ธุรกิจ คือความฝันของใครหลายๆคน หรือทุกคนเลยก็ว่าได้ น้อยคนนักที่เติบโตขึ้นแล้วอยากเป็นมนุษย์เงินเดือน คงด้วยเพราะเหตผลหลายๆอย่างที่ทำให้คนส่วนใหญ่ถึงอยากเป็นนักธุรกิจ เป็นนักธุรกิจได้เงินเยอะ ไม่ต้องเสี่ยงโดนไล่ออกเพราะเราเป็นเจ้าของ งานสบาย มีปัญหาให้แก้ไขมีความท้าทายตลอดเวลา
เป็นเจ้าของธุรกิจ ยิ่งอยู่นานยิ่งมีความน่าเชื่อถือ ยิ่งทำให้ธุรกิจตัวเองเจริญรุ่งเรื่องได้ก็ยิ่งมีแต่ความสบาย ไม่พอใจใครก็ไล่ออก เปรียบเสมือนมีอำนาจอยู่ในมืออย่างเต็มที่ และที่สำคัญ เป็นเจ้าของธุรกิจ มีโอกาสที่จะเป็นอิสรภาพทางการเงิน หรืออย่างน้อยก็มีเงินมากพอที่อยากได้อะไรก็ซื้อเหมือนอย่างที่เราส่วนใหญ่เคยได้ยินหรือได้เห็นตามข่าวในทีวีต่างๆ ในรายการทีวี
ทางกลับกันในงานของมนุษย์เงินเดือน ได้เงินเดือนไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าเงินเดือนเยอะ ก็ต้องใช้ความพยายามที่มากมาย เสี่ยงโดนไล่ออกจากบริษัท เป็นลูกจ้างของบริษัทยิ่งอยู่นาน ยิ่งเสี่ยงโดนไล่ออก เวลาต้องการอะไรหรืออยากได้อะไร ก็ต้องดูเงินในกระเป๋า ไม่ค่อยมีอิสระในการใช้เงินสักเท่าไหร่ จะมีแต่หรูหราต้นเดือน ท้ายเดือนกินแกลบ แต่ถ้าเรามองอีกด้านของการ เป็นเจ้าของธุรกิจ กับมนุษย์เงินเดือนนั้น เราจะสังเกตได้ว่า เจ้าของธุรกิจ น้อยคนนักที่จะประสบความสำเร็จอย่างหรูหรา น้อยคนนักที่จะทำเงินได้มากมายมหาศาลต่อปี น้อยคนนักที่จะสร้างธุรกิจที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะแย่แค่ไหน เราก็ไม่เดือดหรือน้อยคนนักที่จะสร้างบริษัทได้มั่นคง โอกาสล้มละลายหมดสูง และถ้าไม่มีเงินสำรอง ก็ยากนักที่จะแก้ปัญหาขาดทุนต่างๆ
และอีกด้านหนึ่งของมนุษย์เงินเดือน เงินเสถียรได้ทุกเดือน เพียงทำตามเงื่อนไขของบริษัทหรือของรัฐ ยิ่งถ้าเป็นลูกจ้างของรัฐของข้าราชการ น้อยคนนักที่จะถูกไล่ออก เพียงทำตามที่เขาต้องการ ไม่ต้องเครียดกับปัจจัยภายนอกมาก เครียดกับงานภายในก็พอ ถึงอย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าธุรกิจไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของ ร้านบริการต่างๆ คนส่วนใหญ่ล้วนอยากมีเป็นเของตัวเองกันทั้งนั้น ถึงจะไม่ได้มากมายเหมือนบริษัทใหญ่ๆ แต่ก็ไม่อยากให้เงินตัวเองนอนอยู่เฉยๆ
เรามักตั้งคำถามว่าเริ่มหาธุรกิจของตัวเองหรือเริ่มสร้างธุรกิจเป็นของตัวเองตอนไหนกันดี เริ่มตอนที่พร้อมดีไหม เริ่มตอนที่มีทุกอย่าง เราจะมีพร้อมมีทุกอย่างเมื่อไหร่กัน เมื่อเรียนจบ หรือเมื่อมีครอบครัว ตอนเริ่มขอทุกสิ่งมักยากเสมอ และที่สำคัญไม่มีอะไรที่พร้อมไปทุกอย่าง ถ้าเรามัวแต่บอกตัวเองว่าเริ่มเมื่อพร่อม เราจะไม่มีวันได้เริ่มเพราะไม่มีวันใดที่เราพร้อม จริงๆเราควรเริ่มธุรกิจยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เริ่มตอนประถม ตอนมัธยมเลยยิ่งดีใหญ่เพราะ
-
คุณจะล้มเหลวกี่ครั้งก็ได้
