เนื่องจากในภาวะปัจจุบัน ที่บ้านเมืองเรากำลังประสบปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจอย่างมากมาย ทำให้เกิดการส่งผลต่อบุคคลและครอบครัว โดยแต่ละฝ่ายต่างได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้า ทำให้หลายครอบครัวมีปัญหาในเรื่องของการเงินเข้ามา บางบ้านต้องไปกู้หนี้ยืมสิน หรือเป็นหนี้นอกระบบ เพราะการทำมาหากินไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน บางครอบครัวพ่อแม่ตกงานไม่มีรายได้ ยิ่งส่งผลให้ลูก ๆ ไม่มีเงินค่าใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน เรียกได้ว่าพิษของเศรษฐกิจทำให้หลายๆ ครอบครัว ต่างก็มีปัญหาชีวิตลำบากไปด้วย พ่อแม่หลายคน ยอมอดยอมเป็นหนี้ เพื่อให้ลูกอิ่ม
อีกหนึ่งหนทางของการอยู่แบบ เศรษฐกิจพอเพียง
ลูกคือดวงใจของพ่อแม่ที่ต่างก็ยอม เป็นหนี้สิน เพื่อให้ลูกได้มีกิน มีใช้ และหาเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษา ด้วยความรักที่พ่อแม่มีต่อลูก จึงเป็นเหตุให้ยอมทุ่มเทเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อให้ลูกใช้จ่ายอย่างสบาย โดยที่ลูกบางคนอาจจะไม่สำนึกและกลับคิดว่าพ่อแม่มีเงินมากมาย จนพาลให้คิดไปว่าพ่อแม่คือเอทีเอ็มดีๆ นี่เอง ที่จะกดเมื่อไรเงินทองก็ได้ดั่งใจเมื่อนั้น หากลูกๆ ที่อยู่ในช่วงวัยที่เป็นนักศึกษา แล้วมีความกตัญญู จะทำให้รู้ว่าหน้าที่ของลูกที่ดีจะต้องทำอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่การหารายได้เสริมเพื่อให้ครอบครัวไม่ต้องอดอยาก ไม่เป็นหนี้ จะอยู่ในเรื่องของการขายของมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเปิดท้าย การขายสินค้าออนไลน์ หรือการทำอาหารหรือของกินไปขายในช่วงเวลาว่าง เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการหารายได้ช่วยครอบครัว หากแต่บ้านไหนที่มีลูกขี้เกียจ และไม่สนใจว่าพ่อแม่จะเป็นหนี้มากเพียงใด ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีความคิดและความสำนึกถึงความเป็นลูกที่ดี ตรงกันข้าม กลับยิ่งทำให้พ่อแม่ต้องลำบาก แถมยังต้องแบมือขอแบบรีดไถโดยไม่นึกถึงความเดือดร้อนอีกด้วย
มีวินัยในการใช้จ่าย และการซื้อของที่จำเป็น
ลูกๆที่มีความเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นและพร้อมยอมรับความจริงและจะช่วยในเรื่องการใช้จ่ายแต่ในสิ่งที่จำเป็น และพร้อมจะเป็นกำลังใจ ที่จะทำให้พ่อแม่สู้ทน และช่วยกันหาหนทางแก้ไขในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงิน ที่ครอบครัวกำลังประสบปัญหาให้ผ่านไปด้วยดี และถึงเศรษฐกิจจะมีปัญหาอย่างไร หากลูกๆ ได้ปฏิบัติตนอย่าง มีวินัยทางการเงิน โดยอยู่และใช้จ่ายอย่างพอเพียง ก็จะทำให้อุปสรรคด้านการเงินผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ซึ่งการมีวินัย คือ แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ซึ่งจะนำมาสู่หนทางแห่งความผาสุขและความเจริญรุ่งเรืองสู่ ซึ่งวินัยทางการเงินที่ควรมีคือการประหยัด และอดออม การประหยัดที่ว่านี้ก็คือ การใช้จ่ายเงินที่มีอยู่อย่างรู้ค่า และคิดก่อนซื้อ หรือคิดก่อนใช้ เมื่อจะซื้อของสักชิ้นขอให้ หยุดคิดก่อนสักนิดว่า ของสิ่งนี้ซื้อแล้วจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไร และสามารถใช้ได้ในทันทีหรือไม่ เหมาะสมกับเงินที่จ่ายไปแค่ไหน หากหยุดคิดจะทำให้การจ่ายเงินจำนวนนี้ซื้อของอย่างได้ประโยชน์ และคุ้มค่าแต่ถ้าซื้อโดยไม่คิด บางครั้งเมื่อซื้อไปแล้วไม่พอใจอยากใช้ ก็สูญเสียเงินไปเปล่า ๆ
หลักการใช้เงินที่ได้ผล
การซื้อสิ่งของ หากชิ้นใดยังไม่พอใจควรเก็บเงินจำนวนนี้ไว้ก่อน และควรนำมาซื้อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ จะดีกว่า เพราะเงินที่ยังไม่ได้ใช้ หากมีการนำไปฝากในธนาคารก็จะสามารถทำให้มีมูลค่าเพิ่ม และได้ดอกเบี้ย และเมื่อถึงเวลาจำเป็น ที่จะต้องใช้ก็สามารถซื้อของได้มากขึ้นอีกจากการออม ซึ่งการออมเงินที่ดีคือ การที่ได้รับเงินเข้ามามากกว่าจ่ายออกไป ซึ่งจะมีเงินส่วนที่เหลือเก็บไว้เรียกว่า เงินออม และเมื่อเงินออมมีการสะสมมากเข้าๆ ก็จะทำให้กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ขึ้นมา พร้อมทั้งดอกเบี้ย ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มาก เมื่อยามจำเป็นหากถึงคราวที่จะต้องถอนเงินเก็บ หากฝากกับธนาคารก็จะได้ดอกเบี้ย แต่หากไม่มีการใช้ดอกเบี้ย เมื่อยังไม่ถอนออกไปใช้ก็จะทำให้ดอกเบี้ยนั้นกลายเป็นเงินต้นและมีดอกผลตามมาอีกที่เค้าเรียกกันว่าดอกเบี้ยทบต้นนั่นเอง
บทสรุปของการประหยัดเงิน
หากมีความคิดที่จะเก็บเงิน การเริ่มทำเท่าที่ทำได้ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะมีคำกล่าวไว้ว่า การเริ่มต้นที่ดีก็เท่ากับทำสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ดังนั้นหากจะเริ่มต้นเสียตั้งแต่วันนี้ ด้วยการเก็บเงินทีละเล็กทีละน้อย ก็จะทำให้กลายเป็นคนมั่งมีได้ในวันข้างหน้า การมี หนึ่งสมองสองมือ ก็ควรจะทำอะไรให้สมองมีไว้สำหรับหัดคิด และมีการหัดวางแผน และใช้สองมือทำเพื่อให้สิ่งที่คิดหวังไว้นั้นเป็นจริงได้ เพราะหากมัวแต่คิดเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ยอมลงมือทำในสิ่งที่คิดไว้ ก็จะไม่มีทางเป็นจริงได้เลย เมื่อคิดได้วางแผนอย่างรอบคอบแล้วก็ต้องลงมือทำด้วย จึงจะทำให้ความสำเร็จเกิดขึ้นได้
ไม่เพียงแต่การเก็บเงินเพียงอย่างเดียว หากในช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้ การเลือกใช้จ่าย การช่วยพ่อแม่ประหยัด การช่วยพ่อแม่หารายได้เข้าบ้าน รวมถึงการซื้อสินค้าที่ใช้ได้นาน ซึ่งสินค้าบางอย่างก็ต้องเน้นคุณภาพมากกว่าราคา เพราะหากยอมลงทุนซื้อของดีที่มีราคามา ก็จะทำให้ได้นานและคุ้มค้าต่อการใช้งาน กว่าของราคาถูกแต่ใช้ไปได้ไม่เท่าไรก็พังแล้ว