ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน มีหน้าที่การงานที่มั่นคง มีรายได้ประจำเดือน แต่เมื่อวันหนึ่งชีวิตเปลี่ยนผัน ต้องตกงานเนื่องจากสภาพวะเศรษฐกิจที่ยํ้าแย่ หลายคนต้องถูกเชิญให้ออกจากงาน หรือบางคนมองหางานใหม่ที่มั่นคง แต่ในระหว่างที่หางานใหม่ ก็พบว่าตนเองนั้นได้ก่อหนี้บัตรเครดิตไว้ แล้วจะทำอย่างไรดีละทีนี้ เพราะหนี้บัตรเครดิตก็ไม่มีวันหยุด ดอกเบี้ยทำงานทุกวัน ปัญหาของหนี้บัตรเครดิต เราได้กล่าวถึงอยู่บ่อยครั้ง แต่ในบทความนี้จะเป็นการพูดถึงหนี้บัตรเครดิตที่มาพร้อมกับการตกงาน แล้วจะจัดการหนี้อย่างไร
เจอคำถามว่าตกงานจะจัดการหนี้บัตรเครดิตยังไงดี นี่ต้องขอกุมขมับก่อนเลย ลำพังแค่มีงานทำมีเงินเดือนมีรายได้ บางทีเงินยังไม่ค่อยจะพอจ่ายหนี้ที่มีอยู่เลย แต่ถ้าตกงานด้วยทั้งที่ยังมีหนี้อยู่ ถึงได้ต้องกุมขมับแล้วค่อยคิดหาวิธีแก้ไขกัน
ความสะดวกสบายที่เราได้รับการจากใช้บัตรเครดิตเพื่อใช้จ่าย อีกทั้งบัตรเครดิตยังมีวงเงินให้เราใช้จ่ายได้มากถึง 1-2 เท่าของรายได้ต่อเดือนด้วย และบัตรเครดิตยังมีช่วงเวลาที่ไม่คิดดอกเบี้ยเป็นเวลาเดือนกว่า ๆ ทุกอย่างประกอบกันมีส่วนทำให้การใช้บัตรเครดิตของเรานั้นเกิดความเพลินได้ คนเป็นหนี้บัตรเครดิตก็คือคนที่ไม่ได้จ่ายเงินเต็มวงเงินบัตรเครดิตเมื่อถึงเวลากำหนดชำระเงินที่แจ้งไว้ในใบแจ้งหนี้ ทำให้เริ่มมีหนี้คงค้างอยู่ในบัตรเครดิตและต้องเริ่มจ่ายดอกเบี้ย หากหนี้นั้นมีไม่มากและเรารีบหาเงินมาชำระคืนภายในเวลาอันรวดเร็ว เช่น จ่ายคืนภายในงวดหน้าก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
แต่ปัญหาของหนี้บัตรเครดิตที่ทำให้หลายคนเกิดความกังวลก็เพราะหนี้นั้นเริ่มเยอะ หนี้เก่าก็ใช้ไม่หมดมีดอกเบี้ยทบไปเรื่อย ๆ ยังไม่พอยังมีการใช้บัตรเครดิตเพื่อรูดใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง หนี้ก็ค่อย ๆ ทบไปเรื่อยจนกลายเป็นบางครั้งเต็มวงเงินของบัตรเครดิตไม่สามารถใช้บัตรรูดซื้ออะไรได้อีกต่อไป คนที่ไม่ต้องการเสียเครดิตก็ทำได้ดีที่สุดก็เพียงแค่จ่ายขั้นต่ำตามที่แต่ละบัตรกำหนด เพื่อไม่ให้หนี้บัตรเครดิตกลายเป็นหนี้เสียเมื่อไม่จ่ายครบ 3 เดือน
ทีนี้เมื่อเกิดตกงานขึ้นมาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร บริษัทเลิกจ้าง บริษัทให้สมัครใจลาออก บริษัทปิดตัวไปเพราะพิษเศรษฐกิจหรือแม้แต่โดนไล่ออก เมื่อไม่มีงานทำก็แน่นอนว่าไม่มีรายได้ เงินที่เคยทำงานได้เป็นประจำทุกเดือนก็ต้องขาดหายไป แล้วหนี้บัตรเครดิตที่มีอยู่จะทำอย่างไรดี แค่เรื่องค่าใช้จ่ายที่จะกินจะใช้ก็เป็นกังวลมากพออยู่แล้ว คิดแล้วก็เครียดแทนคนเป็นหนี้แล้วต้องมาตกงานด้วยจริง ๆ
แต่จะมัวนั่งกังวลหรือเครียดอย่างเดียวก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร เมื่อชีวิตมีปัญหาก็ต้องหาทางแก้ปัญหาให้ได้ ลองดูข้อแนะนำต่อไปนี้ว่าสามารถนำข้อไหนไปใช้ได้บ้าง
หางานทำใหม่
