มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากออมเงินเพื่อที่จะนำเงินออมเหล่านั้นไปใช้ในสิ่งต่างๆ อาจจะนำเงินเหล่านั้นไปใช้ในการซื้อสิ่งของที่อยากได้หรือสำหรับใครบางคนนั้นอาจจะเก็บไว้เป็นการศึกษาหรือค่าอื่นๆอีกมากมาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามคนเหล่านั้นที่กำลังคิดเรื่องของการออมเงิน และคนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มลงมือในการออมเงินและพร้อมกับที่จะเลิกออมเงินไดทุกเมื่อ หรืออาจจะล้มเลิกการออมเงินด้วยเหตุผลต่างๆหลากหลายประการ
แต่มีเหตุผลหนึ่งที่ทุกคนนั้นล้วนมีกันอย่างแน่นอนคือ ความขี้เกียจ ทุกๆคนนั้นล้วนมีสิ่งนี้อยู่ในตัวเพียงแต่ในตัวแต่ละคนนั้นจะมีมากหรือมีน้อยแค่ไหน ความขี้เกียจนี้คือปัจจัยหลักๆของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ในการออมเงินให้สำเร็จ ผู้คนเหล่านี้นั้นมักคิดว่า ถ้าเราขี้เกียจออมเงินนั้นเราก็จะไม่สามารถออมเงินได้แต่ถึงอย่างไรก็ตามนั้นคนขี้เกียจก็สามารถออมเงินได้ถ้ามีเพียงความพยายาม พยายามแบบคนขี้เกียจซึ่งสิ่งต่างๆที่คนขี้เกียจทำนั้นจะทำได้ไม่สำเร็จหรือสำเร็จได้ยากเช่นกัน แต่ถ้าเรานั้นลองขี้เกียจในแบบอื่นๆสิ่งนั้นอาจทำให้เรามีเงินเก็บโดยที่เราไม่รู้ตัว และความขี้เกียจเหล่านั้นมี เทคนิคออมเงิน ดังนี้
1. ขี้เกียจเก็บเงินเข้ากระปุก วางเงินเหรียญไว้บนตามที่ต่างๆ มีเยอะๆค่อยเก็บเข้ากระปุก
เป็นความขี้เกียจอย่างของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะคนที่มีกระปุกออมสินที่ยุ่งยากต่อการเปิดและยุ่งยากต่อการปิด ซึ่งสาเหตุที่มีคนจำนวนไม่น้อยเลือกกระปุกแบบนั้นมาใช้อาจเป็นเพราะว่ายิ่งเปิดยากเท่าไหร่เรายิ่งไม่อยากนำเงินออกมาใช้มากขึ้นเท่านั้น หรือสำหรับใครบางคนที่มักจะซ่อนกระปุกออมสินไว้ในที่ที่ต่อการนำออกมา ทำให้เขาคนนั้นอาจจะรู้สึกขี้เกียหยิบกระปุกออมสินใบนั้นออกมาเพื่อออมเงินอย่างแน่นอน แต่ถ้าเราขี้เกียจนั้นเราควรที่จะขี้เกียจหยิบเงินใส่กระปุก เมื่อเราเข้าบ้านแล้วนั้น เราก็เพียงหยิบเงินเหรียญออกมา วางไว้ตามที่ต่างๆก็พอ ซึ่งการออมเงินแบบนี้นั้นอาจจะดูไม่ใช่การออมเงินเท่ไหร่ แต่เมื่อใดก็ตามที่เรานั้นหยิบกระปุกออมสินมาแล้วไล่เดินเก็บเงินที่วางไว้นั้น รับรองได้ว่าแต่ละครั้งที่เราไล่เก็บเงินนั้นเราจะมีเงินเก็บจำนวนไม่น้อยจากความไม่ได้ตั้งใจเก็บแน่นอน
2. ขี้เกียจเก็บเยอะ ใส่กระปุกเล็กๆก็พอ เก็บเต็มแล้วซ่อนไว้
