เคยคิดหรือไม่ว่าคุณจะมีอายุขัยกี่ปี และตอนนี้คุณมีอายุเท่าไหร่กันแล้ว เคยถามตัวเองไหมว่าที่ผ่านมามีเงินเก็บอยู่เท่าไหร่ และเงินที่มีอยู่นั้นจะสามารถใช้ได้นานเท่าไหร่ในยามที่ไม่มีรายได้
จากสถิติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่จะมีอายุเฉลี่ย 80 ปี แน่นอนว่าถ้าดูจากจำนวนปีเริ่มเก็บเงินในวัยเริ่มทำงาน ช่วงอายุ 20 กว่าปี ก็น่าจะมีเงินพอให้ใช้ในวัยเกษียณ แต่อย่าลืมไปว่าช่วงอายุ 20 นั้นเป็นช่วงที่เรามีการใช้จ่ายเงินหลายทาง ทั้งการสร้างฐานะ สร้างครอบครัว และการใช้จ่ายอื่นๆ รู้ตัวอีกทีคุณก็อาจจะอายุปาเข้าไป 40 กว่าแล้ว ถึงจะได้ เริ่มออมเงิน ซึ่งห่างจากเวลาที่ต้องเกษียณเพียง 20 ปีเท่านั้น คุณคิดว่าจะเก็บเงินได้ทันหรือไม่ ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่าอะไรที่ทำให้เราต้อง เริ่มออมเงิน ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
- เพื่อความสะดวกสบายในอนาคต
ชีวิตที่สุขสบายหลังวัยเกษียณนั่นล่ะคือเหตุผล ความสะดวกสบายเป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายๆคนใช้เงินแลกมา แต่เงินนั้นสร้างได้ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อถึงวัยที่เราต้องปลดเกษียณนั่นแหละที่เราต้องเริ่มใช้เงินเก็บ แลกกับความสะดวกสบาย จึงควรเก็บเงินให้มาก ในอนาคตข้างหน้าคุณจะได้ไม่ลำบากในยามที่ไม่มีรายได้แล้ว
- เผื่อฉุกเฉิน
ในชีวิตของคนเรานั้นมักจะมีเรื่องฉุกเฉินให้ใช้เงินอยู่ตลอดเวลา ดั้งนั้นถ้าเราไม่มีเงินสำรองไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องใช้เงิน เราอาจต้องนำเงินในอนาคตมาใช้ ซึ่งสิ่งสำคัญคือเมื่อนำเงินในอนาคตมาใช้แล้ว ต้องนำเงินจำนวนนั้นกลับไปคืนด้วยเท่านั้นเอง ถ้าให้ดีควรเก็บออมเงินในส่วนนี้แยกจากค่าใช้จ่ายประจำในแต่ละเดือน เพื่อไม่ให้เผลอใช้ไปโดยไม่ตั้งใจ เมื่อถึงเวลาจำเป็นจะได้มีเงินสำรองใช้ โดยไม่จำเป็นต้องหยิบยืมเงินในอนาคต
- เก็บไว้เพื่อป้องกันการเป็นหนี้
สิ่งที่ตามมาจากการเป็นหนี้สินก็คือดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้เงินที่เราต้องคืนเจ้าหนี้นั้นมีจำนวนสูงกว่าเงินที่เรากู้ยืมมา แทนที่จะได้นำเงินส่วนต่างนั้นไปลงทุนอย่างอื่นให้งอกเงย กลับต้องนำไปใช้ในเรื่องที่ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาได้เลย เพราะฉะนั้นไม่ควรสร้างหนี้สินเป็นอันขาด วิธีหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการกู้ยืมหนี้สินได้นั้นก็คือ การเก็บเงินสำรองไว้ วิธีนี้จะช่วยให้ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินเมื่อมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินนั่นเอง
- เก็บเพื่อเที่ยว
แน่นอนว่าเมื่อมีเงิน จะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีเงินซื้อหาความสุขให้ตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวตามสถานที่สวยๆงามๆ พักในโรงแรมดีๆ รับประทานอาหารดีๆ เดินทางกับสายการบินดีๆ ก็สามารถซื้อหาได้ทั้งนั้นถ้าเรามีเงิน ซ้ำยังไม่ต้องกังวลด้วยว่าค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวจะกระทบกับค่าใช้จ่ายรายเดือน เนื่องจากเงินในส่วนนี้เป็นเงินเก็บ ไม่ใช่เงินที่จัดสรรไว้เป็นค่าใช้จ่ายประจำ แต่ผู้ที่ไม่ได้มีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายในส่วนนี้ แล้วต้องนำเงินเดือนมาใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ระวังปัญหาทางการเงินจะถามหา
- ได้ซื้อของที่อยากได้
สมัยที่ยังไม่มีรายได้เคยอยากได้อะไร เมื่อมีเงินเก็บจากการทำงานก็สามารถซื้อหาได้โดยไม่มีใครว่าแล้ว ดังนั้นหากคุณอยากได้ของสักชิ้น ลองตั้งเป้าหมายและเก็บเงินแยกจากเงินออมเพื่อซื้อสิ่งนั้นดู เพียงแค่นี้ก็ทำให้ฝันเป็นจริงได้โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายประจำแล้ว
- ซื้อของขวัญให้กับคนพิเศษ
เชื่อว่าทุกคนต่างก็อยากมอบสิ่งที่ดีสุดให้กับคนพิเศษของตนเองอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่ยังไม่มีรายได้หรือยังไม่มีเงินเก็บนั้น การประดิษฐ์ของขวัญ DIY ให้คนพิเศษในโอกาสสำคัญอาจเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ผู้มีรายได้หรือมีเงินเก็บแล้วก็อาจมีทางเลือกเพิ่มขึ้น โดยการใช้เงินซื้อหาของขวัญที่รู้ว่าคนพิเศษของเราต้องการ ดังนั้นเงินเก็บในส่วนนี้อาจจะแยกออกมาจากเงินเก็บปกติก็ได้ เพื่อความสุขของคนพิเศษในโอกาสพิเศษ
7. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
อย่างที่เรารู้ๆกันว่าราคามักจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพของสิ่งต่างๆ สิ่งที่ดีที่สุดมักจะมีราคาแพง และคุณภาพจะลดหลั่นไปตามราคา การใช้เงินเพื่อซื้อหาสิ่งดีๆ จึงถือเป็นการซื้อคุณภาพชีวิตในแบบหนึ่ง และการที่จะซื้อหาสิ่งเหล่านั้นได้ก็จำเป็นจะต้องมีเงินออม เพราะฉะนั้นการออมเงินจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรขาด
เห็นความสำคัญของการเก็บออมเงินกันแล้วใช่ไหม ใครที่ยังไม่ได้ เริ่มออมเงิน ควรเริ่มได้แล้ว มิเช่นนั้นอาจมีเงินไม่พอใช้ในวัยเกษียณ นอกจากนี้คุณควรเก็บเงินออมให้ได้ทุกเดือนโดยปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัย เพียงเท่านี้อิสรภาพทางการเงินในวัยเกษียณก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้วล่ะ