แน่นอนว่าเมื่อตกงานแล้วก็ต้องหางานทำใหม่ ยิ่งหาได้เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีที่สุด ให้ช่วงเวลาที่เราว่างงานอยู่และไม่มีรายได้นั้นสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากเราไม่ได้เป็นหนี้เราอาจคิดว่าขอใช้เวลาพักผ่อนจากงานสักพักก่อนจะหางานใหม่อีกครั้ง แต่นี่เราเป็นหนี้อยู่เราจะคิดแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งเวลาผ่านไปหนี้ก็ยิ่งบานขึ้นเรื่อย ๆ รีบหางานจะได้หาเงินได้เร็วขึ้นมาจ่ายหนี้จะได้หมด ชีวิตเป็นไทเร็ว ๆ หากยังหางานใหม่ที่เป็นงานประจำทำยังไม่ได้ บางคนก็ใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปีกว่าจะหางานใหม่ได้ ให้ลองมองอาชีพเสริมอย่างอื่นที่เราสามารถทำได้เพื่อให้มีรายได้ไปก่อน เช่น ทำขนมขาย ขายของตามตลาดนัด ฯลฯ
นำเงินชดเชยที่ได้มาจ่ายหนี้บัตรเครดิต
หากการตกงานของเรานั้น เราได้รับเงินชดเชยจากบริษัทเนื่องจากการถูกเลิกจ้างหรือจะเป็นการให้สมัครใจลาออกเองก็ตาม หลังจากที่กันเงินส่วนหนึ่งไว้เผื่อเป็นค่าใช้จ่ายช่วงระยะเวลาที่เราคิดว่าจะหางานได้ เช่น 3 เดือนแล้ว เงินที่เหลือก็ให้นำมาจ่ายหนี้บัตรเครดิตเสีย เมื่อหนี้ลดลงดอกเบี้ยก็จะลดลง อนาคตเมื่อหางานทำได้ก็จะจัดการหนี้ได้ง่ายและเร็วขึ้น แต่วิธีนี้ก็เหมาะกับหนี้บัตรเครดิตที่เราคิดว่ายังสามารถจัดการได้อยู่ เป็นหนี้ก้อนไม่ใหญ่มากและคิดว่าเมื่อได้งานใหม่มีรายได้แล้ว ก็จะสามารถจ่ายหนี้ได้หมด
ขายทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อนำเงินมาใช้หนี้บัตรเครดิต
เมื่อตกงานไม่มีรายได้เงินที่จะนำมาจ่ายคืนหนี้ก็มองไม่เห็นทางว่าจะมาจากไหนได้ ให้ลองนึกถึงทรัพย์สินที่มีอยู่ในบ้านมีชิ้นไหนบ้างที่พอจะขายได้เงินเอามาใช้หนี้ได้ ก็พิจารณาขายไปก่อน แต่ทรัพย์สินที่จะขายก็ไม่ควรเป็นทรัพย์สินที่เราสามารถใช้เพื่อสร้างรายได้ในอนาคตให้กับเราได้ หากเป็นสร้อยคอทองคำหรือเพชร แบบนี้เราเลือกขายออกไปเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ก่อนได้ เอาไว้ในอนาคตหากใช้หนี้หมด ได้งานทำใหม่มีรายได้ค่อยหาซื้อกลับมาใหม่อีกครั้งก็ได้ ดีกว่ากอดทรัพย์สินเหล่านี้อยู่ แต่ต้องมาเสียประวัติเพราะติดหนี้บัตรเครดิต อนาคตจะกู้หนี้ยืมสินก็จะทำได้ยาก
ขอหยิบยืมญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงเพื่อมาปิดหนี้บัตรเครดิต
หากเราไม่มั่นใจว่าจะหางานใหม่ได้ในระยะเวลาอันสั้น ให้ลองนึกถึงการขอหยิบยืมญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงดู เปลี่ยนหนี้บัตรเครดิตให้เป็นหนี้ที่เราต้องไปจ่ายคืนกับคนที่เรารู้จักแทน โดยเราคงจะต้องเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการตกงานของเราให้เขาได้รับทราบด้วย หากมีญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงที่เห็นใจให้ความช่วยเหลือเราได้ ก็ถือเป็นความโชคดีของเรามาก ภายหลังเมื่อทำงานมีรายได้ก็ให้นำเงินไปทยอยคืนจนครบตามที่เราหยิบยืมมา
ประหยัด
