ใครที่กำลังประสบกับปัญหาด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็น หมุนเงินไม่ทัน รายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่มีเงินทุนสำรองในกรณีที่มีรายการเร่งด่วนที่จำเป็นต้องจ่ายแบบฉุกเฉิน เช่น ค่าเทอมลูก ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมบำรุงบ้านและรถยนต์ เมื่อมีรายจ่ายแบบนี้เข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัววิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็วที่สุดก็คือ การกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือหยิบยืมเงินจาก ญาติพี่น้อง เพื่อนคนสนิท เป็นต้น
หลายท่านไม่น้อยเลยที่มีความกังวลใจและเครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับ เมื่อถึงเวลาที่ต้องหาเงินมาชำระ ก่อนอื่นขอบอกเลยว่า ถ้ากำลังคิดหาทางออกยังไม่ได้ อย่าเพิ่งเศร้าใจไปครับ ขอให้ท่านที่เป็น หนี้ และกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ขอท่านจงเปิดใจที่จะรับคำแนะนำดีดีจากทางเรา มาช่วยกันหาทางออกนี้ด้วยกันดีกว่าครับ โดยเริ่มจาก
การตั้งสติ
ก่อนที่เราจะหาทางออกไม่ว่าจะกับปัญหาเรื่องใดก็ตามแต่ เราต้องมีสติรู้ตัวอยู่เสมอครับ ว่ากำลังทำอะไรและปัญหามันมีอะไรบ้าง อย่าเพิ่งคิดว่าจะแก้ปัญหานั้นๆไม่ได้ มันไม่มีทางออกหรือไม่มีใครอยากจะช่วยเหลือ อย่าคิดแบบนั้นครับ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ เพียงแค่ว่าวันนี้ตอนนี้เรายังหาทางแก้ไม่เจอ แต่ถ้าเราได้พิจารณาดูดีดีแล้ว เราอาจจะเจอวิธีแก้มากมายเลยก็ได้ครับ
ลองเขียนบันทึก
ทั้งบันทึกประจำวันหรือบันทึกรายรับรายจ่ายของเราเอง ประเมินตนเองก่อนว่า สถานการณ์การเงินในขณะนี้เป็นอย่างไร มีรายรับเข้ามากี่ทางบ้าง แล้วมีรายจ่ายอะไรบ้าง ระมัดระวังในการใช้เงินมากขึ้น สิ่งไหนจำเป็นสิ่งไหนไม่จำเป็นก็ตัดออกแล้วนำเงินส่วนเหลือไปเก็บออมให้มากขึ้น การทำงานหลายๆ อย่าง เป็นอาชีพเสริมก็สามารถเพิ่มรายรับเข้ากระเป๋าได้อีกทางหนึ่ง ทำวิธีนี้ควบคู่กันไป สักพักคุณก็จะพบว่า การเงินของคุณดีขึ้น เพราะรู้จักประมาณตนในการใช้เงินนั่นเอง
ลองเจรจายืดระยะเวลา
การชำระ หนี้ ดูก่อนหรือไม่ก็ขอแบบผ่อนชำระเป็นรายเดือน/รายสัปดาห์ อาจจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ช่วงระยะเวลาที่หาเงินมาใช้ หนี้ ก็ไม่ควรใช้จ่ายอะไรที่มากมายเกินความจำเป็น และก้อย่าพยายามที่จะไปก่อหนี้เพิ่ม ไปหยิบยืมจากที่อื่นมาโป๊ะหนี้ตัวเดิม เพราะนั่นยิ่งจะทำให้เราติดหนี้เพิ่มขึ้นและหาใช้ไม่หมดเสียที ยิ่งถ้าหนี้ใหม่มีดอกเบี้ยที่สูงกว่าแล้วล่ะก็ ยิ่งจะทำให้สถานการณ์มันกลับยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมนะครับ
จัดการกับบัญชีหนี้
