มนุษย์…..คืออะไร?
คำนิยามของคำว่ามนุษย์มันคืออะไรสำหรับฉันเอง คำว่ามนุษย์ไม่ต่างจาก “มด” สักเท่าไหร่นักหรอก ต้องดิ้นรนสู้ชีวิตเพื่อให้ได้สิ่งตอบแทน สำหรับมด มดมันก็ต้องการสิ่งตอบแทนเพื่อตัวมันเองเช่นกัน ต่างกันที่มนุษย์นั้นไม่ได้ต้องการ อาหาร เป็นสิ่งตอบแทน แต่ต้องการ เงิน เป็นสิ่งตอบแทน ความขยันของมนุษย์ยังน้อยกว่ามดหลายร้อยหลายพันเท่า แต่ทำไมมดต้องการเพียงแค่ความอยู่รอด ทั้งๆที่ทำงานหนักกว่ามนุษย์หลายเท่า แต่สำหรับตัวมนุษย์เองต้องการความสุขความสบายมากกว่ามดแค่อาหารไม่พอ ทั้งๆที่ทำงานน้อยกว่ามดหลายเท่าตัว สำหรับมนุษย์ยังคงต้องการความสุข ความสุขที่ต้องใช้เงินซื้อเพื่อให้ได้ความสุขมาเป็นของตัวเองในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ในชีวิตนี้มนุษย์ต้องการอะไรบ้างในการดำรงชีวิต
ถ้าแบ่งแยกประเภทได้ก็คงมีอยู่ไม่กี่อย่าง เงินทอง ชื่อเสียง ความมีหน้ามีตา ความโด่งดัง มีความสุข อิ่มบุญ ใช้ช่วงบั้นปลายชีวิตอย่างผาสุก มีครอบครัว มีคนรักที่ดี เรียนในที่ดีๆ ข้ามประเด็นมาเรื่องของการเรียนในปัจจุบันก่อนซึ่งเรานั้นต้องยอมรับความจริงได้แล้วว่า แนวทางชีวิต ในสมัยโบราณ ที่บรรพบุรุษของเรานั้นเคยสั่งเคยสอนมามันใช้ไม่ได้เรื่องอีกต่อไปแล้ว คำพูดที่บอกว่า “อนาคตตั้งใจเรียนจะได้ทำงานดีเงินดีๆ” งานที่ว่าดี ดีนี่ดีมากน้อยแค่ไหน? ยกตัวอย่าง บางคนจบปริญญามา จ่ายเงินหมดไปเป็นล้าน แต่ได้อะไรกลับมา?? บางคนตกงาน เฮ้ย!!!! เป็นไปได้หรอ ตกงาน จบปริญญาแต่ตกงาน
เป็นไปได้ สมัยนี้มีเยอะแยะถมเถไป ขนาดว่าจบปริญญา พูดถึงปริญญาต้องถามว่าปริญญาอะไรสมัยนี้ปริญญาตรีบางคนยังไม่มีงานทำ นี่สรุปคือเสียเงินค่าเทอมเรียนไปทำไมเนี่ย ถ้าไม่สามารถเอาวิชาความรู้มาใช้ในการดำรงชีพได้จริงๆ หรือบางคนจบมามีงานทำ สตาร์ทหน่อยเงินเดือน 15,000 ทำงานรับใช้บริษัท บริษัทรวย คนอื่นรวย ตัวเองทำงานแทบตายเงินเดือน 15,000 ถือว่าเยอะแล้วบางคน 12,000 หรือบางคน 9,000 ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าเงินเดือนน้อย มันไม่พอ แต่ประเด็นคืออยู่ที่ว่าเงินเดือน 15,000 ใช้ยังไงให้มันพอ! ดิฉันไม่ได้จะบอกว่า การที่เรียนนั้นมันจะทำให้เจอแต่ผลลัพธ์ในแง่ลบไปซะหมด แต่เรียนแล้วต้องรู้จักเอาตัวเองให้รอดด้วยแค่เอาแต่เรียนๆไปผลาญเงินพ่อเงินแม่ไปโดยไร้ประโยชน์ จบมาได้งานทำมา สร้างภาระให้ตัวเองแทนที่จะได้ตอบแทนพ่อแม่
เพราะในปัจจุบัน มนุษย์เงินเดือนทุกๆวันนี้ มีงานอดิเรกของตัวเอง งานอดิเรกที่ว่านั้นคืองาน “ผ่อน” ผ่อนไปหมดชีวิตนี้ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เพื่อให้สบายใจในวันนี้ แต่ต้องเหนื่อยแทบตายในวันหน้าและเผลอๆไม่รู้ว่าอนาคตจะจ่ายหมดรึเปล่าไม่รู้ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ บางคนหนักหน่อยหนี้บัตรเครดิตหลายใบกันเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นควรจะต้องประเมินตัวเองได้แล้วว่า