ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เพิ่งเริ่มทำงานมาเป็นมนุษย์เงินเดือนใหม่ๆ และต้องมา เสียภาษี เป็นครั้งแรกแล้ว ก็อาจจะเกิดอาการงงอันเกิดจากขั้นตอนที่ชวนสับสนของการ เสียภาษี ก็ได้ หรือแม้แต่คนที่เสียภาษีมาแล้วหลายๆปีก็อาจจะลืมได้เช่นกัน นั่นก็เพราะการเสียภาษีนั้นทำปีละ 1 ครั้งเท่านั้นเอง ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำกันว่าถ้าหากเราจะทำการ เสียภาษี เงินได้บุคคลธรรมดานั้น เราต้องไปทำอะไรกันบ้างหรือต้องดูอะไรกันก่อนบ้าง แน่นอนว่าหลายคนก็อยากจะรู้กันอยู่ใช่ไหมล่ะ งั้นเราไปทำความเข้าใจกันเลย
- ดูว่ารายได้ของตนเองนั้นเกิน 50,000 บาทต่อปีหรือไม่ ซึ่งถ้าคุณเป็นเด็กจบปริญญาตรีมาใหม่ๆนั้นมีโอกาสที่จะถึงอยู่แล้ว คิดดีๆว่าถึงไหม ถ้าไม่ถึงก็วางได้เลยเอกสารการหักภาษีนี้ เพราะคุณไม่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าถึงก็ต้องไปที่ข้อต่อไปกันเลย แต่ทั้งนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะรายได้ 50,000 บาทต่อปีนั้นยังไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษีหรอก เพียงแต่ต้องยื่นแบบรายได้ต่อปีด้วยนั่นเอง ส่วนใครที่มีรายได้ 150,001 บาทขึ้นไป ก็ทำใจได้เลยว่าจะต้องเสียภาษีแล้วล่ะ
- ขอเอกสารการหักภาษีจากที่ทำงาน เพราะปกติแล้วเอกสารการหักภาษีนั้นจะถูกส่งไปที่ทำงานอยู่แล้ว ถ้าหากใครยังไม่ได้ก็มี 2 กรณีคือ ทางเจ้านายไม่ได้ให้ หรือเราไม่ได้ไปรับ ดังนั้นตรวจสอบให้ดีว่าเป็นกรณีไหน ถ้าเป็นกรณีแรกก็เข้าไปขอเอกสารการหักภาษีดีๆ แต่ถ้าเป็นกรณีหลังก็ต้องพิจารณาตัวเองทำไมไม่รู้ และปีนี้เราจะได้กระตือรือร้นล้นกว่าปีที่ผ่านมานั่นเอง
- ลดหย่อนภาษี แน่นอนว่าเราสามารถนำกิจกรรมทางการเงินบางชนิดก็สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีลงได้ ยกตัวอย่าง เช่น การมีคู่สมรส ซึ่งรายได้ของคู่สมรสบางส่วนหรือบางประเภทจะถูกนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ หรือเบี้ยประกันซึ่งมีอายุกรรมธรรม์เกิน 10 ปีขึ้นไป และเงินสะสม เช่น เงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น หากมีเท่าไหร่ก็เอามาลบออกจากภาษีที่ต้องจ่ายออกไปในสัดส่วนที่กำหนด ซึ่งขั้นตอนที่เราจะขอลดหย่อนภาษีนั้นเราต้องกรอกใบแนบไปอีกใบหนึ่งนั่นคือใบ ลย.1 นั่นเอง ซึ่งการลดหย่อนภาษีนี้ก็จะให้ผลดีต่อคุณมากทีเดียว เพราะฉะนั้นอย่าละเลยเป็นอันขาด เนื่องจากบางทีหักค่าลดหย่อนแล้ว คุณก็อาจจะไม่ต้องเสียภาษีก็ได้นั่นเอง ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลยจริงไหม เพราะฉะนั้นเมื่อถึงวันเสียภาษีอย่าลืมเตรียมหลักฐานการลดหย่อนภาษีให้พร้อมด้วยล่ะ
