วางแผนการเงินเพื่อเที่ยวญี่ปุ่นปลายปี

คนส่วนใหญ่จะเก็บเงินได้ก็ต่อเมื่อต้องวางเป้าหมายในการใช้เงินนั้นไว้ในอนาคตด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้เก็บเงินไม่ได้เสียที ยิ่งเป้าหมายนั้นเป็นเป้าหมายที่เรามุ่งหวังไว้มากเท่าใด เราก็จะยิ่งมีกำลังใจในการเก็บเงินได้มากเท่านั้นด้วย อย่างบางคนอยากเรียนต่อมาก ก็ทำงานเก็บเงินก้อนไว้เพื่อเรียนต่อให้สูงขึ้น ส่วนบางคนก็มีที่ในฝันที่อยากไปท่องเที่ยวสักครั้งในชีวิต ก็ใช้ความใฝ่ฝันนั้นมาเป็นความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อเก็บหอมรอมริบ จะได้ถึงวันที่ทำความฝันให้เป็นจริงได้

เมื่อพูดถึงเรื่องทริปท่องเที่ยวต่างประเทศแล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธว่าญี่ปุ่นเป็นปลายทางของการท่องเที่ยวในฝันของทุกคน ใครที่ได้เคยเดินทางไปมาแล้ว ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าจะต้องหาทางเพื่อให้ได้ไปอีกสักครั้ง ส่วนคนที่ไปเที่ยวได้บ่อย ๆ อยู่แล้ว ก็เลือกไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันแทบทุกปี หรือบางทีไปปีละหลายครั้งก็มี

เนื่องจากการไปญี่ปุ่นเป็นทริปท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวนั้นต้องมากกว่าทริปท่องเที่ยวในประเทศอย่างแน่นอน ไหนจะค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าเข้าชมสถานที่ ค่าเดินทางเมื่อไปถึง ค่าอาหาร รวมไปถึงค่าใช้จ่ายซื้อของกลับมาทั้งของตัวเองและของฝาก จึงเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย ต่อให้ปัจจุบันทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะวางแผนให้เดินทางแบบประหยัดได้ด้วย แต่อย่างไรก็ต้องมีการวางแผนเรื่องเงินให้ดี เพื่อให้มีเงินก้อนไว้ไปเที่ยวกับเขาได้สักที

หลายคนที่อยากจะไปญี่ปุ่นบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเก็บเงินอย่างไรดี วันนี้เรามีคำแนะนำในการวางแผนเพื่อเก็บเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นปลายปีนี้มาฝากกันค่ะ

• วางงบประมาณในการท่องเที่ยว
  
  เรื่องแรกที่เราต้องวางแผนก็คือเรื่องของงบประมาณในการท่องเที่ยว ว่าทริปนี้ต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ ถ้าไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ก็เรื่องงบประมาณก็วางแผนได้ง่าย เพราะบริษัททัวร์จะแจ้งค่าใช้จ่ายรวมมาให้เรารู้ก่อนเลย เช่น 6 วัน 5 คืน เป็นเงินคนละ 60,000 บาท แต่ถ้าเป็นการไปเที่ยวเองแม้ว่าจะประหยัดงบได้มากกว่า แต่ก็จะต้องวางแผนงบด้วยตนเองอย่างละเอียด และต้องมีการจองตั๋ว ที่พัก และบัตรเข้าชมสถานที่ล่วงหน้าก่อนด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้เดินทางแน่นอน
• ดูว่ามีเวลาเก็บเงินนานแค่ไหนอันดับต่อมาที่ต้องวางแผนก็คือเรามีเวลาเก็บเงินนานแค่ไหน เช่น ถ้าเราอยากจะไปเที่ยวญี่ปุ่นปลายปีนี้เลย เพื่อไปสัมผัสอากาศหนาว หิมะสีขาวโพลน เล่นสกี ซึ่งก็เป็นอีกบรรยากาศหนึ่งของการท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมกันมาก เมื่อคำนวณย้อนกลับมาก็จะเห็นว่าเราเหลือเวลาอยู่ประมาณไม่เกิน

