คุณ ลี กาชิง หรือในภาษาอังกฤษว่า Li Ka-shing นั้นเป็นบุคคลที่ค่อนข้างใกล้ตัวชาวเอเชียอย่างเราคนไทย เพราะว่าเขาเป็นนักธุรกิจมากความสามารถแห่งเกาะฮ่องกง เป็นทั้งนักลงทุนและยังมีบทบาทในด้านการกุศลที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง จากข้อมูลของ Wikipedia เกี่ยวกับทรัพย์สินของเขาเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2557 นั้น เขาเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดของเอเชียด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 31.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากข้อมูลเพียงเท่านี้ก็เพียงพอต่อการเป็นบุคคลที่ควรแก่การรู้จักและเรียนรู้แนวคิดทางธุรกิจจากเขา
ลี กาชิง ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยในวัยเด็ก เขาก็เป็นเหมือนคนธรรมดาที่ค่อนข้างยากจนด้วยซ้ำ ประวัติของเขามักจะถูกนำไปเขียนด้วยคำว่า “เริ่มจำศูนย์…” ลี กาชิง เกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 1928 ถ้านับมาถึงปี พ.ศ. 2558 เขาก็มีอายุ 87 ปีแล้ว เรื่องราวของเขามีความน่าสนใจและเป็นกำลังใจให้กับคนธรรมดาได้อย่างมาก เพราะสร้างธุรกิจขึ้นมาจากขั้นพื้นฐาน ทำให้คนเรามีความฝันที่จะทำได้แบบลี กาชิง เช่นกัน ไม่มากก็น้อย
ธุรกิจต่าง ๆ ของ ลี กาชิง จะเกี่ยวข้องกับการสื่อสารโทรคมนาคม ท่าเรือ อสังหาริมทรัพย์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ด้วยความที่มีหลากหลายธุรกิจนี้เองจึงถูกเรียกขานว่าเป็นอาณาจักรแห่งธุรกิจได้อย่างภาคภูมิ เพราะเป็นธุรกิจที่สร้างผลกระทบให้กับคนได้จำนวนมาก จนถึงขั้นมีฉายาว่า ”ซุปเปอร์แมนลี” ทีเดียว ถ้าให้เทียบเคียงให้เห็นภาพ ก็ลองนึกถึงเครือข่ายของ CP บ้านเราที่มีธุรกิจหลาย ๆ ด้านทั้งอาหารสัตว์ การเกษตร การสื่อสารโทรคมนาคม เป็นต้น
แนวคิดที่มีชื่อเสียงของ ลี กาชิง ก็คือการจัดสรรเงินเป็น 5 กอง ซึ่งคงเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว จึงไม่ได้ลงรายละเอียดในบทความนี้ แต่จะกล่าวถึงแนวคิดรวบยอดซึ่งเป็นความหมายที่อยู่ระหว่างบรรทัดดังนี้
คนเราต้องรู้สถานะตัวเอง
คุณกำลังเป็นคนจนหรือเป็นคนรวย ลี กาชิง ให้ข้อคิดสำหรับคนทั้งสองสถานะ เมื่อจนอยู่แต่ปฏิบัติตัวถูกต้องก็รวยได้ เมื่อรวยแล้วแต่ปฏิบัติตัวผิดพลาดก็จนลงได้ ดังนั้นการกระทำในแต่ละสถานะจะต้องแตกต่างกันออกไป ยิ่งจนต้องยิ่งขยัน ต้องรู้จักคนให้มาก ต้องกล้าลุยทำงานหนัก เมื่อร่ำรวยแล้วก็ต้องระวังตัวไม่อวดความร่ำรวยหรือฟุ้งเฟ้อ
ความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์
แม้คนส่วนใหญ่จะรู้อยู่แล้วว่าการคบใครสักคนมีความสำคัญมาก และคนคนนั้นจะต้องสามารถดึงตัวเราให้สูงกว่าและดีกว่าเดิม แต่ ลี กาชิง จะลงรายละเอียดไปถึงการปฏิบัติแม้แต่การไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ก็ไม่ใช่ไปกินข้าวธรรมดา แต่ควรจะเป็นโอกาสที่จะได้พบปะคนที่เก่งกว่า มีความสามารถและให้คำแนะนำอะไรดี ๆ ได้
การศึกษา
