้นมา แล้วเข้าไปดูว่าเขามีจัดโปรโมชั่น ลดราคาอะไรอยู่หรือเปล่า ถ้ามีเราก็จดๆรายะละเอียดไว้ จากนั้นเราก็ตั้งงบประมาณเผื่อเหลือเผื่อขาดไม่เกินเท่านั้นเท่านี้ พอไปถึงจะได้ไม่ยุ่งยากเรื่องการตัดสินใจซื้อของ จะช่วยให้เราประหยัดเวลาด้วยจ้า
3. อย่าอยู่นาน
เมื่อถึงที่หมายแล้ว พยายามเดินหาสินค้าที่เราจะซื้อตามรายการที่เขียนไว้ เมื่อเจอแล้วก็ให้รีบหยิบเลยค่ะ อย่าอยู่นานเพื่อถ้าเรายิ่งเดินเลือกนานๆ เราอาจจะเจอสินค้าที่เราไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อหรือสินค้าลดราคาที่หมดคุณภาพ อาจจะทำให้เราใช้จ่ายเกินงบได้
4. ยกแพคไปเลย
อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ไปซื้อของทีไรต้องซื้อยกแพค นั่นก็เป็นเพราะว่า เราจะได้จำนวนสินค้าที่มากกว่า แถมเมื่อหารแล้วยังมีราคาต่อหน่วยถูกกว่าซื้อทีละชิ้นสองชิ้นอีกด้วยค่ะ ของที่ชอบซื้อเป็นยกแพคก็อย่างเช่น ทิชชู่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยาสีฟัน ผ้าอนามัย สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาซักผ้า เป็นต้นค่ะ
5. พยายามพกบัตรเครดิตที่เป็นบัตรสะสมคะแนน
ถ้าหากเรามีบัตรส่วนลด สลิปส่วนลด ก็ให้เอามาด้วย ถึงจะเป็นแค่ 5 บาท 10 บาท ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลดนะคะ แถมยังสามารถใช้บัตรสะสมแต้มไว้ใช้ในการแลกส่วนลดในครั้งต่อไปอีกด้วยจ้า
ถ้าใครมีบัตรเครดิตที่ทำไว้กับห้างร้านใหญ่ อย่างของ เทสโก้ โลตัส ก็จะช่วยประหยัดได้อีก เพราะทุกๆการใช้จ่ายนั้นมีค่า สามารถเก็บไว้สะสมแต้มคะแนนแลกเป็นส่วนลดในครั้งต่อๆไปเช่น จ่ายทุกๆ 20 บาท ได้ 4คะแนน หรือ 1,000 คะแนนขึ้นไป สามารถแลกเป็นส่วนลดได้ 100 บาท เป็นต้น
แค่วิธีช้อปปิ้งง่ายๆ 5 ข้อนี้ ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ ไม่ยากเลย เห็นไหมล่ะค่ะ ว่าอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆนั้นต้องมีการวางแผนให้รอบคอบอยู่เสมอ ยิ่งถ้าเราไม่ได้มีรายได้มหาศาลหรือมีเหลือกินเหลือใช้ด้วยแล้ว ยิ่งต้องมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายให้มากขึ้นด้วยค่ะ เพราะถ้ามัวแต่ใช้จ่ายเกินตัว ไม่ประมาณตน ซื้อทุกอย่างที่อยากได้ อยากได้ทุกอย่างจนต้องซื้ออยู่แบบนั้น นานไปก็เห็นทีจะหนีไม่พ้นการตกเป็นทาสของเงิน เงินหมดความสุขก็หมด
ดังนั้นแล้ว การซื้อของช้อปปิ้งที่ใครมองว่าเป็นเรื่องง่ายๆ นั้น อาจจะไม่ได้ง่ายแบบที่คิด เพราะก็มีอีกหลายคนเหมือนกันค่ะที่ถึงจะมีเงินมากมายเท่าไหร่ แต่ขาดวินัยในการใช้จ่าย พอนานวันเข้าเงินเก็บเริ่มหายและร่อยหรอลงเรื่อยๆ หมดไปกับของฟุ่มเฟือยไร้ประโยชน์
โดยเฉพาะคุณผู้หญิงนักช้อป ถ้าใครที่กำลังเป็นอยู่ ให้ตั้งสติแล้วคิดใหม่นะคะ ถึงแม้จะรักสวยรักงามแค่ไหน ก็ต้องมีขอบเขตและรู้จักความพอดีค่ะ รองเท้าซื้อมาสิบคู่ใส่ได้จริงๆก็แค่วันละคู่ เสื้อผ้ามีสิบตัวใส่ได้จริงๆก็ทีละตัวเหมือนเดิม ถ้าอยากมีอนาคตที่ดีและมีเงินเก็บ ก็อย่าระมัดระวังเรื่องใช้เงินให้มากๆ อย่าให้เกินงบที่เราตั้งไว้นะคะ ขอเป็นกำลังให้ทุกๆคนค่ะ.