ในแต่ละวันนอกจากจะต้องตรากตรำทำงานอย่างหนักเพื่ออนาคตแล้ว ยังต้องมากังวลกับวันที่จะทำชำระค่าใช้จ่ายๆต่างในแต่ละเดือน เช่น ค่านํ้า ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และค่าบัตรเครดิต โดยค่าบัตรเครดิตเป็นปัญหาที่กวนใจสำหรับผู้ใช้บัตรเครดิตที่ใช้จนเพลินและลืมวันตัดรอบบิล มักจะคิดว่าวันตัดรอบบิลคือวันสิ้นเดือนของทุกเดือน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ เป็นความเข้าใจผิด สำหรับวันตัดรอบบิลบัตรเครดิต จะเป็นวันที่ทางธนาคารได้อนุมัติบัตรเครดิตให้กับผู้สมัคร เช่น ธนาคารอนุมัติบัตรวันที่ 11 สิงหาคม ในเดือนถัดไปทางธนาคารจะตัดรอบบิลวันที่ 11 กันยายน นั้นหมายความว่าทุกวันที่ 11 ของทุกเดือนคือวันตัดรอบบิล แต่ในกรณีที่วันที่ 11 ตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ ทางธนาคารจะทำอย่างไร
สำหรับกรณีที่วันตัดรอบบิลตรงกับวันหยุด ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะทำการเลื่อนวันตัดรอบบิลขึ้นมาเป็นวันทำการก่อนวันตัดรอบบิล เช่น กรณีที่ตัดรอบบิลวันที่ 11 ทางธนาคารก็จะทำการเลื่อนวันตัดรอบบิลเป็นวันศุกร์ที่ 10 เป็นต้น ดังนั้นสำหรับวันที่กำหนดชำระเงิน ถ้าตรงกับวันหยุดหรือหยุดชดเชย ทางธนาคารจะทำการเลื่อนให้เป็นวันทำงานถัดไป เช่น กำหนดชำระวันที่ 1 และตรงกับวันหยุด ก็สามารถชำระเป็นวันที่ 2 ได้
ดังนั้น สำหรับผู้ที่กังวลว่าเป็นวันหยุดยาวหรือเป็นวันพักผ่อนไม่อยากออกจากบ้านไปชำระค่าบัตรเครดิต ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป เพราะทางสถาบันการเงินให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายต่อลูกค้า ด้วยการเพิ่มระยะเวลาในการชำระสำหรับกรณีที่ตรงกับวันหยุด และรวมถึงวันตัดรอบบิลให้ตรงกับวันทำการ เพื่อง่ายต่อการเดินทางไปทำธุรกรรมที่สถาบันการเงิน แต่การเพิ่มความสะดวกสบายในลักษณะนี้ไม่ได้หมายความว่า ลูกค้าจะสามารถชำระล่าช้ากว่าวันที่กำหนดได้ในกรณีที่ไม่ตรงกับวันหยุด เพราะเท่ากับว่าเป็นการผิดนัดชำระจากวันที่สถาบันการเงินได้กำหนดไว้ และสิ่งที่จะตามมาคือดอกเบี้ยที่ทางสถาบันการเงินจะทำการคำนวณรายวัน หลังจากที่ผิดนัดวันชำระ ต้องหมั่นตรวจสอบวันกำหนดชำระในบิลเรียกเก็บทุกเดือนด้วย