ลี กาชิง ให้ทรรศนะว่าคนเราต้องศึกษาและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา การศึกษาจะทำให้ทันโลกและกระแสของการเปลี่ยนแปลง สิ่งนี้ต้องทำทุก ๆ วันจะละเลยไปไม่ได้ เมื่อพิจารณาดูแล้วก็เห็นจะจริงและคนเราต้องยิ่งศึกษาให้มากขึ้นในยุคปัจจุบันเพื่อไม่ให้ตกไปในกระแสของสื่อต่าง ๆ ความบันเทิงมากเกินไป
การเปิดประสบการณ์
ลี กาชิง เน้นให้เก็บเงินสำหรับการไปท่องเที่ยวบ้างเพื่อเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ การเห็นโลกต่างแดนหรือต่างสถานที่ ยิ่งเป็นการขยายขอบเขตของความรู้หรือที่เรียกว่าโลกทัศน์ การได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่แปลกใหม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการวางแผนธุรกิจได้ และช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น
ความมัธยัสถ์ อดออม
อยากรวยก็ต้องรู้จักประหยัด เลือกใช้จ่ายแต่ในสิ่งที่มีคุณค่า อะไรที่เป็นของฟุ่มเฟือยหรูหราก็ต้องหลีกเลี่ยง แนวคิดนี้มีความสำคัญมากกับการใช้ชีวิต การใช้เงินในสิ่งที่ให้คุณประโยชน์ เช่น การศึกษา หรือการลงทุนให้มีเงินมากขึ้นก็เป็นสิ่งควรทำมากกว่าการซื้อของเพื่อความโก้เก๋ เช่น แฟชั่นกระเป๋าราคาแพง ๆ หรือรถยนต์หรู เป็นต้น
สุขภาพที่ดี
แม้ว่าลี กาชิง จะเสนอแนวคิดให้มัธยัสถ์ กินอาหารแบบประหยัดก็จริง แต่เขาก็บอกด้วยว่าต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ ได้ฟังแบบนี้แล้วก็นึกถึงอาหารสมัยใหม่ หลายอย่างนอกจากไม่ประหยัดแล้วยังไม่ส่งเสริมสุขภาพอีกด้วย เห็นได้ว่าลี กาชิง ได้ให้แนวคิดที่รอบด้านและรอบคอบจริง ๆ
ลี กาชิง เป็นแบบอย่างของบุคคลที่ใช้ชีวิตเริ่มต้นมาจากความยากลำบาก ดังนั้นแนวคิดของเขาจะช่วยให้กำลังใจกับผู้คนว่าอย่าได้ท้อถอย แม้มีเงินเดือนน้อยหรือรายได้น้อยก็อย่าหมดหวังหมดกำลังใจ ยิ่งจนต้องยิ่งพากเพียรพยายามให้มากขึ้น และคอยสำรวจพัฒนาตนเองอยู่เสมอเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับชีวิต เพราะลี กาชิง เองก็เป็นแบบอย่างของบุคคลที่สามารถก้าวพ้นฐานะยากจนมาสู่ฐานะร่ำรวยได้ ด้วยความขยันศึกษาหาความรู้ ความหนักเอาเบาสู้ รู้จักคบคนเก่งสร้างเครือข่ายทางสังคมและธุรกิจไปพร้อม ๆ กับการทำงาน (ไม่ใช่ทำงานให้รวยแล้วค่อยมาสร้างสังคม)
สำหรับการดำเนินธุรกิจของ ลี กาชิง นั้น เขาจะคำนึงถึงการให้บริการลูกค้าอย่างดี และทำให้ลูกค้าพอใจเกินความคาดหวังเสมอ อย่างเรื่องเล่าดอกไม้ 101 ดอกที่มีชื่อเสียงที่ทำให้ลูกค้าแปลกใจว่ามีดอกไม้เกินมากล่องละ 1 ดอก ถ้าคุณกำลังให้บริการลูกค้าและทำให้ลูกค้ามากกว่าที่เขาคาดหวังไว้ เขาย่อมประทับใจคุณแน่นอน แนวคิดง่าย ๆ อย่างนี้เองแต่ได้ผลกลับมาแบบประเมินค่าไม่ได้
แนวคิดต่าง ๆ ของลี กาชิง ทำให้ตระหนักได้ว่าคนเราต้องอย่าประมาทในการใช้ชีวิต ไม่ใช่ว่าจนแล้วจะทอดอาลัย หรือรวยแล้วก็ฟุ้งเฟ้อ แต่ต้องเป็นการสร้างตัวตนจากภายใน ต้องมีความรู้ความสามารถในการทำงานและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่สำคัญว่าตอนนี้คุณจะอยู่ในฐานะมนุษย์เงินเดือน ลูกจ้าง หรือผู้บริหาร คุณก็สามารถนำแนวคิดการสร้างตัวด้วยความอดทนและใฝ่รู้ของลี กาชิง ไปใช้ได้ทั้งนั้น เขาจึงเป็นยอดคน และเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การเป็นแบบอย่างให้ศึกษาผู้หนึ่ง