เกิดความไม่เข้าใจกันไม่เบาเลยนะคะเกี่ยวกับ ธุรกิจ SME และเชื่อได้เลยนะคะว่าหลายคน หรือแทบทุกคนกันเลยนั่นเองคงจะเคยผ่านตาหรือได้ยินกันมาบ้างแล้ว แต่หลายคนได้ปล่อยปละเลยไปอย่างน่าเสียดาย แต่ในวันนี้โลกยุคนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ถ้าจะละเลย หรือมองข้ามไปไม่ได้อีกต่อไปแล้วนะคะ เพราะจัดได้เลยว่า SME มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของเรากันมากขึ้นนั่นเองค่ะ
SME เป็นธุรกิจชนิดหนึ่งนั่นเองค่ะที่ทำการดำเนินกิจกรรมทางด้านการผลิต จำหน่าย ที่มีขนาดย่อม เป็นธุรกิจที่มีความเป็นอิสระ มีเอกชนเป็นเจ้าของไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพล ของบุคคล หรือธุรกิจอื่น มีต้นทุนในการดำเนินงานต่ำ และมีพนักงานจำนวนไม่มากนั่นเอง
โดยธุรกิจ SME นี้ช่วยในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากธุรกิจขนาดย่อมช่วยให้เกิดการกระจายรายได้จากกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ ไปสู่กลุ่มคนต่าง ๆ ทำให้เกิดการจ้างงานและประชาชน มีรายได้ ซึ่งเป็นตัวช่วยให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมดีขึ้น อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจขนาดใหญ่เพราะความเจริญก้าวหน้าของธุรกิจขนาดย่อมทำให้ธุรกิจมั่นคงมียอดการผลิตที่สูงขึ้น และมีการนำเทคโนโลยี ที่สูงขึ้นมาใช้ในการผลิตซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นฐานไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นแหล่งผลิตสินค้าใหม่ ๆ เป็นการรวมกลุ่มของบุคคลร่วมกันคิด และผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาสู่ตลาด โดยที่ธุรกิจขนาดใหญ่ไม่กล้าเสี่ยง ต่อการลงทุน
ปัจจุบันนี้ในประเทศไทย ได้มีกฎหมายธุรกิจSME ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วนะคะโดยที่กิจการที่ดำเนินงานเกี่ยวกับการผลิตหรือบริการ มีมูลค่าทรัพย์สินถาวรไม่เกิน สองร้อยล้านบาท มีการจ้างงานไม่เกิน สองร้อยคนกิจการค้าส่ง ที่มีทรัพย์สินถาวรไม่เกิน หนึ่งร้อยล้านบาท มีการจ้างงานไม่เกิน ห้าสิบคนกิจการค้าปลีก ที่มีมูลค่าทรัพย์สินถาวรไม่เกิน หกสิบล้านบาท มีการจ้างงานไม่เกิน สามสิบคนนะคะ
สมัครสินเชื่อซิตี้เพื่อลงทุนธุรกิจวันนี้
รับเงินก้อนรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์
สังเกตได้เลยนะคะว่าธุรกิจ SME มีความสำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียวในยุคเทคโนโลยี้แบบนี้ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ทำอะไร หรือจะมีเหตุการณ์ในรูปแบบไหน ธุรกิจ SME ยังสามารถครอบความเป็นธุรกิจได้เป็นอย่างดีเลยนั่นเอง โดยทั่วไปแล้วธุรกิจ SME ครอบคลุมกิจการ 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
- กลุ่มการผลิต ธุรกิจ SME นี้สามารถครอบคลุมการผลิตทั้งในภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และเหมืองแร่ ได้เป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นด้านแรงงาน กำลังคน หรือตัวธุรกิจเอง
- กลุ่มการค้า ครอบคลุมการค้าส่ง และการค้าปลีก ได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นนำเข้า ส่งออก หรือการค้าภายในประเทศ
- ครอบคลุมในกลุ่มการบริการด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกำลังทรัพย์ หรือกำลังคน ก็คงจะไม่พ้น ธุรกิจ SME อย่างแน่นอนเลยนั่นเองค่ะ
ข้อสงสัยที่สามารถพบได้บ่อยครั้งเลยนะคะสำหรับธุรกิจ SME ว่าจะสามารถจำแนกได้อย่างไร รูปแบบไหน หรือสามารถจำแนกได้หรือไม่ วันนี้ลองมาฟังคำชัดเจนเพื่อคลายความข้องใจกันดีกว่านะคะ โดยปกติแล้วจากการได้ศึกษามานั้นพบว่ามีการจำแนกกิจการของ SMEs เอาไว้อย่างแท้จริงนั่นเองค่ะ โดยอาศัยเกณฑ์ที่ใช้ในการจำแนกกิจการของ SMEs ว่าจะเป็นวิสาหกิจขนาดกลางหรือขนาดย่อม คือ มูลค่าชั้นสูงของสินทรัพย์ถาวร และจำนวนการจ้างงานของธุรกิจ หรือสถานที่ประกอบการณืต่างๆนั่นเองค่ะ
การจำแนกประเภทของ SMEs โดยใช้มูลค่าชั้นสูงของสินทรัพย์ถาวร สามารถจำแนกได้ดังนี้
1. การจำแนกในรูปแบบการผลิต วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกิน 200 ล้านบาท วิสาหกิจขนาดเล็กไม่เกิน 50 ล้านบาท
2. การจำแนกในรูปแบบการบริการ วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกิน 200 ล้านบาท วิสาหกิจขนาดเล็กไม่เกิน 50 ล้านบาท
3. การค้า ค้าส่ง โดยมีเกณฑ์การจำแนกอยู่ที่ วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกิน 100 ล้านบาท วิสาหกิจขนาดเล็กไม่เกิน 50 ล้านบาทและค้าปลีก การจำแนกจะอยู่ที่วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกิน 60 ล้านบาท วิสาหกิจขนาดเล็กไม่เกิน 30 ล้านบาท
การจำแนกประเภทของ SMEs โดยใช้เกณฑ์จากจำนวนการจ้างงาน สามารถจำแนกได้ดังนี้
1. การผลิต วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกิน 200 คน วิสาหกิจขนาดเล็กไม่เกิน 50 คน
2. การบริการ วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกิน 200 คน วิสาหกิจขนาดเล็กไม่เกิน 50 คน
3. การค้าส่ง วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกิน 50 คน วิสาหกิจขนาดเล็กไม่เกิน 25 คน และ ค้าปลีก : วิสาหกิจขนาดกลางไม่เกิน 30 คน วิสาหกิจขนาดเล็กไม่เกิน 15 คน
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเป็นที่แน่นอนเลยนะคะว่า ธุรกิจ SME ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยในสังคมไทยในปัจจุบัน โดยข้อดีของธุรกิจประเภทนี้เป็นการสร้างรายได้แก่บุคคลทั่วไป สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทย หรือจะเป็นการสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นในระบบการเงิน ระบบธุรกิจ ทำให้นักลงทุนต่างก็และเลือกที่จะมาลงทุนในไทยเพิ่มยิ่งขึ้น
อีกทั้งตลาดแรงงานที่สามารถสร้างรายได้แก่ประชากรภายในประเทศได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้การลงทุนต่างๆไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดย่อมอย่าง SME หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ย่อมเกิดความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้นนะคะ ทั้งขึ้นอยู่กับความสามารถหรือการจัดการกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น แต่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยนะคะว่าธุรกิจขนาดย่อม อย่าง SME มักเกิดความเสี่ยง หรือการเสียหายที่น้อยมาก