อิสรภาพในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา แต่ในอิสรภาพที่ได้จากบัตรเครดิต ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่จะต้องชำระในแต่ละเดือน ใช้มากก็ต้องจ่ายมาก ใช้น้อยก็จ่ายน้อย นี้คือหลักทั่วไปที่ไม่ใช่หลักการที่ยาก
หลายคนก็มองข้ามหลักการที่ง่ายนี้ จนก่อหนี้บัตรเครดิตอย่างไม่รู้ตัว เพียงเพราะคิดว่ารูดไปก่อนแล้วค่อยหาเงินมาชำระ หรือไม่เป็นไร ชำระขั้นตํ่าไปก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด เพราะดอกเบี้ยของการชำระไม่ครบ หรือชำระขั้นตํ่านั้น จะต้องถูกคำนวณสูงถึง 20% ต่อไปและคำนวณรายวัน แต่ทั้งนี้ทางสถาบันการเงินก็มี ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย ให้สำหรับผู้ถือบัตรด้วย
โดยทั่วไปแล้วนั้น การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ทางสถาบันการเงินจะทำการกำหนดวันตัดรอบบิล ซึ่งเรียกช่วงเวลานี้ว่าระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย โดยจะมีระยะเวลา 45-55 วัน ขึ้นอยู่กับทางสถาบันการเงินจะกำหนด หากชำระค่าบัตรเกิน ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย ทางสถาบันการเงินจะทำการคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่ได้กำหนดไว้ โดยอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มคิดจากยอดเงินที่ทำรายการ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมีความจำเป็นจริงๆที่ไม่สามารถชำระค่าบัตรเครดิตได้เต็มวงเงิน ทางสถาบันการเงินก็เปิดโอกาสให้กับผู้ถือบัตรสามารถทำการชำระแบบขั้นตํ่า 10% ของยอดเรียกเก็บ หมายความว่า ลูกค้าจะไม่ผิดนัดชำระ แต่จะถูกคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่สถาบันการเงินได้กำหนดไว้
อ่านบทความเพิ่มเติม : >> ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คิดง่ายๆ ไม่เสียรู้ <<
ดังนั้น ในช่วงของระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย คือ ช่วงที่ลูกค้าควรจะทำการชำระค่าบัตรเครดิตให้ทันกับระยะเวลาตามที่สถาบันการเงินได้กำหนดไว้ เช่น วันตัดรอบบิล คือ วันที่ 16 ของทุกเดือน และกำหนดชำระค่าบัตรภายในวันที่ 8-9 ของทุกเดือนถัดไป นั้นหมายความว่า ตั้งแต่วันที่ 16 จนถึงวันที่ 8-9 ของเดือนถัดไป คือ ช่วงระยะเวลาที่ลูกค้าจะสามารถทำการชำระค่าบัตรเครดิตได้
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ลูกค้าควรจะรู้อยู่เสมอว่า บัตรเครดิตที่ถืออยู่นั้นเป็นประโยชน์จริง แต่ก็มีโทษหากใช้จ่ายอย่างไม่มีวินัยและขาดสติ