  7 เดือนเท่านั้นในการเก็บเงินให้ได้

• เริ่มเก็บเงินตั้งแต่วันนี้เมื่อได้งบประมาณของทั้งทริปแล้ว และรู้ว่าเหลือเวลาที่จะต้องเก็บเงินอีกนานแค่ไหน เราก็จะรู้แล้วว่าต่อเดือนเราจะต้องเก็บเงินเท่าไหร่จึงจะทัน เช่น ถ้างบเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ของเราเป็น

  40,000 บาท มีเวลาเก็บเงิน 7 เดือน ก็เท่ากับต้องเก็บเงินให้ได้เดือนละ 5,714 บาท เราก็เริ่มเก็บเงินได้เลยทันที เดี๋ยวจะไม่ทัน

คนส่วนใหญ่จะใช้วิธีเก็บเงินเพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นตามแบบข้างต้น คือรู้ก่อนว่าต้องใช้เงินทั้งหมดเท่าไหร่ จากนั้นก็มาดูว่าเหลือเวลาเก็บเงินนานแค่ไหน ก็จะรู้ว่าเราต้องรีบแล้วและรู้จำนวนเงินที่เราต้องเก็บในแต่ละเดือน ทำให้ได้ตามนั้น แล้วฝันของทริปญี่ปุ่นก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ

…แต่สำหรับบางคนมันอาจดูยากไปสักหน่อย น่าจะต้องหาเทคนิคอะไรมากระตุ้นให้เก็บเงินได้มากขึ้น จะรอให้เก็บเงินเป็นก้อนใหญ่แล้วรอไปเที่ยวนั้น บางทีทำได้ยาก ก็ต้องอาศัยเทคนิคต่อไปนี้ค่ะ

• จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า 

  ตั๋วเครื่องบินถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักของทริปเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็ว่าได้ เพราะคิดเป็น 1 ใน 4 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเดินทางช่วงไหนและเลือกบินกับสายการบินไหนด้วย ถ้าเป็นช่วงไฮซีซั่น ตั๋วจะค่อนข้างแพง บางครั้งตกคนละเกือบ 20,000 บาทก็มี ส่วนบางคนส่องเจอตั๋วถูกเป็นโปรโมชั่น ได้ตั๋วไปกลับราคา 5,000 บาทก็มีเช่นกัน ดังนั้นบางคนจึงเลือกจองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาที่พอใจก่อน ที่เหลือค่อยว่ากัน แล้วก็จ่ายเงินค่าตั๋วไปก่อนค่ะ เก็บเงินได้ค่าตั๋วก็จองตั๋วไปก่อนเลย แล้วค่อยมาเก็บเงินต่อ ถ้าเก็บไม่ได้ก็ต้องยอมเสียตั๋วไป เรียกว่าเป็นการหักดิบกันไปเลย ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เที่ยวสักที 

• จองที่พักเรื่องที่พักมีความสำคัญในลำดับถัดไป หลังจากที่จองตั๋วเครื่องบินได้แล้ว เราก็ค่อนข้างมั่นใจในระดับหนึ่งแล้วล่ะ ว่าเราจะต้องได้ไปแน่ ๆ จากนั้นเราจะต้องเริ่มมองหาที่พัก ซึ่งควรเป็นที่พักที่มีราคาอยู่ในงบประมาณที่เรารับได้ ใกล้กับรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก หาของกินง่าย ควรทำการจองที่พักไปจากประเทศไทยล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อไปถึงมีที่พักรอเราไว้อย่างแน่นอนนั่นเอง เมื่อเก็บเงินจองตั๋วเครื่องบินได้แล้ว ก็เก็บเงินเพื่อจองที่พักเป็นลำดับถัดไป หลังจากจองตั๋วเครื่องบินและที่พักเรียบร้อยแล้วที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องยากมากแล้วค่ะ เหลือเก็บเงินอีกเพียงแค่เล็กน้อย

  1-2 เดือน ก็บินลัดฟ้าไปเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างที่ฝันไว้เลย

ไม่มีอะไรยากเกินไปหากว่าเราตั้งใจจริง ทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่นปลายปีก็เช่นเดียวกัน ถ้าเวลานั้นเราไม่อยากนั่งเหงาเปล่าเปลี่ยวอยู่กับบ้าน แล้วคอยดูแต่คนอื่นไปเที่ยวกัน ก็เป็นเวลาที่เราต้องรีบหันมาเริ่มเก็บเงินกันแล้วค่ะ