เชื่อไหมว่าวันหนึ่งหนึ่งมีผู้คนที่ค้นหาข้อมูลผ่าน Google และ Search engine ทั่วไปเกี่ยวกับการหาเงินเร็ว ๆ โดยไม่ต้องลงทุนกันเป็นปริมาณมากในแต่ละวัน ซึ่งเข้าใจตามความเป็นจริงว่าคนเราส่วนใหญ่มักต้องการหารายได้เสริมเพื่อสะสมเงินทุนไว้ใช้จ่ายและสำรองเพื่อความมั่นคงทางการเงิน แท้จริงแล้วมีความเข้าใจผิดอยู่สองประการเกี่ยวกับการหาเงินก็คือ การหาเงินโดยที่ ไม่ต้องลงทุน และหาเงินโดยไม่ใช่งานขาย
การหาเงินที่ ไม่ต้องลงทุน?
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม การหาเงินล้วนต้องลงทุน แม้ไม่ใช่เงินทุนแต่เป็นแรงงานก็คือทุนอย่างหนึ่ง ดังนั้นหากต้องการหาเงินต้องมีการลงทุนเสมอ ตั้งแต่นักลงทุนในตลาดหลังทรัพย์ ไปถึงธุรกิจงานบริการทุกประเภท ที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือการค้าขายอาหาร ที่ต้องลงทุนทั้งร้านค้าและวัตถุดิบก่อนจะมาเป็นอาหารที่ลูกค้ายินดีจ่ายเงินแลกมา คุณต้องให้อะไรออกมาเพื่อจะได้รับเงินกลับไปเสมอ ความจริงนี้อาจจะดับฝันใครหลายคนต้องขออภัยเพราะว่าไม่มีหนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ยิ่งคุณลงทุนมาก โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนกลับมาก็ยิ่งมาก การศึกษาหาความรู้ก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งเมื่อนำความรู้ประกอบกับเงินทุนก็จะเป็นการสร้างสรรค์ธุรกิจที่สร้างเงินรายได้กลับมาให้คุณเอง
การหาเงินที่ไม่ใช่งานขาย?
ผู้ลงโฆษณาส่วนหนึ่งชอบนำคำนี้มาโปรยไว้เรียกร้องความสนใจ เพราะคนเราอยากหาเงินแต่ไม่ชอบทำงานขาย ซึ่งขัดกับหลักความเป็นจริงอย่างที่สุด อยากรวยต้องค้าขาย คำกล่าวนี้ดูจะเป็นจริงมากกว่า การหาเงินมาล้วนต้องอาศัยการขายทั้งสิ้น ไม่ว่าเป็นการขายสินค้าที่จับต้องได้หรือจับต้องไม่ได้ เป็นการขายวัตถุหรือขายการให้บริการก็นับว่าเป็นการขายเช่นกัน หากใครที่ต้องการเงินมาก ๆ ก็ต้องขายให้มาก ๆ ขายให้คนซื้อทีละเยอะ ๆ หรือมาซื้อบ่อย ๆ ซื้อประจำเป็นต้น ส่วนศิลปะการขายนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้กันเพิ่มเติม เพราะมีเส้นแบ่งบาง ๆ ระหว่างหัวใจการให้บริการและการเอารัดเอาเปรียบ ภาพลักษณ์ของผู้ขายจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นสิ่งที่ลูกค้าจะเป็นผู้ตัดสินให้เอง
นอกจากต้องลงทุนแล้วยังต้องรู้จักการขายอีกด้วย ยกตัวอย่างห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่งที่มีสาขาทั่วประเทศ การแสวงหากำไรของเขาก็คือการขาย การมีของที่หลากหลายยี่ห้อ ของเกรดคุณภาพดี อยู่ในทำเลที่ตั้งดี และมีการประชาสัมพันธ์ที่ดีก็ยิ่งทำให้การขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังไม่พอ เขายังขยายขอบข่ายมายังโลกออนไลน์ เปิดเว็บไซต์ให้ลูกค้าสั่งซื้อของได้อย่างง่ายดาย ส่งของจ่ายเงินที่หน้าบ้าน นับว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการหาเงินด้วยการขาย
