ถ้าพูดถึงเรื่องการทำธุรกิจหรือแม้กระทั่งการลงทุน ในทุกวันนี้ล้วนแล้วแต่อาศัยเส้นทางสื่อออนไลน์กันทั้งนั้น นั่นก็เพราะต้องการขยายตลาดและสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักได้กว้างมากขึ้น ตลาดออนไลน์ เพิ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ นั่นก็เป็นเพราะว่า คนเพิ่งจะเริ่มรู้จักใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย
แต่ก่อนย้อนไปสักเมื่อ 10 ปีกว่าที่แล้ว ตอนนั้นสื่อออนไลน์อย่าง Facebook ก็เพิ่งจะเป็นที่ปรากฏสายตาชาวโลกเมื่อปี 2004 โดยคุณมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เป็นผู้ก่อตั้ง แต่นั่นก็เป็นที่รู้จักกันในวงแคบเท่านั้น ซึ่งกว่าจะได้รับความนิยมไปทั่วโลกก็ใช้เวลาไปนานพอสมควร เช่นเดียวกันกับในประเทศไทยเอง ในช่วงที่ Facebook ได้เข้ามาใหม่ๆ ก็ยังไม่มีใครรู้จักเท่าไหร่ ตัวผมเองก็เพิ่งจะเริ่มใช้งานจริงๆจังก็ตอนประมาณ ปี 2010 เห็นจะได้ พัฒนาการของ Facebook ก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหน้าตามาเรื่อยๆ จนที่ในที่สุด นอกจากจะเป็นเครือข่ายสังคมที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างบุคคลแล้ว ยังหมายรวมไปถึงการเป็นสื่อกลางในการขายสินค้าและขายไอเดียต่างๆอีกด้วย
ถ้าหากเราสังเกตการทำการตลาดบน Facebook นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปอย่างที่คิด วิธีการอันดับแรกเลยถ้าหากเราทำธุรกิจอยู่แล้ว เช่น เครื่องสำอาง ถ้าจะโปรโมทบน Facebook ก็สามารถทำการโปรโมทผ่าน Facebook Ads ได้โดยการลงทุนอีกสักหน่อยด้วยการซื้อโฆษณา กระตุ้นยอดไลค์ ยิ่งคนเห็นเพจเรามากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งมีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายให้กับเรามากขึ้นเท่านั้น แคมเปญของการโฆษณาก็มีแบบที่เป็นรายวันตามราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน สามารถเจาะตลาดได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายตาม เพศ อายุ ลักษณะความสนใจ ต่างๆ ตามที่เราต้องการ อย่างเช่น
ถ้าคุณขายเครื่องสำอางงานเคาน์เตอร์แบรนด์นำเข้า ที่ราคาสูงหน่อย อันดับแรกก็ต้องวิเคราะห์ลูกค้าก่อนว่า เหมาะกับลูกค้าที่มีลักษณะแบบไหน เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย(รวมไปถึงเพศที่สาม),กำหนดช่วงอายุ เช่น 25-50 ปี คนช่วงวัยนี้จะเป็นวัยที่อยู่ในช่วงวัยทำงาน ย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องใส่ใจและดูแลตัวเองเกี่ยวกับความสวยความงาม เพราะต้องออกงานสังคมบ้าง มีงานปาร์ตี้บ้าง หรืออบรมสัมนาบ้าง ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงอย่างไรก็ต้องอยากสวยอยากดูดี กำลังซื้อก็มีมากเพราะหาเงินมาใช้จ่ายด้วยตนเองได้แล้ว นอกจากนั้นก็ต้องกำหนดความสนใจด้วย ให้อยู่ในกลุ่ม Beauty, Cosmetics เป็นต้น จะช่วยให้โฆษณานี้เป็นที่มองเห็นได้ตรงเป้าหมายที่สุด
เมื่อผ่านขั้นตอนการโฆษณาสิ่งที่ควรทำที่สุดเป็นอันดับต่อไปก็คือ หน้าเพจของเราจะต้องมีความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ขยันโพสต์ ลงกิจกรรม ลงโปรโมชั่นดีดี อัพเดตข้อมูลข่าวสารต่างๆให้ชวนน่าติดตามอีกทางหนึ่งด้วย อะไรที่มีสาระเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ก็สามารถนำมาแชร์ลงบนหน้าเพจของเราเพื่อเพิ่มยอดวิวได้เช่นกัน โปรโมชั่นดีดีอย่างเช่น กิจกรรมกดไลค์และแชร์ภาพของเพจเพื่อลุ้นรางวัล ก็เป็นกลยุทธ์การตลาดอย่างหนึ่งเมื่อมีการแชร์ นั่นหมายความว่าเพจของเราจะได้ผ่านและสู่สายตาคนหมู่มาก ย่อมทำให้เป็นที่น่าสนใจและดึงดูดผู้คนให้เพิ่มขึ้น นั่นเอง
แต่ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่า จะทำธุรกิจหรือขายสินค้าออนไลน์ประเภทไหน เริ่มต้นสำรวจตลาดก่อนเลยครับว่า สินค้าอะไรที่สามารถตอบโจทย์คนส่วนมากได้และไม่ซ้ำที่เคยมีอยู่แล้ว นั่นจะเป็นสิ่งที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับตัวสินค้าเอง อย่างเช่นการออกไปสำรวจสินค้าที่เป็นสินค้าท้องถิ่น ถ้วยกาแฟเซรามิกน่ารักๆ,ของขวัญ,ของที่ระลึก,สิ่งประดิษฐ์,กระเป๋าผ้า,รองเท้าทำมือ เป็นต้น แล้วมาสำรวจตลาดว่าสินค้าเหมาะกับผู้ใช้ในกลุ่มใด เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าหรือไม่ ?
ถ้ายังไม่ใช่ ลองหาสินค้าตัวอื่นๆดูก็ได้ บางร้านอาจจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อในจำนวนมากแล้วไปขายต่อเอากำไร เน้นขายในปริมาณมาก ก็ถือว่าเป็นแนวทางในการขายที่สร้างกำไรเยอะเหมือนกัน ยิ่งถ้าเป็นการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามา ก็จะได้นำราคาต่อหน่วยที่ถูกลง ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของเราแล้วว่าจะต้องการกำไรเพิ่มเติมจากต้นทุนมากน้อยเพียงใด
การทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ไม่ได้มีแค่เพียงพื้นที่บน Facebook อย่างเดียวนะครับ ยังมีพื้นที่ Social media อื่นๆ เช่น Line,Instargram ทั้งนี้ยังรวมไปถึง การขายผ่านเว็บไซต์ต่างๆทั้งที่เปิดให้โพสต์สินค้าฟรีและแบบที่ให้เช่าซื้อโดเมนไว้ทำเป็นเว็บไซต์ของตนเองครับ แต่ถ้าเป็นที่ Facebook นั้นก็อาจจะเข้าถึงผู้คนจำนวนมากและง่ายกว่านั่นเอง
การพัฒนา ตลาดออนไลน์ เล็กๆบนพื้นที่ของ Facebookนั้นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของคนที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ มีทุนน้อย หรือมีงบที่จำกัด โฆษณาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญพอๆกับตัวสินค้าเลยครับ ยิ่งถ้าอยากเพิ่มยอดขายในเริ่มแรกดังที่กล่าวมาในข้างต้นก็ต้องมีการลงทุนซะหน่อย ในระยะนี้อาจจะลำบากตรงที่ต้องเพิ่มยอดไลค์ แต่เมื่อได้ยอดที่อยู่ตัวแล้ว การโปรโมทในครั้งต่อๆไปก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ
เราในฐานะที่เป็นผู้ขายก็ต้องใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยด้วยครับ ไม่ใช่ว่าต้องการแค่ขายเอากำไรเพียงอย่างเดียว บริการระหว่างการขายและหลังการขายควรให้เป็นที่น่าประทับใจที่สุด เพราะนั่นหมายถึง เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าคนเดิมเพื่อที่เขาอาจจะนำไปบอกต่อ หรือกลับมาอุดหนุนใหม่ ก็เป็นรายละเอียดที่ไม่ควรมองข้าม
เอาล่ะครับ สุดท้ายนี้ สื่อออนไลน์ก็ถือว่าเป็นตลาดใหม่ที่เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ถ้าสนใจก็อย่างที่บอกครับ ขยันโพสต์บ่อยๆ กระตุ้นโพสต์ สร้างความสนใจให้กับลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย ความสำเร็จก็คงอยู่ไม่ไกลเกินปลายนิ้วของเราไปได้หรอกครับ