ด้วยการจดบันทึก จดบันทึกไว้เลยครับว่า ตอนนี้เรามีหนี้สินเท่าไหร่และมียอดค้างชำระเหลือกี่เดือนกี่ปี เช่น เป็น หนี้ธนาคาร ก. 100,000 บาท ผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท ระยะเวลา 12 เดือน เป็นต้น ให้ทำเหมือนกับเป็นบัญชีรายรับรายจ่าย แต่เปลี่ยนเป็นบัญชีในการชำระหนี้ การทำแบบนี้จะช่วยให้เรารู้สถานะของหนี้ว่าตอนนี้ผ่อนไปกี่เดือนและมียอดต้องชำระอีกเท่าไหร่ จะช่วยให้เราวางแผนการใช้เงินได้อย่างลงตัวที่สุด
ใช้ชีวิตประจำวันให้เหมือนปกติ
พยายามไม่เครียดหรือวิตกกังวล คิดมากจนเกินไป ให้ค่อยๆคิดแก้ปัญหาไปทีละขั้นตอน ทางที่ดีควรพูดคุยและปรึกษาปัญหากับคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นสามี/ภรรยา พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนสนิท เพื่อนที่ทำงาน เจ้านาย หรือใครก็ได้ที่คุณไว้ใจเขามากที่สุด ไม่ควรเก็บปัญหาไว้คนเดียว อาจจะทำให้คุณฟุ้งซ่านจนไม่เป็นอันทำอะไรได้เลย อย่างน้อยพวกเขาก็ยังคอยรับฟังและยังอยู่ข้างๆคุณเสมอ
ต้องมีความอดทนและมุมานะพยายาม
หาจุดยึดเหนี่ยวจิตใจ หาแรงบันดาลใจดีดีให้กับตัวคุณเอง บนโลกนี้ไม่ได้มีแค่คุณคนเดียวหรอกครับที่เจอกับปัญหาล้มละลายหรือเป็นหนี้ ยังมีอีกหลายต่อหลายคนที่เขาเคยล้มเคยผิดพลาด ผมขอ ยกบุคคลตัวอย่างที่ผมศรัทธาเขามากเลยครับ นั่นก็คือ คุณ ศิริวัฒน์เจ้าของแบรนด์แซนวิชศิริวัฒน์ ใครจะเชื่อล่ะครับว่าเขาจะทำได้ จากมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆของประเทศไทย พอมาเจอวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่แตกเมื่อปี พ.ศ. 2540 จะทำให้ชีวิตของเขาพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตกต่ำอย่างที่ไม่มีใครคาดว่ามันจะเกิดขึ้น เขาล้มละลายเป็นหนี้กว่าพันล้านบาท แต่ด้วยความที่ไม่หนีปัญหาและไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขาก็ทำใจยอมรับมันแล้วเดินก้าวหน้าต่อไป ด้วยกำลังใจจากคนรอบข้างบ้าง ครอบครัวและลูกๆที่ทำให้เขานั้นสู้ต่อไปได้ สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
จนมาถึงทุกวันนี้ กิจการของเขาก็ยังเจริญรุ่งเรือง นี่ล่ะครับตัวอย่างของคนไม่แพ้ หากคุณกำลังคิดว่าคุณโชคร้ายที่สุดในโลกแล้วล่ะก็ ขอให้คิดใหม่ครับว่า คนที่เจอปัญหาที่หนักหนากว่าเรานั้นเขายังผ่านมาได้ แล้วทำไมเราจะผ่านมันไปไม่ได้ล่ะครับจริงไหม ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถของคนเราหรอกครับ เพียงแค่มีความอดทนต่อสู้กับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาให้ได้ แล้ววันเวลาที่เลวร้ายก็จะค่อยๆผ่านพ้นไป
ถึงแม้ว่าการเป็น หนี้ จะทำให้เรารู้สึกท้อแท้ในชีวิตก็ตามครับ แต่ที่สำคัญคือในเมื่อเราย้อนกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้แล้ว ก็จงทำอนาคตให้มันดีที่สุดเท่าที่กำลังเราจะสามารถทำมันได้ เพื่อครอบครัวและนึกถึงคนที่เรารักไว้มากๆ เอาพวกเขามาเป็นกำลังใจ ผมเชื่อครับว่าคุณทำได้ขอเพียงอย่าเพิ่งท้อถอยไปเสียก่อน เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะปลดหนี้ทุกๆคนครับ.