เงินเดือนที่ได้มา มันพอไหม?? พอกับการใช้ชีวิตในแบบของเรา แล้วรึยัง ถ้าคำตอบว่าพอ ขอแสดงความยินดีด้วยเพราะคุณเป็น 10%ของ 100% ที่รู้จักคำว่าพอ และปรับตัวเองตามสถานการณ์นั้นได้อนาคตไม่ลำบากแน่ 15,000 ถ้าไม่สร้างภาระก็ไม่เป็นปัญหา ยกตัวอย่าง สถานที่พัก เปลี่ยนจากเช่าคอนโดหรูๆ ห้องพักราคา 5 – 6 พันมาเป็น เดือนละ 1000 – 2000 ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้เยอะ เบ็ดเสร็จค่าน้ำค่าไฟ แล้วก็ยังเหลือ ค่ากิน เดินทางไปทำงาน เปลี่ยนจากนั่งรถยนต์ที่ต้องผ่อนไปทำงาน มานั่งรถเมล์ ประหยัดค่าน้ำมัน ไอ้เรื่องผ่อน บ้าน ผ่อนรถ ตัดประเด็นไปได้เลย แต่บางคนมีภาระคือครอบครัว จริงๆแล้วแบบแผนมันผิดหลักการดำรงชีวิตมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเลือกที่จะรวบรัดมีครอบครัวก่อนที่ตัวเองนั้นจะมีทรัพย์สินเงินทองพอที่จะเลี้ยงลูก หรือดูแลครอบครัวเสียอีก เด็ก 1 คน กว่าจะโตมาต้องจ่ายค่าผ้าอ้อม ค่าอาหารการกิน ไหนจะค่าเทอมตั้งเท่าไหร่ อนาคตไม่ใช่แค่ให้คิดว่า เราต้องสบาย แต่คุณต้องคิดด้วยว่า เราต้องไม่ลำบาก หลายๆคนคิดแค่ว่าเราต้องสบาย ต้องสบาย ในอนาคตแล้วเป็นยังไง? หลงกับดักตัวเอง ผ่อนบ้านดาวน์รถซะได้เพราะความอยากสบายก่อนกำหนด สุดท้ายแล้วก็ต้องมาลำบากเพื่อให้สบายในอนาคต
หลักการเดินทางที่ถูกต้องจริงๆแล้ว คือ ลำบากในวันนี้ สบายในวันหน้า หมดปัญหาค่าใช้จ่ายในอนาคต ในอนาคตไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆ หรือต่อให้มีค่าใช้จ่ายก็ไม่กังวลเพราะปัญหานั้นเราได้ตัดมันไปตั้งแต่แรกแล้ว หลายๆคนบอกว่า “อยากรวย” รวยแล้วจะมีความสุข คุณรู้ได้อย่างไรว่าคนรวยมันมีความสุข ความสุขของคนรวยคืออะไร คือการใช้เงิน แล้วนอกจากการใช้เงินละ ความสุขของคนรวยคืออะไร? อิจฉาจังคนที่เขาเดินห้างซื้อของแพงๆใช้ มีเงินมากมายไปเที่ยวต่างประเทศถ่ายภาพลงfacebook อัพเดตภาพอาหารอร่อยๆ คงจะต้องมีความสุขมากแน่ๆเลย เห็นแบบนี้ ตอนนี้คนพวกนี้อาจจะกำลังนั่งกินมาม่าอยู่ห้องก็ได้ อย่าอิจฉา และอย่าคิดว่าแบบนั้น แบบนู้นต้องมีความสุข การใช้เงินแบบฟุ่มเฟือยไม่ทำให้คนเจริญหรอก และที่สำคัญหากไม่รู้จักความลำบากก็จะไม่รู้จักคุณค่าของเงิน เงินที่เขาใช้ซื้อของ ถ่ายภาพที่ต่างประเทศ ตอนนี้คนพวกนี้อาจจะกำลังเป็นหนี้หรือมีปัญหาบัตรเครดิตร่วมสิบใบก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าคิดไปเองว่าคนพวกนี้จะมีความสุขแบบที่สุขจริงๆ บางคนถึงกับบอกว่า ฉันมันไม่รวย ฉันมันไม่สวยเหมือนเขา ฉันมันไม่โด่งดัง ฉันมันไม่มีอะไรในชีวิตเลย เงินเก็บฉันก็ยังไม่มี
อย่า…… อย่าเอาบรรทัดฐานของคนอื่นมาเป็นบรรทัดฐานของตัวเราเอง อยากรวยก็ขยันๆ หาเงิน ทำงานลำบากตอนนี้แต่สบายในอนาคต ที่สำคัญอาจจะใช้ระยะเวลานานหน่อย และมีอุปสรรคกว่าร้อยกว่าพันอุปสรรคเหมือน Mission ให้เรานั้นได้ทำลายมัน คุณคิดว่าคุณสู้ไหวไหมละ??