ผู้คนต่างๆนั้นล้วนรู้ดีว่า ยิ่งธุรกิจได้เร็วเท่าไหร่นั้น ความสำเร็จก็จะยิ่งเกิดขึ้นเร็วขึ้นมากเท่านั้น เหล่าผู้คนที่ประสบความสำเร็จเกือบทุกคนเลยก็ว่าได้ ได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะ เริ่มธุรกิจ ตั้งแต่ยังเด็กๆ ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่ทำให้พวกเขานั้นยากเริ่มต้นธุรกิจในวัยเด็ก และเหตุผลหนึ่งในนั้นคือรายรับที่ได้เรื่อยๆถึงแม้จะไม่เยอะเท่าไหร่ และรายจ่ายที่ไม่ค่อยมี เงินต่างๆที่เสียไปก็น้อยมากเมื่อเทียบกับธุรกิจที่เริ่มทำเมื่อตอนโต
เหล่าผู้คนที่ประสบความสำเร็จนั้นมักอยากจะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งและพวกเขานั้นรู้สึกเสียดายเวลาที่มากโขในช่วงเวลาชีวิตในช่วงนั้น คนทั่วไปนั้นอาจจะรู้สึกเข้าใจยากไม่น้อยกับเหตุผลต่างๆเหล่านั้น และรู้สึกว่าไร้สาระ ในวัยเด็กนั้นควรที่จะเป็นวัยที่หาความสนุกตลอดเวลา เพราะเมื่อโตขึ้นเวลาความสนุกก็จะหมดลง แต่นั้นคือความคิดของคนที่ไม่คิดจะสร้างตัว สร้างฐานะ พวกเราทุกคนต่างรู้ดีว่าเมื่อโตขึ้นนั้นสิ่งต่างๆที่มีในวัยเด็กนั้นก็จะน้อยลงพร้อมกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบที่มากขึ้น ดังนั้นเราจึงควรรู้ว่าทำไมวัยเด็กนั้นจึงควรเป็นวัยที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจดังนี้
-
รายจ่ายที่น้อยมากและรายรับที่มีเรื่อยๆ
ผู้คนต่างๆที่ทำธุรกิจนั้นรู้ดีว่ารายจ่ายต่างๆนั้นมีไม่น้อย และยังจ่ายที่มากเสียด้วย เพราะนอกจากที่จะจ่ายค่าสิ่งของต่างๆแล้วนั้นยังมีค่าเช่าที่ต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเสื่อมของอุปกรณ์ต่างๆที่พร้อมจะเสื่อมพร้อมกันในตลอดเวลา แต่รายได้นั้นก็ได้มาในจำนวนที่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน เมื่อใดก็ตามที่เราได้รู้อย่างนี้นั้น เราอาจจะคิดว่าเริ่มธุรกิจตอนโตเลยดีกว่า วัยเด็กจะรีบไปทำไม แต่กว่าที่เหล่าผู้บริหารหรือเหล่านักธุรกิจจะมาถึงจุดนี้ได้นั้น พวกเขาล้วนผ่านอุปสรรคต่างๆมาอย่างมากมาย อย่างน้อยๆนั้นกว่าพวกเขาจะเริ่มต้นที่จะสร้างธุรกิจนั้นก็อาจจะมีอายุประมาณหนึ่งและทุกธุรกิจนั้นล้วนเริ่มมาจากธุรกิจที่มีขนาดเล็กๆก่อน แล้วก็ค่อยๆพัฒนาให้เติบโต ไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเริ่มธุรกิจของตัวเองในช่วงเวลาไหนแต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเริ่มในช่วงวัยเด็กแน่นอน การที่เรานั้นเริ่มธุรกิจในวัยเด็กนี้นั้น สิ่งหลักๆที่เราไม่ต้องกลัวนั้นคือที่อยู่ เราอาศัยอยู่กับพ่อแม่ มีอาหารต่างๆกินฟรีไม่ต้องเสียเงิน ค่าน้ำไม่ต้องจ่าย ค่าไฟไม่ต้องเสีย ค่าสถานที่พักก็เช่นกันนับได้ว่าได้เปรียบอย่างมหาศาล และเงินรายรับนั้นก็มาจากค่าขนมต่างๆโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้และน้อยครั้งที่จะได้น้อย