ในโลกนี้ไม่ว่าเวลาใด ล้วนมีผู้คนที่กำลังต้องการอะไรสักอย่างเพื่อนำไปใช้ตามความต้องการของเขา ถ้าใครสามารถหาช่องทางเข้าไปสนองความต้องการตรงนี้ได้ ก็จะได้เงินกลับมาแน่นอน นี่คือการหาเงินที่แท้จริง ถ้าผู้อ่านเป็นนักเรียน นักศึกษาหรือคนวัยทำงานที่อยากหารายได้เสริมจากที่บ้าน ขอให้นึกถึงงานขายเหล่านี้ก่อน ซึ่งจะได้แนะนำในย่อหน้าต่อไปเกี่ยวกับการหาเงินที่(เกือบจะ)ไม่ต้องลงทุน
ถ้ามองไปรอบ ๆ ห้องแล้วพบว่าบางครั้งก็ดูรกเหมือนกัน ทั้งเสื้อผ้า หนังสือ เพลง ของสะสมต่าง ๆ ที่ซื้อมา บางชิ้นก็ไม่ได้ใช่แล้ว หรือพบว่าซื้อมาแล้วก็ไม่ได้ให้ความใส่ใจหรือสนใจของชิ้นนั้นสักเท่าไหร่ นี่น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะแลกเปลี่ยนของเหล่านั้นออกไปเพื่อให้ได้เงินสดกลับมา ถ้าคุณไม่ได้เป็นผู้ที่หวงของหรือไม่ยอมทิ้งของใดใดที่เคยซื้อมาก็ไม่ใช่ปัญหา คุณสามารถเริ่มต้นการขายได้ทันทีซึ่งปัจจุบันมีช่องทางให้ผู้คนทั่วไปสามารถนำของไปประกาศขายได้ผ่านโลกออนไลน์ในลักษณะ C2C หรือผู้บริโภคติดต่อซื้อขายกันเองโดยตรง ข้อดีของเว็บไซต์ที่เป็นตลาดกลางคือคุณสามารถลงรายการเท่าใดก็ได้ และบริหารจัดการเมื่อมีผู้มาติดต่อซื้อ
คำแนะนำในการหาเงินจากขายของออนไลน์
การสร้างตัวตน ข้อมูลติดต่อ
สิ่งแรกคือความมีตัวตนที่น่าเชื่อถือ ถ้าคุณจะขายของออนไลน์คุณต้องมีความพร้อมในการแสดงหลักฐาน ตัวอย่างเว็บไซต์ของ Pantipmarket นั้นคุณสามารถใส่ชื่อนามแฝงได้ แต่ถ้ามีการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนก็จะมีสัญลักษณ์การยืนยันที่สร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น อีกประการหนึ่งคือเบอร์โทรศัพท์ ถ้าคุณไม่ต้องการให้เบอร์โทรศัพท์หลักของคุณปรากฎในระบบอินเทอร์เน็ต ก็สามารถหา SIM เบอร์ใหม่เพื่อใช้เฉพาะการค้าขายของออนไลน์ก็ได้ มีข้อดีคือแยกการติดต่อจากโทรศัพท์หลัก และไม่มีใครทราบว่าคุณทำอะไรอย่างไรบนโลกออนไลน์เป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวไว้เหมือนเดิม
ภาพถ่ายสินค้า
รูปภาพเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการแสดงสิ่งที่คุณต้องการขาย คุณควรถ่ายให้ครบทุกมุมที่สำคัญและเป็นจุดเด่นของสินค้า หากมีตำหนิควรจะถ่ายแสดงให้ชัดเจน ที่สำคัญถ้ามีการเขียนลายมือชื่อผู้ขายหรือเบอร์โทรบนกระดาษวางบนสินค้าด้วยก็จะทำให้ผู้จะซื้อมั่นใจมากขึ้นว่าเป็นผู้ขายตัวจริง ไม่ได้ไปก๊อปปี้รูปจากที่ไหนมาแอบอ้างหรือขายสินค้าที่ไม่ได้มีอยู่จริง ยกเว้นเป็นของมือหนึ่งที่คุณสั่งเข้ามาหลายชิ้นก็ไม่จำเป็นต้องติดชื่อแสดงไว้
รายละเอียดสินค้า
คุณควรเขียนรายละเอียดหัวข้อให้ชัดเจน ว่าเป็นสินค้าอะไร ถ้ามีชื่อรุ่นก็ควรระบุให้ครบถ้วน พร้อมเขียนคำอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจน ว่าสินค้ามีคุณสมบัติอย่างไร ผู้ซื้อสามารถซื้อได้อย่างไร จัดส่งหรือนัดรับส่งสินค้าอย่างไร ต้องกำหนดนโยบายให้ชัดเจน เพื่อที่ผู้ซื้อจะได้รู้ข้อจำกัดต่าง ๆ และไม่เสียเวลาโทรมาเพื่อสอบถาม เป็นการประหยัดเวลาให้กับคุณเองได้ด้วย
การตั้งราคาขาย
ก่อนตั้งราคาขาย คุณควรไปสำรวจตลาดโดยรวมก่อนว่าเขาขายกันอยู่ที่ราคาประมาณเท่าใด โดยเปรียบเทียบของที่มีอายุและสภาพที่ใกล้เคียงกัน เพื่อจะได้ไม่ตั้งราคาถูกหรือแพงเกินไป ส่วนจะมีส่วนลดอย่างไรก็ควรตั้งเกณฑ์ว่าลดได้ต่ำสุดเท่าใดที่คุณยังพอใจอยู่ เพื่อเป็นราคาที่ตอบลูกค้าได้ทันที หากมีการต่อรองราคา
การระมัดระวังการฉ้อโกง
ต้องยอมรับว่าการขายของออนไลน์นั้น จะได้พบคนที่ไม่ได้รู้จักหน้าค่าตากันมาก่อน ในฐานะผู้ขายต้องระมัดระวังตัวอยู่เหมือนกันเมื่อลูกค้าโทรมา คุณควรจะบันทึกเบอร์โทรศัพท์นั้นไว้แล้วนำไปตรวจสอบประวัติผ่าน Google ว่าหมายเลขดังกล่าวมีชื่อเสียงทางไม่ดีบ้างหรือไม่ อีกเรื่องหนึ่งคือชื่อของผู้ที่โอนเงินมาและชื่อผู้ที่จะรับของทางไปรษณียต้องตรงกันหรือคุณควรจะโทรกลับไปเช็คกับผู้โอนเพื่อยืนยันที่อยู่ที่จะจัดส่งที่แน่นอน เพราะเคยมีกรณีผู้แอบอ้างเป็นผู้ขายไปหลอกให้คนอื่นโอนเงินแทนแล้วสวมรอยเป็นผู้รับของแทน เท่ากับว่าแม่ค้าส่งของผิดคน คนโอนเงินไม่ได้ของ กลายเป็นเรื่องราวที่ยุ่งยากขึ้นมา อีกเรื่องหนึ่งให้ลืมบรรดาออเดอร์จากต่างประเทศได้ โดยเฉพาะการหลอกลวงว่าโอนเงินมาแล้วติดอยู่ที่ธนาคาร แล้วให้เราจ่ายค่าธรรมเนียมไปก่อนเพื่อให้ธนาคารปล่อยเงินเข้าบัญชีเราซึ่งเป็นการหลอกลวงร้อยเปอร์เซ็นต์
การขายของที่มีอยู่แล้วนั้นใช้ทุนต่ำ จึงดูเหมือนไม่มีการลงทุนแต่แท้จริงแล้วก็ยังมีอยู่ เช่น ค่าเวลา ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าต้นทุนของสินค้าที่เคยซื้อมา ค่าส่งพัสดุไปรษณีย์หรือค่าเดินทางหากมีการนัดรับส่งสินค้า เมื่อมีการลงทุนจึงเข้ากับกฎที่ประกันได้ว่ามีการแลกเปลี่ยนสิ่งของออกไป ดังนั้นคุณก็จะมีโอกาสได้รับเงินกลับมาอย่างแน่นอน คุณสามารถรวบรวมเงินสดนั้นไปใช้ประโยชน์ทางอื่นหรือซื้อของชิ้นใหม่ที่คุณมีความชอบและสนใจจริงจังต่อไป