ทันทีที่เราทราบว่าตกงานแถมยังมีหนี้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเราต้องตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทิ้งไปให้หมด ส่วนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องลองมานั่งดูว่ามีตรงไหนที่จะลดลงได้บ้างหรือไม่ ตรงไหนลดได้ควรลดทันที สิ่งนี้คือสิ่งจำเป็นเป็นการปรับพฤติกรรมในการใช้จ่ายของเราให้เหมาะกับภาวะตกงานของเรา เงินชดเชยที่ได้จากบริษัทหรือเงินที่เก็บออมมาจะได้สามารถใช้จ่ายได้ในช่วงเวลาที่ต้องหางาน ได้นานขึ้น การคิดหาทางออกอื่น เช่น หยิบยืมเพื่อนฝูงหรือคิดจะหยุดจ่ายหนี้ โดยที่ไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยการใช้จ่ายของตัวเองก่อน ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงคนใดที่จะอยากให้เรายืมเงินทั้งที่เขาเห็นชีวิตความเป็นอยู่ที่ฟุ่มเฟือยไม่ได้ประหยัดเลยของเรา จริงไหมคะ
หยุดการใช้บัตรเครดิต
เมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิตและไม่แน่ใจว่าจะมีเงินจ่ายคืนหรือไม่ อย่างไรก็ควรหยุดใช้บัตรเครดิตนั้นไว้ก่อน ไม่ควรสร้างหนี้เพิ่มขึ้น
เจรจาขอประนอมหนี้
หากหนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาตั้งแต่ก่อนตกงาน แถมพอมาตกงานก็ยิ่งดูจะเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นไปอีก เพราะแม้แต่ขั้นต่ำก็ไม่มีจ่ายแทบไม่ต้องคิดว่าจะสามารถจัดการกับหนี้ก้อนนี้ได้ในอนาคต แบบนี้คิดว่าการขอเจรจาประนอมหนี้กับทางธนาคารจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยให้โทรไปพูดคุยเล่าเรื่องราวให้ธนาคารฟังแล้วดูว่าเขาจะเสนอทางเลือกอย่างไรให้เราได้บ้าง แต่หากตกลงกันไม่ได้ธนาคารเขาไม่ยอม เราคงต้องหยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิตทันที เพราะเมื่อถึงตอนนี้หากจะต้องเสียประวัติเสียก็คงต้องยอม รอจนถึงขั้นตอนที่ธนาคารฟ้องศาลแล้วค่อยรอไปไกล่เกลี่ยที่ชั้นศาลอีกครั้งหรือจะต้องฟ้องร้องอะไรกันก็แล้วแต่ ก็ให้เป็นเรื่องของศาลตัดสินไป ในระหว่างนั้นเราก็ไม่ต้องจ่ายหนี้ ประหยัด หางานใหม่ทำ เก็บเงินรอไว้เลย เมื่อถึงเวลาจ่ายเป็นก้อนเดียวตอนเรื่องถึงศาลก็จบง่ายกว่า
ชีวิตที่ไม่มีหนี้เป็นชีวิตที่ประเสริฐนัก ถ้าไม่จำเป็นอย่าสร้างหนี้เด็ดขาด จำเป็นคือจำเป็นจริง ๆ ไม่ใช่อะไรก็จำเป็นไปเสียทั้งหมด เพราะชีวิตคนเราไม่แน่นอน เมื่อมีหนี้ก็ไม่แน่หรอกว่าเราจะสามารถจ่ายหนี้นั้นคืนได้แน่นอนหรือไม่ อย่างกรณีตกงานแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องหาทางแก้ไข ยังไงหากคนไหนมีปัญหาอยู่ก็ขอให้สามารถแก้ปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ท้ายที่สุดการจัดการหนี้ ควรเริ่มจากการตัดสินใจละทิ้งบางสิ่งที่ไม่ได้ก่อเกิดรายได้ แล้วหันมาบริหารชีวิตของตนเองในด้านการเงินให้มีวินัยมาขึ้น และตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินรายเดือน ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากหนี้ ขอให้เป็นบทเรียน แต่สิ่งสำคัญคืออย่าหนี้ปัญหา เพราะการเผิกเฉยต่อหนี้ที่เกิดขึ้น จะยิ่งทำให้ยากต่อการแก้ไขจัดการ และท้ายที่สุดอาจจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้ เวลานี้ควรเป็นเวลาที่กลับมาเริ่มต้นใหม่และบริหารการเงินให้รอบคอบ