หลายๆคนคงเคยผ่านประสบการณ์ที่ว่าเวลาจะเริ่มทำอะไรใหม่ๆ หรือจะตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ มักจะมีคนในครอบครัว เพื่อนฝูง คนรอบข้าง ทักนั่นนี่ เตือนด้วยความหวังดีต่างๆนาๆ หลายคนเชื่อคนรอบข้าง หลายคนตัดสินใจลุยต่อ คงไม่มีใครรับประกันได้ว่า ถ้าทำแล้วผลจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่ทำแล้วจะเสียดายทีหลังหรือไม่ เพราะไม่มีใครรู้อนาคตล่วงหน้า เรื่องของมะลิ ก็เช่นเดียว ที่ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เมื่อเธออยากทำร้านกาแฟ แต่หนทางค่อนข้างลำบาก
เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนของมะลิได้ส่งข่าวว่าจะไปเปิดร้านขายของเก่าของสะสมที่ตลาดอิงน้ำ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ แต่ร้างผู้คนไปนานแล้ว เดิมตลาดนี้ชื่อว่าสามโคก เป็นเมืองท่าที่สำคัญในยุคกว่าร้อยปีที่แล้ว ต่อมามีผู้นำในหมู่บ้านได้ริเริ่มโครงการตลาดอิงน้ำสามโคก เพื่อรื้อฟื้นชุมชนโบราณให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว พอมะลิรู้ข่าวก็ไปเดินดูว่าพอจะมีลู่ทางทำกินอะไรได้บ้าง เนื่องจากตลาดเพิ่งจะเริ่มเปิดใหม่ คนมาเที่ยวคงยังไม่เยอะ ร้านค้าก็ยังไม่เยอะ อาจเป็นโอกาสในการจับจองและเป็นเจ้าของพื้นที่ทำเลดีๆ เมื่อไปถึงครั้งแรก มะลิถูกใจในสถานที่นั้นทันที เพราะชอบบรรยากาศบ้านเก่าเมืองสมัยก่อน และบังเอิญว่ามีบ้านห้องแถวไม้หลังหนึ่งปล่อยให้คนเช่า ค่าเช่าถูกมาก มะลิสนใจมากเช่นกัน คิดอยู่นานว่าจะทำอะไรที่บ้านไม้หลังนี้ดี
ระหว่างนั่งรถขากลับ มะลิตัดสินใจว่า ไม่เอาดีกว่า ถ้าอยากค้าขายก็ไปเปิดร้านในที่ชุมชนคนเยอะๆไม่ดีกว่าหรือ มะลิลืมเรื่องบ้านไม้นั้นไป พอดึกสงัดสักตีสองตีสาม มะลิผุดไอเดียขึ้นมาได้ว่า น่าจะทำเป็นร้านกาแฟโบราณ เนื่องจากบ้านอยู่ริมน้ำ ลูกค้าน่าจะชอบ และคิดว่าตลาดนี้น่าจะบูมได้ภายใน 1 ปี รุ่งเช้ามะลิรีบไปติดต่อเจ้าของบ้านและวางมัดจำ จากนั้นก็เริ่มวาดฝันว่าจะแต่งร้านยังไง คิดไปยิ้มไปอย่างมีความสุข เมื่อผู้เป็นพ่อได้ล่วงรู้ความคิดของมะลิ พ่อไม่เห็นด้วย เพราะตลาดอิงน้ำเพิ่งเปิดใหม่ ยังไม่มีคนเดิน จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่า เมื่อพี่สาวรู้ พี่สาวก็ไม่เห็นด้วย บอกว่าถ้าจะเปิด สู้ไปเปิดในชุมชนที่คนเยอะแล้วไม่ดีกว่าหรือ ยังไงก็ขายได้ เมื่อพี่ชายรู้เข้า ก็บอกว่าถ้าเป็นเขา เขาก็จะไปหาทำเลที่ดีกว่านี้ ไหนๆก็เหนื่อยทั้งที ก็เหนื่อยแบบที่มีรายได้ชัวร์ไม่ดีกว่าหรือ
เสียงทัดทานจากคนทางบ้าน ทำให้ใจมะลิเริ่มเขว พยายามคิดกลับไปในวันที่ทำสัญญากับเจ้าของบ้าน มะลิคิดอะไร มีแผนการบริหารจัดการอย่างไร สุดท้ายนึกออกว่า เหตุผลหลัก ก็เหมือนกับตอนซื้อหุ้น มะลิชอบลงทุนยาวๆ และชอบซุ่มหาตัวหุ้นที่คนไม่สนใจ มะลิจะลองเสี่ยงกับหุ้นนิ่งๆที่ยังไม่วิ่งไปไหน ถ้าเขาคิดและตัดสินใจถูก หุ้นนั้นจะทำกำไรได้หลายเท่า เพราะเข้าซื้อแต่เนิ่นๆ เช่นกันกับห้องแถวบ้านไม้หลังนี้ มีทำเลไม่เลว หากตลาดอิงน้ำแห่งนี้โด่งดังขึ้นมาในอนาคต มะลิย่อมทำกำไรจากค้าขายในตลาดแห่งนี้ได้ เพียงตอนนี้ต้องรอเวลา และหวังว่าตลาดจะบูมขึ้นมาจริงๆ
เรื่องของมะลิคงไม่มีใครรู้ว่า ในวันข้างหน้าตลาดจะได้รับความนิยมสมใจหรือไม่ แต่มะลิก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว ครอบครัวก็เตือนด้วยความหวังดี และมีมุมมองที่ต่างออกไป ใครที่เจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ หลายคนคงไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะฟังเสียงของหัวใจ หรือจะน้อมรับความห่วงใยของคนอื่น จริงๆก็คงไม่มีคำตอบที่ดีที่สุด เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สิ่งที่ควรทำคือ ทำให้ดีที่สุดเท่าที่ความรู้ ประสบการณ์และความสามารถที่มี เราทำดีที่สุดแล้ว ผลจะเป็นอย่างไร ก็ต้องยอมรับ เรียนรู้ และเติบโต สู้ต่อไปมะลิ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ มองหาแง่มุมที่ดีของมันให้เจอ คิดบวกเข้าไว้ จะได้มีกำลังใจก้าวเดิน