สิ่งหนึ่ง อุปสรรคของการ เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือกิจการสักอย่างหนึ่ง คำว่าล้มเหลว ล้มละลายนั้น เรามักกลัวเสมอ เมื่อใดก็ตามที่เราล้มเหลวนั้น เราจะพยายามตั้งตัวใหม่ ถ้าเราล้มเหลวกับธุรกิจของตัวเองในวัย 30 ปีล่ะ เราอาจจะไม่มีเงินทุนสำรอง หรือมีเงินสำรองแต่ไม่มากพอที่จะเรียนรู้จากสิ่งผิดพลาดแล้วเริ่มต้นธุรกิจใหม่ วัยเด็กคือคำตอบที่ดีที่สุด ทุกครั้งคุณล้มเหลว คุณไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีบ้านอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินกินข้าว เพราะเรายังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ มีเงินใช้ตลอดถึงจะไม่มากมายก็ตาม มีพ่อแม่หนุนหลังเราและพร้อมที่จะช่วยเหลือเมื่อรู้ว่าเราเริ่มทำธุรกิจของตัวเองแต่เมื่อใดที่เราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่แล้ว วันนั้นคือวันที่เราต้องยืนด้วยตัวเอง และไม่มีใครคอยหนุนหลังเรา
-
มีรายรับตลอด รายจ่ายน้อย
อีกปัญหาหนึ่งของนักธุรกิจคือ ค่าน้ำค่าไฟที่มากโข ค่ากระดาษงานต่างๆ ค่าจ้างแม่บ้านทำความสะอาด และเงินค่าอื่นๆอีกมากมาย บริษัทเสียเงินกับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ใช่น้อยๆต่อเดือน ในทางกลับกันถ้าเรายังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เราสามารถตัดทิ้งไม่ต้องคิดได้เลย เว้นเสียแต่จะมีพ่อแม่ที่อยากให้ลูกทำธุรกิจแบบสมจริงมากขึ้นนะ
3.ธุรกิจเล็กๆในวันนี้ จะใหญ่โตในวันหน้า
ธุรกิจต่างๆที่ร่ำรวยมหาศาล ล้วนมาจากการเป็นธุรกิจเล็กๆมาก่อน ส่วนจะใช้เวลานานเท่าใดในการพัฒนาธุรกิจให้ใหญ่โตนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง มีน้อยธุรกิจนักที่สามารถเติบโตเข้าอสังหาริมทรัพย์ได้น้อยในเวลาอันน้อยนิด ยิ่งเราเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้จักและพร้อมเรียนรู้กับธุรกิจได้เร็วขึ้นเท่านั้น
4.สร้างวินัยการเงินของตัวเอง
ขึ้นชื่อว่า เป็นเจ้าของธุรกิจ กิจการหรือเป็นนักธุรกิจ เราย่อมรู้จักการบริหารเงินของตัวเอง รู้จักการใช้จ่ายเงิน รู้จักการเก็บเงิน รู้จักสำรองเงินฉุกเฉิน และที่สำคัญเราจะรู้คุณค่าของเงินไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย
เด็กๆน้อยคนนึกที่จะคิดถึงเรื่องพวกนี้ในอนาคต เพราะเวลาในวัยเด็กของเรามักจะเล่นทำสิ่งที่อยากทำ มากกว่าจะริเริ่มสร้างอนาคต พ่อแม่ก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของลูกๆของคุณ ยิ่งปลูกฝังความเป็นนักธุรกิจ ยิ่งหาบุคคลเป็นแรงบรรดาใจ ให้ลูกๆมีตาเป็นประกายสร้างความฝัน มีความมุ่งมั่นได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งส่งผลดีมากขึ้นเท่านั้น
คนเราส่วนใหญ่มักจะไหวตัวเรื่องธุรกิจ เรื่องงาน สิ่งต่างๆเมื่อตอนที่โตขึ้น เมื่อตอนที่ถึงเวลาที่เราต้องแก่งแย่งงานหรือเริ่มมองหาโอกาสในการทำงานต่างๆอย่างจริงจัง
ทุกๆวันที่เราปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป อาจจะมีใครบางคนหยิบฉวยโอกาสทางธุรกิจต่างๆไปเป็นของตัวเอง ดังนั้นยิ่งเริ่มต้นเร็ว เป็นเจ้าของธุรกิจ เร็วเท่าไหร่ก็ดี