หลายคนคงจะเคยได้ยินข่าวเรื่องการฝากเงินของหนูน้อยคนหนึ่ง ซึ่งมีอายุเพียงห้าขวบเท่านั้นและได้นำเงินเหรียญต่างๆ ที่เจ้าตัวได้หยอดกระปุกทุกวันไปฝากธนาคาร แต่กลับถูกธนาคารปฏิเสธในการรับฝากเงินจากลายเป็น เรื่องราวของดราม่า ไม่รับฝากเงินเหรียญ ซึ่งเป็นสกู้ปออนไลน์ไทยรัฐได้นำออกมาเผยแพร่ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งในอดีตที่เชื่อว่าหลายๆคนที่เป็นเด็กเองมักจะถูกปลูกฝังให้รู้จักหยอดกระปุกด้วยเหรียญที่เหลือเก็บจากค่าขนมทุกวัน แล้วจะมีตัวแทนจากธนาคารมาตั้งโต๊ะรับฝาก ทำให้เด็กไทยสมัยก่อน ที่กลายเป็นผู้ใหญ่ในตอนนี้ได้ปลูกฝังไปยังลูกหลานตัวเองอีกครั้ง
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา ในกรณีที่ธนาคารไม่ยอมรับฝากเหรียญ ทำให้หลายคนคิดว่าค่านิยมในการออมเงินของเด็กน้อยได้เปลี่ยนไปแล้วหรือ ธนาคาร ไม่รับฝากเงินเหรียญ จากเด็กๆแล้วหรือ เพราะเหรียญมีค่าน้อยกว่าแบงค์ใหญ่ๆ จากผู้ใหญ่งั้นหรือ ทำเช่นนี้ก็จะดูเหมือนกับเป็นการทำลายความฝันของเด็กๆ อีกหลายๆคนหรือเปล่า และทำให้เด็กๆที่กำลังออมเงินเหรียญเหล่านั้นหมดกำลังใจที่จะออมเงินต่อไปหรือไม่
ความสำคัญของการออมเงินกับที่มาของการออมเหรียญมาฝาก
กลายเป็นข้อถกเถียงและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางสำหรับกรณีที่ ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งที่มีการปฏิเสธรับฝากเงินเหรียญของเด็กน้อย แถมยังคิดค่าธรรมเนียมรับฝากเงินเหรียญกษาปณ์ และเป็นการนำเงินเหรียญไปชำระหนี้ได้เพียงไม่กี่บาทเท่านั้น ทำให้กลายเป็นปัญหาถกเถียงว่าสุดท้ายแล้วมันกลายเป็นที่มาของคำถามที่ว่า ‘เงินเหรียญไร้คุณค่าหรืออย่างไร ?’
หลังเกิดกระแสดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารไปในทางเสียหาย จนกระทบไปถึงเหล่าธนาคารยักษ์ใหญ่ทั้งหลายที่ต้องออกมาชี้แจงข้อมูล และรายละเอียดของการฝากเงินเหรียญกันอุตลุด และแม้ว่า การนำเงินเหรียญไปฝากธนาคารอาจไม่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าพนักงานธนาคารที่คอยให้บริการ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันและไม่สามารถละเลยได้คือ ความตั้งใจจริงของประชาชนโดยเฉพาะเด็กๆ หรือแม่ค้าที่นำเงินมาฝาก เพราะสิ่งนี้เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงความอดออม อันเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่งขึ้นได้
การออมเหรียญกับน้ำหนักที่มากมาย
