ในแต่ละวันเราไม่รู้เลยว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แม้ว่าเราจะมีการวางแผนในการใช้ชีวิตแต่ละวันเป็นขั้นเป็นตอนอย่างรอบคอบดีแล้ว แต่อันตรายหรือความเจ็บป่วยก็จะมาเยี่ยมเยือนโดยที่เราไม่รู้เลยว่าจะมาเมื่อไหร่หรือเวลาใด เช่น ลูกป่วยต้องเข้ารับการผ่าตัด รถยนต์ชนได้รับบาดเจ็บ ขโมยปล้นบ้าน นํ้าท่วมบ้าน สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งความทุกข์และภาระทางด้านการเงินอย่างมาก
จากสิ่งที่กล่าวข้างต้น หากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณ คุณได้มีแผนการเพื่อรองรับกับเหตุการณ์เหล่านี้ดีพร้อมแล้วหรือยัง และการวางแผนป้องกันที่ดีที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการวางแผนทำประกัน ซึ่งจะเป็นเสมือนตัวช่วยบันเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยที่ผู้เอาประกันจะได้รับค่าชดเชยค่าเสียหายจากบริษัทที่เราได้ทำประกัน ทั้งนี้ ประโยชน์ของการทำประกันนอกจากจะได้รับการชดเชยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์แล้วนั้น จะยังช่วยให้ผู้ที่อยู่ข้างหลังได้รับค่าชดเชยในกรณีที่ผู้นำครอบครัวสูญเสียชีวิต และยังคงเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน
หากคุณเกิดเจ็บป่วยและต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาล ทางบริษัทประกันก็จะคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลและชดเชยรายได้ในกรณีที่ต้องหยุดงานเป็นระยะเวลานาน นอกเหนือจากการทำประกันในรูปแบบของบุคคลตัวไปแล้ว สถานประกอบการหรือโรงงานอุตสาหกรรมก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมรการทำประกัน หากเกิดเหตุอัคคีภัยหรือเกิดความสูญเสียต่ออาคารสำนำนักงาน ก็จะได้รับเงินค่าชดเชยตามวงเงินของกรมธรรม์
นอกเหนือจากการคุ้มครองทางร่างกาย และตัวอาคารแล้วนั้น ประกันก็ยังมีประโยชน์ที่ช่วยสร้างความมั่นคงต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากว่าบริษัทประกันจะเป็นผู้ที่นำเงินจากดอกเบี้ยประกันไปลงทุนในเศรษฐกิจอีกต่อหนึ่งให้มีความเติบโตมากขึ้นในฐานเศรษฐกิจ
ในส่วนตรงนี้ ผู้เขียนคงไม่ต้องพูดถึงประกันว่า มีประกันกี่ประเภทและประกันแต่ละประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร เนื่องจากในปัจจุบัน บริษัทประกันมีหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการประกัน ผู้ที่ต้องการจะทำประกันสามารถเลือกซื้อประกันตามความต้องการและเหมาะสมกับตัวเองได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือ ขั้นตอนและวิธีการเลือกซื้อประกันอย่างไรให้ตรงกับความเหมาะสมของตนเอง
- ตรวจสอบว่าตนเองอยู่ในสถานะที่มีความเสี่ยงด้านใดมากที่สุด เช่น หากคุณเป็นคนที่เดินทางบ่อยครั้ง อาจจะทำประกันที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุการเดินทาง หรือคุณเป็นบุคคลที่มีสุขภาพร่างกายที่ค่อยดีนัก อาจจะเลือกซื้อประกันสุขภาพ นอกเหนือจากนั้นหากคุณประกอบธุรกิจ ก็อาจจะเลือกซื้อประกันสินเชื่อทางการค้าเป็นต้น
- ตรวจสอบและทำการเปรียบเทียบเบี้ยประกัน เนื่องจากแต่ละบริษัทประกันจะมีผลิตภัณฑ์ประกันที่เหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของเงื่อนไขความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันภัยที่แตกต่าง ผู้ที่ต้องการจะทำการซื้อประกันควรเลือกซื้อประกันที่มีเงื่อนไขเหมาะสมกับความต้องการของตนเองมากที่สุด รวมถึงเงื่อนไขต่างๆที่สามารถตอบโจทย์คุณได้
- การเปรียบเทียบควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการซื้อประกันไม่ได้ซื้อครั้งแรกแล้วจบ แต่มีระยะเวลาที่นานสำหรับความคุ้มครอง และผู้ซื้อประกันขอต้องนำส่งเบี้ยประกันทุกปีตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- เลือกซื้อประกันที่คุณสามารถชำระค่าเบี้ยประกันได้ตลอดระยะเวลาของสัญญากรมธรรม์ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะการซื้อกรมธรรม์จะต้องทำการส่งเบี้ยประกันแบบหลายเดือน ทุกครึ่งปี หรือทุกปี เป็นต้น ผู้ที่จะซื้อประกันก็ต้องทำการตรวจสอบศักยภาพของตนเองด้วยว่าสามารถที่จะแบกภาระส่งเบี้ยประกันได้จนครบสัญญาหรือไม่ ทั้งนี้เมื่อถึงระยะเวลาที่ต้องส่งเบี้ยประกัน คุณมีเงินที่จำนส่งเบี้ยประกันหรือไม่ สิ่งนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกัน
นอกเหนือจากการเลือกประเภทประกันให้เหมาะสมกับตนเองแล้วนั้น ในกรณีที่ผู้ทำประกันได้ซื้อไว้แล้ว ก็ควรมั่นตรวจสอบและอ่านรายละเอียดประกันที่มีอยู่ เพื่อรักษาความคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่คุ้มครอง
จากที่กล่าวมาทั้งหมด อย่ามองข้ามการทำประกัน เป็นเพียงเบื้องต้นของประกันที่ต้องการให้ผู้อ่านได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการทำประกัน อย่าเบ้ปากเวลาที่มีคนมาขายประกันกับคุณ เพราะวันหนึ่งคุณอาจจะต้องใช้ แต่คุณกลับไม่มีประกันที่จะคุ้มครองคุณหรือช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแทนคุณ อย่ามองข้ามประกันแม้ว่าคุณจะมีการวางแผนในชีวิตเป็นระเบียบดีแล้ว เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้แบบไม่ทันตั้งตัว