นอกจากนี้เราควรทำความรู้จักกับภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายอีกด้วย ซึ่งเงินภาษีส่วนนี้จะถูกหักไปโดยผู้จ่ายเงินก่อนที่เงินจะถึงมือผู้รับเงิน และผู้จ่ายเงินจะต้องให้หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นจำนวนเงินไว้ด้วย และถ้าถามว่ามันจะมาช่วยให้เราลดหย่อนภาษีลดลงได้อย่างไรนั้น ต้องบอกเลยว่ามันก็คือการที่เราเสียภาษีไปนั่นแหล่ะ แต่เป็นการเสียภาษีที่เสียไปทีละน้อยทุกเดือน เช่น ถ้าหากปลายปีเราต้องจ่ายภาษีรวม 10,000 บาทแต่เราไปขอหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย แล้วเจอว่าเราเสียภาษีไปแล้ว 9,000 บาทนั่นก็แสดงว่าเราต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีก 1,000 บาทเท่านั้น ดังนั้นอย่าลืมไปขอหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเจ้านายหรือผู้จ่ายเงินเดือนกันนะมนุษย์เงินเดือนหน้าใหม่
- เปิดคอมพิวเตอร์แล้วเอารายได้ รายจ่าย ภาษีของเราไปคำนวณดูว่าเราต้องเสียภาษีเท่าไหร่ แต่ไม่ว่าจะต้องเสียหรือไม่ เราก็เขียนเอกสารการหักภาษีและยื่นที่กรมสรรพากรอยู่ดี แค่มีเงินรายได้ต่อปีเกิน 50,000 บาทขึ้นไป ก็เท่ากับว่าคุณมีหน้าที่ต้องยื่นแบบเสียภาษีแล้ว แต่ยังไม่ต้องเสียภาษีเท่านั้นเอง
- ไปเสียภาษี ซึ่งเดี๋ยวนี้การเสียภาษีก็เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เสียภาษีมากทีเดียว คือมีการเปิดให้ยื่นแบบภาษีผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้ด้วยนั่นเอง ซึ่งก็จะทำให้ไม่ต้องเดินทางไปเสียภาษีที่สรรพากรซึ่งอาจจะอยู่ไกลสักหน่อยสำหรับางคน แต่ทั้งนี้การยื่นเสียภาษีผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต ก็ต้องตรวจสอบข้อมูลให้พร้อมและถูกต้อง ก่อนส่งแบบภาษีด้วยล่ะ ทีนี้ก็เสร็จสิ้นเรื่องภาษีแล้ว ส่วนใครที่คิดจะหนีภาษี หยุดความคิดโดยด่วน เพราะคุณไม่อาจจะหนีภาษีได้อย่างแน่นอน เมื่อกรมสรรพากรยื่นฟ้องย้อนหลัง ก็จะทำให้คุณต้องเสียภาษีและค่าปรับต่างๆ มากกว่าที่คิดก็ได้นะ
หลังจากนั้นเราก็เริ่มทำการเสียภาษีซึ่งมันก็เกิดเหตุการณ์ที่เราเสียภาษีไปเกินบ้างเช่นกัน ที่เราทำได้นั่นก็คือการขอคืนภาษีนั่นเอง ซึ่งก็จะมีเอกสารให้กรอกเช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดถ้ามนุษย์เงินเดือนหน้าใหม่ทั้งหลายไม่อยากเสียภาษีนั้นคือการทำให้ภาษี ณ ที่จ่ายของเรานั้นมีความใกล้เคียงกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เราต้องจ่ายจริง มันก็จะเหมือนว่าเราไม่ต้องเสียภาษีเลยตลอด 1 ปีนั่นเอง แต่ก็ต้องระวังอย่าไปเสียภาษีเกินจำนวนๆจริงๆด้วยแล้วกัน ไม่อย่างนั้นต้องลำบากมาขอคืนกันทีหลังอีก ซึ่งอาจจะกวนใจเรามากกว่าเดิมได้นั่นเอง