ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่คุณจะมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น ถ้าอยากลดค่าใช้จ่าย แล้วเพิ่มเงินเก็บให้กระเป๋าตุงก็ทำได้ไม่ยาก แค่ต้องอาศัยเคล็ดลับนิดหน่อยเท่านั้น
เนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายของใครหลายคน จนยอดเงินติดลบแทบทุกเดือน ตอนนี้คงกำลังมองหาวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายกันอยู่ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นลองมาดูเคล็ดลับประหยัดค่าใช้จ่ายที่เรานำมาฝากต่อไปนี้ดีกว่า รับรองเลยว่าคุณจะเซฟเงินในกระเป๋าได้อีกเยอะ กลายเป็นคนที่เหลือเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำเลยเชียวล่ะ
1. กินแต่พอดี
ไม่อดแต่ก็ใช่ว่าจะตามใจปากทุกสถานการณ์ ถ้าลองคำนวณดูเล่น ๆ จะเห็นว่า ค่าใช้จ่ายในเรื่องปากท้องของเราในแต่ละเดือนกินงบประมาณไปมากพอดู เอาง่ายๆแค่ค่ากาแฟ และขนมตอนบ่ายในแต่ละวัน ก็ 100-200 บาท เข้าไปแล้ว ยิ่งกับคนที่ชอบตระเวนกินอาหารหรู ๆ จัดบุฟเฟ่ต์ทุกสัปดาห์ยิ่งต้องควักกระเป๋ามากขึ้นไปอีก แต่ถ้าลองตัดงบประมาณค่ากาแฟ ขนมหวาน และอาหารฟุ่มเฟือยลงไปบ้าง ลองทำอาหารกินเองที่บ้านแทนกินข้าวนอกบ้าน คงเหลือเงินในกระเป๋าไม่น้อยเลยเหมือนกัน ที่สำคัญยังเป็นการไดเอตทางอ้อมที่เห็นผลจริงในกรณีที่คุณไม่ชอบออกกำลังกายอีกด้วย
2. ไปไหนให้ประหยัด
การเดินทางไม่ว่าไปไหนทางไหนประหยัดสุด ทางนั้นเป็นทางที่เหมาะสมที่สุด แต่ทั้งนี้ต้องคำนวณถึงความปลอดภัยด้วย ลองเลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะในบางโอกาสดีกว่า ประหยัดทั้งค่าน้ำมัน ค่าที่จอดรถ แล้วยังประหยัดเวลาในการหาที่จอดรถอีกด้วย ส่วนค่าเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดยาว คุณสามารถเซฟเงินในกระเป๋าได้ด้วยการจองตั๋วโปรโมชั่น โดยการวางแผนล่วงหน้าก่อนเดินทาง แทนที่จะซื้อปุ๊บบินปั๊บ แค่นี้ก็มีเงินในกระเป๋าเหลืออีกหลายบาทแล้ว
3. เลือกกรมธรรม์ด้วยวิธีที่ชาญฉลาด
กรมธรรม์ประกันภัยในสมัยนี้มีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบออมทรัพย์ และแบบคุ้มครองสุขภาพ พร้อมประกันอุบัติเหตุไปด้วยในตัว ขึ้นอยู่ว่าคุณจะเลือกซื้อกรมธรรม์แบบไหนให้ตัวเอง ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจเลือกแบบกรมธรรม์ อยากให้ลองคำนวณเบี้ยประกัน ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ระยะเวลาที่ต้องชำระเบี้ย รวมทั้งสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้ดีด้วย
4. ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็น
คุณสามารถปาร์ตี้เพื่อสังสรรค์และคลายเครียดได้แบบเบา ๆ เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะเข้าสังคม สังสรรค์กับเพื่อนบ้างในแต่ละเดือน แต่ถ้าคุณลดความถี่ลงจากทุกอาทิตย์เป็นเดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง หรือเปลี่ยนแนวไปเที่ยวแบบที่ไม่ต้องใช้เงินมากนัก เช่น ปิกนิกในสวนสาธารณะ ดูฟรีคอนเสิร์ต หรือดูหนังในช่วงลดราคา ไม่ก็นัดปาร์ตี้กันที่บ้านเพื่อน แค่นี้ก็ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อย่างไม่น่าเชื่อแล้วล่ะ
5. ค่าใช้จ่ายในบ้าน
วางแผนใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น ลองคำนวณค่าใช้จ่ายภายในบ้านในแต่ละเดือนแล้วอาจต้องสะดุ้งเบาๆ เพราะมีรายละเอียดจิปาถะที่ต้องใช้เงินทั้งนั้น ถ้าอยากลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คุณสามารถทำได้ง่ายๆแค่เลือกใช้ของที่คุ้มค่าทั้งในแง่ของคุณภาพ และราคา อย่าลืมว่าของคุณภาพดีนั้นไม่จำเป็นต้องแพง หรือเป็นของแบรนด์ดังอะไร ของบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องมีคุณภาพมากนัก ที่สำคัญพ่อบ้านคนไหนที่เป็นสิงห์อมควัน ลองตัดขาดจากบุหรี่ดู แล้วคุณจะเห็นได้ชัดเลยว่ามีเงินเหลือเก็บอีกมาก หนำซ้ำสุขภาพก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
6. ประหยัดพลังงานช่วยโลก
เชื่อมั้ยว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้พลังงานทำให้คุณมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นได้ อย่างปิดทีวีเมื่อไม่ได้ดู ตั้งอุณหภูมิแอร์ไม่ให้ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งาน ปิดก๊อกน้ำให้สนิท รวมทั้งไม่เปิดน้ำทิ้งไว้ในขณะแปรงฟัน หรือแม้แต่ปิดไฟในพื้นที่ๆไม่มีใครใช้งาน จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้เยอะจนคุณคาดไม่ถึง
7. วางแผนการใช้จ่ายในแต่ละเดือน
ตีกรอบแนวทางการใช้จ่ายในแต่ละเดือนจะช่วยให้คุณเหลือเงินเก็บในกระเป๋าตามเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งคงหนีไม่พ้นการวางแผนการใช้จ่าย แล้วเดินตามแผนอย่างรัดกุม อย่าตามใจตัวเอง ใช้เงินส่วนที่ตั้งใจจะเก็บออมไว้ หรือตัดสินใจเป็นหนี้โดยเฉพาะบัตรเครดิตเด็ดขาด ถ้าไม่จำเป็นอย่าใช้บัตรเครดิตเลยจะดีที่สุด จะได้ไม่มีภาระหนี้ผูกพันในภายหลัง นอกจากนี้การใช้เงินสดแทน จะทำให้คุณสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายให้ตัวเองได้อย่างแม่นยำขึ้นอีกด้วย
เพียงแค่คุณฝึกวินัยในการใช้จ่ายของตัวเองให้อยู่ในกรอบที่ตั้งไว้ แค่นี้ก็สามารถบรรลุเป้าหมายในการออมเงินได้ นอกจากนี้ยังสามารถประหยัดค่าใช่จ่ายในแต่ละเดือนไปได้อีกเยอะ ไม่ว่าคุณจะมีรายได้มากเพียงไหน แต่ถ้าไม่รู้จักการบริหารเงิน ไม่มีความยับยั้งชั่งใจในตัวเองแล้วล่ะก็ คุณจะไม่มีวันมีเงินเก็บหรือพึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่แน่นอน