ความสุขของคนออมเงินนั้น ส่วนใหญ่นั้นมาจากการที่รู้ว่ากระปุกออมสินของเรานั้นได้เต็มไปด้วยเงิน ส่วนจำนวนนั้นจะมากหรือน้อยก็อีกเรื่องหนึ่ง ความขี้เกียจของเราก็เช่นกันส่วนหนึ่งมาจากการที่รู้ว่ากระปุกออมสินของเรานั้นมีขนาดที่ใหญ่เกินไป เมื่อมีขนาดใหญ่แล้วนั้นเราก็มักจะรู้สึกท้อแท้ที่ว่าเราใส่เงินไปเท่าไหร่ก็อาจจะดูเหมือนเงินไม่เพิ่มขึ้นตาม และสุดท้ายจะทำให้เรานั้นขี้เกียจไปในที่สุด ถ้าเรามองดูตัวเองดีๆแล้วนั้นการเราที่ขี้เกียจนั้นอาจเป็นเพราะกระปุกออมสินใบใหญ่เกินไป เราสามารถลดขนาดลงเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บให้เต็มและเมื่อเราเก็บเต็มแล้วนั้นเราอาจจะอยากเก็บเงินต่อลงในกระปุกใบต่อๆไป
3. เก็บเงินทั้งหมดไว้ที่เดียว แล้วใช้เงินแบบเด็กๆ
ในบางครั้งการเก็บเงินอาจจะไม่ใช่การนำเงินที่เราเหลือใช้ของวันนั้นเก็บลงกระปุกหรือการออมเงินนั้นคือการที่เราพยายามที่จะจัดเงินต่างๆที่เรามีเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกขี้เกียจกับการจัดส่วนต่างๆหรือขี้เกียจแม้กระทั่งหยิบเงินออกจากกระเป๋าเพื่อที่จะเก็บออมใส่กระปุก เราอาจจะรู้สึกวุ่นวายที่เรานั้นจะต้องคอยเก็บเงินแต่ถึงอย่างไรก็ตามคนที่ขี้เกียจนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามที่มีหลายขั้นตาม คนเหล่านั้นก็อาจจะรู้สึกเบื่อหน่ายไปเสียง่ายๆ เราสามารถตัดขั้นตอนที่ยุ่งยากต่างๆเหล่านั้นโดยการนำเงินทั้งหมดใส่ลงในกระปุกออมสินทีเดียวหรือนำเงินทั้งหมดใส่ลงไปในที่เก็บของเรา แล้วเรานั้นมีหน้าที่เพียงหาเงินแบงค์ร้อยสักใบต่อวัน นำติดตัวไปใช้ในชีวิตประจำวันในตอนเช้า รับรองได้ว่าสองขั้นตอนง่ายๆที่ไม่ยุ่งยากแต่เราควรที่จะมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้ด้วยก็ดี
4. ตั้งกฎเก็บเงินแบงค์สีเขียว เก็บเหรียญต่างๆ
มีคนจำนวนไม่น้อยที่มักจะตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆเกี่ยวกับการออมเงินไว้ว่า เราต้องเก็บเงินเข้ากระปุกออมสินวันละเท่าไหร่และต้องพยายามนับเหรียญนับเงินให้ครบหรือบางคนอาจจะไม่กล้าใช้เงินเพื่อที่จะออมเงินตามจำนวนที่เราได้ตั้งไว้ ในบางอย่างหรือบางสิ่งการตั้งกฎเกณฑ์ที่ตายตัวนั้นทำให้ชีวิตน่าเบื่ออย่างแน่นอน ซึ่งชีวิตนั้นต้องมีอิสระในหลายๆเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการออมเงินก็เช่นกันในบางครั้งการตั้งกฎเกณฑ์ก็อาจจะทำให้เบื่อง่านเกินไป แต่เรานั้นสามารถสัญญากับตัวเองเกี่ยวกับการออมเงินได้ว่า เมื่อใดก็ตามที่เรากลับบ้านแล้วมีเงินที่เป็นเหรียญหนึ่งบาท สองบาทหรือห้าบาทเราจะหยอดใส่กระปุกออมสินใบหนึ่งและเมือใดก็ตามที่เราล้วงหาเงินในกระเป๋าและเมื่อใดก็ตามที่เรานั้นเจอเงินแบงค์สีเขียวเราอาจจะหยิบเงินเหล่านั้นลงในกระปุกได้โดยที่เราไม่ต้องคิดอะไรมาก นับได้ว่าเป็นการออมเงินที่ไม่ต้องคิดอะไรมากเท่าไหร่เพราะเพียงเราเจอเงินเราก็หยิบใส่กระปุกเท่านั้นเอง