-
ล้มเหลวกี่ครั้งก็ไม่ล้มละลาย
นักธุรกิจต่างๆนั้น รู้ดีว่าเมื่อใดก็ตามที่เกิดสิ่งผิดพลาด เกิดปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ หรือเกิดปัญหาเกี่ยวกับบริษัทต่างๆ ถ้าปัญหาต่างๆเหล่านั้นเป็นปัญหาเพียงเล็กๆก็สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก แต่ถ้าเกิดปัญหาใหญ่ๆขึ้นมานั้นแล้วยากต่อการแก้ปัญหาต่างๆนั้นอาจจะหมายถึงการปิดบริษัท เราเรียกว่าเกิดความล้มละลาย นับได้ว่าเป็นสิ่งที่เราทุกคนนั้นไม่ต้องการ และทุกครั้งที่ล้มเหลวนั้น ทำให้เรานั้นเกิดความยากลำบากต่อการตั้งต้นใหม่ แต่ถ้าเราเริ่มต้นธุรกิจในวัยเด็กนั้น เมื่อใดก็ตามที่เราเกิดปัญหานั่นก็คือเจอความขาดทุนนั้น เราก็ไม่ต้องเครียดว่าจะไม่มีที่อยู่ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีข้าวกิน และการทำธุรกิจต่างในวัยเด็กนั้น เมื่อเราเจอปัญหาต่างๆนั่นก็นับได้ว่าเป็นประสบการณ์ และสิ่งที่สำคัญนั้นทุกธุรกิจถ้าเราไม่ได้เจอปัญหาต่างๆด้วยตัวเองนั้น เราก็จะไม่รู้วิธีการแก้ปัญหาจริงๆ การที่เราดูคนอื่นทำสิ่งต่างๆนั้นสู้เราทำด้วยตัวเองไม่ได้แน่นอน
-
เวลาที่มีมากกว่าคนวัยอื่นๆ
เวลานั้นคือสิ่งที่เหล่านักธุรกิจนั้นต้องการ พวกเขานั้นรู้ดีว่าเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้นอาจจะยังไม่มีมากพอสำหรับพวกเขา ด้วยเหตุผลต่างๆที่มากมาย อาทิเช่น ต้องการเวลาวางแผนธุรกิจที่มากกว่านี้ ต้องเวลาเวลาในการพิจารณาตัวเลือกต่างๆที่มีอยู่ ต้องเวลาในการหาโอกาสต่างๆ หรืออย่างน้อยๆนั้นก็ขอเวลาให้ตัวเองนั้นได้กินข้าวอิ่มในแต่ละมื้อเพราะด้วยชีวิตที่เร่งรีบ ทุกเวลาทุกวินาทีนั้นล้วนคือธุรกิจ ทำให้เหล่าผู้บริหารระดับสูงจำนวนไม่น้อยนั้นคิดว่าเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงนั้นไม่พออย่างแน่นอนต้องเอาเวลาที่มีอยู่นั้นให้คุ้มค่าทุกวินาที แต่การที่เราเริ่มธุรกิจในวัยเด็กนั้นเวลาเรามีเยอะมากพอที่จะนอนกลางวันได้นานมาก เด็กๆในวัยมัธยมจำนวนไม่น้อยนั้นที่มักจะหาสิ่งต่างๆที่ตัวเองชอบนั้น มาแอบทำในเวลาเรียน เราอาจจะเลือกที่จะอ่านหนังสือเล่มโปรดสักเล่มหนึ่งในเวลาเรียนที่แสนน่าเบื่อหรือเราอาจจะเล่นมือถือแก้เซ็งซึ่งเป็นสิ่งที่สำหรับใครหลายๆคนมักทำกัน
ทำให้เรารู้ว่าเรานั้นมีเวลาที่มากพอที่จะทำธุรกิจหรือ เริ่มธุรกิจ หาโอกาสต่างๆที่พอจะหาได้ มีเวลามากพอที่จะคิดสิ่งต่างๆได้อย่างมากมายและพร้อมที่จะลงมือทำได้เรื่อยๆอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย และสิ่งที่สำคัญนั้นเรายังมีเพื่อนที่พร้อมจะช่วยเหลือเราหรืออาจจะประสบความสำเร็จไปพร้อมๆกับเราเช่นกัน