เหรียญทุกเหรียญล้วนมีน้ำหนักในตัวของมันเองทั้งสิ้น ฉะนั้น ผู้ที่เดินทางนำเงินไปฝากกับทางธนาคาร จำต้องแบกเอาน้ำหนักของจำนวนเหรียญไปด้วย ยกตัวอย่างกรณีของ เด็กหญิงวัย 5 ขวบตามข่าวที่นำเงินที่ได้จากการหยอดกระปุกมาฝากธนาคาร จำนวน 7,000 บาท ดังนั้น เท่ากับครอบครัวของเด็กหญิงคนนี้ได้ถือเงินไปฝากด้วยน้ำหนักของเงินทั้งหมดประมาณ 10.12 กิโลกรัมประมาณว่าแบกถุงข้าวสารมาถึง 2 ถุงเลยทีเดียว แต่ก็นับว่าเป็นความพยายามของเด็กที่จะออมงิน ซึ่งก็ควรที่จะส่งเสริม อาจจะต้องเหนื่อยกับการมานั่งนับเงินกันหน่อย แต่เมื่อนึกถึงเด็กที่อุตส่าห์แบกเงินเหรียญมาฝาก ก็ยังไม่ได้ครึ่งของเขาเลยนะ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะส่งเสริมให้เด็กออมเงินมากกว่า แม้จะต้องมานั่งนับเหรียญกันจนเหนื่อย แต่ก็เป็นการสร้างกำลังใจให้เด็กรู้สึกอยากออมเงินมากทีเดียว
ธนบัตรหรือเหรียญ ย่อมมีคุณค่าเท่าเทียมกัน
ทางธนาคารต่างๆ ยังคิดค่าบริการรับฝากเหรียญกษาปณ์อีกด้วย ตามแต่ละที่ธนาคารได้กำหนด ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท.อนุญาตให้คิดค่าบริการฝากเงินเหรียญได้ แต่ต้องประกาศให้ลูกค้ารับทราบอย่างชัดเจน เนื่องจากต้องเข้าใจว่าการให้บริการเหล่านี้มีต้นทุนการปฏิบัติงาน และใช้เวลาในการนับพอสมควร ส่วนการดูแลการคิดค่าธรรมเนียมตามหลักการของ ธปท.นั้นจะพยายามไม่เข้าไปแทรกแซง เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้ธนาคารกับลูกค้าสามารถจัดการกันเองได้” ซึ่งเป็นคำชี้แจงคลายสงสัยเหตุจากข่าวธนาคารปฏิเสธรับฝากเหรียญจาก นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศ
การฝากเงินกับธนาคารยังถือว่าเป็นอีกทางเลือกยอดนิยมของผู้ที่ชอบออมเงิน เพราะในส่วนผู้ที่ครอบครองไว้ซึ่งเงินเหรียญเป็นกระบุงนั้น ก็สามารถนำไปแลกเป็นธนบัตรได้ที่สำนักบริหารเงินตรา กรมธนารักษ์ หรือใช้บริการได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดแต่ละจังหวัดโดยตรง ในอีกหนทางหนึ่ง การออมเงินไม่ว่าจะเป็นเหรียญหรือธนบัตร ย่อมเป็นการลงทุนอย่างชาญฉลาดทั้งสิ้น อันเป็นเสมือนอีกขั้นตอนหนึ่งในการวางรากฐานความเป็นอยู่ของอนาคตให้มั่นคง เพราะความร่ำรวย ความมั่งคั่งคุณลิขิตได้!
การฝากเงินเหรียญ นับว่าเป็นชีวิตจิตใจของเด็กกันเลยทีเดียว เพราะเด็กส่วนใหญ่จะออมเงินด้วยการหยอดกระปุกออมสินวันละ 5-10 บาทกันทั้งนั้น ซึ่งเงินเหรียญนี่ล่ะที่ทำให้เขารู้สึกดีและมีกำลังใจที่อยากจะออมเงินมากทีเดียว เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนรวมถึงธนาคารเข้าใจเด็กมากขึ้นด้วยและควรส่งเสริมเขามากกว่าที่จะบอกว่า ไม่รับฝากเงินเหรียญ ซึ่งมันก็เป็นการทำร้ายจิตใจของเด็กมากทีเดียว อีกทั้งยังจะทำให้ความคิดเกี่ยวกับการออมเงินของเด็กเปลี่ยนไป เด็กอาจจะขาดกำลังใจและไม่อยากออมเงินอีกเลย และมองว่าเหรียญไม่มีค่า เพราะฉะนั้นควรส่งเสริม อย่ามองข้ามว่าเป็นเหรียญและจะไม่รับฝาก หรือไม่พ่อแม่ก็อาจจะนำเงินเหรียญของลูกไปแลกที่สำนักบริหารเงินตราในจังหวัดก่อนก็ได้ แค่นี้ก็โอเคแล้ว