หากอยากเป็นผู้ที่มีอยากรายได้เข้ากระเป๋าอย่างสบายๆ อยากเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ไฟแรง เรามีวิธีการจัดการกับงานให้เป็นประโยชน์ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มพูนขึ้น โดยมีหลักการดังต่อไปนี้
1. อย่าเพิ่งโชว์เหนือ
อย่าเพิ่งโชว์เหนือถ้าตัวเองยังไม่รู้จักพื้นฐาน เป็นเรื่องที่ดี ที่คุณจะเชื่อมั่นในตนเอง และทำตามที่ใจต้องการ แต่ไม่ใช่ว่าไม่รู้อะไรเลย แม้กระทั่งพื้นฐานที่ควรทราบก็ไม่รู้ อย่าได้เสี่ยงไปทำตัวว่าเก่ง และพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดการเงิน ที่มีการต่อสู้กันด้วยเม็ดเงินและกลยุทธ์ธุรกิจต่างๆไม่เช่นนั้น ถ้าโชคดีหน่อยก็แค่เสียเงิน หรือถ้าแย่หน่อยอาจถึงขั้นหมดตัว เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะลงมือกระทำอะไรที่มีความเสี่ยง นักลงทุนรุ่นใหม่ ควรจะรู้พื้นฐานการลงทุนให้ดีเสียก่อน โดยจะต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนนั้นๆ ให้ลึกซึ้ง เพื่อจะได้ไม่ก้าวพลาดตั้งแต่เริ่มแรกของการลงทุน
2. ความรวยมันต้องใช้เวลา
ควบคู่ประสบการณ์สิ! หน้าใหม่ไฟแรงผลงานเด่นทำงานในระดับเดียวกันกับ หน้าเก่าชำนาญงาน มีประสบการณ์ แต่คนเก่าได้ความสำเร็จมากกว่า มันดูเหมือนไม่แฟร์แต่นี่มันเป็นเรื่องจริง เพราะหน้าเก่านั้นจะมีประสบการณ์ที่สัมผัสมาแล้ว และผ่านการสั่งสมมาเรื่อยๆ จนในบางครั้งสามารถวิเคราะห์ปัญหาที่จะเกิดขึ้น และแก้ไขได้อย่างสวยงาม เพราะฉะนั้นความสำเร็จของคุณจริงๆ อาจต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะเห็นผล ไม่มีใคร หรือจะมีก็น้อยมากที่จะสามารถเทรดให้ได้ร่ำรวยเลยในตอนแรก คุณต้องเตรียมพร้อมตัวเอง และความอดทนไว้ด้วย
3. อย่าเพิ่งเชื่อผู้เชี่ยวชาญเจ้าแห่งมโน หลอกลวง
บางครั้งการที่คุณเชื่อถือผู้เชี่ยวชาญบางทีก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป คุณอย่างลืมว่า ตลาดเงินนั้น เป็นสถานที่ที่มักจะกำเนิดนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ตั้งแต่วัยศึกษาเล่าเรียนจนถึงวัยเกษียณ เราจึงมีวิธีที่บรรดาเซียนเหล่านี้ใช้อวดอ้างเพื่อหาผลประโยชน์กัน
- นำเรื่องเก่า มาเล่าไหม่ ข้อมูลเก่าๆ ซ้ำเดิมๆ แถมยังไม่เข้าท่าเข้าทางด้วยนะ
- พยายามโฆษณาตัวเองว่าตัวเองเป็นมืออาชีพ และนำเสนอขายหนังสือ
- พวกเขาจะบอกเล่าอย่างชวนเชื่อ ถึงวิธีการหาเงินให้ง่ายเหมือนกับการเล่นมายากล เสกมันขึ้นมา เช่น เค้าสามารถทำให้เงินที่มีอยู่ไม่กี่หมื่นบาท เปลี่ยนเป็นเงินแสนได้ในไม่กี่สัปดาห์
- พยายามอวดความสำเร็จของตัวเอง ด้วยการเอาภาพสิ่งของหรือความสำเร็จที่สวยงามจากการผ่านโปรแกรมตกแต่งรูปมาแสดงให้เราดู
- ชอบโชว์ตัวเลขที่แสนจะภาคภูมิใจของต้น เช่น โชว์แต่รายรับ แต่รายจ่าย หรือรายการขาดทุนอื่นๆ ปิดปากเงียบ ไม่หยิบมาพูดถึงเลย
ดังนั้น การเชื่อมืออาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญ เชื่อได้แค่บางส่วน คุณต้องพิจารณาด้วยตนเอง เพราะบางที คนเหล่านี้อาจไม่ประสบความสำเร็จจริง แค่สร้างขึ้นมาให้เรารู้สึกเชื่อถือไปเอง
4. ให้ลองวิเคราะห์ด้วยตนเองก่อนสิ !
การวิเคราะห์ด้วยตนเอง เป็นการส่งเสริมให้ตัวเองรู้สึกมั่นใจ เมื่อสิ่งที่เราคาดการณ์เป็นไปตามนั้น และทำให้เราได้เรียนรู้ถึงวิธีการใหม่อีกด้วย
5.เรื่องเล่าตำนาน เดโม
มันไม่ใช่ว่าเราต้องการจะเป็นนักลงทุน จึงไปซื้อตำรามาศึกษา แล้วจะเป็นนักลงทุนที่ชำนาญหรอกนะ การเทรดเดโม 3 เดือน ไม่ได้ช่วยให้คุณจะก้าวไปไวได้มากมายหรอก มีเหตุผลสองข้อคือ
1. นักลงทุนหน้าใหม่ เมื่อเทรดแล้วขาดทุน ก็เปิดบัญชีเดโมใหม่ที่ให้เงินมาทดลองเทรดเท่ากับเมื่อเริ่มแรก แต่ในความเป็นจริง ถ้าคุณขาดทุน ไม่สามารถรีเซ็ตบัญชี เพื่อให้ยอดเงินกลับมาเท่าเดิมได้หรอกนะ
2. การเทรดจากบัญชีเดโม มักจะออกมาดีกว่าบัญชีจริง เพราะเงินตั้งต้นสูง เทรดอย่างไร้ความกดดัน
6. พยายามค้นหาวิธีแก้ไข เมื่อขาดทุนให้ได้!
ข้อนี้สำคัญมากสำหรับผู้ที่ทำได้อย่างประสบความสำเร็จ คุณต้องรู้จักผ่อนเมื่อเห็นว่ารู้สึกเสีย หรือมีการเสียติดๆกันหลายๆครั้ง ถ้าเห็นว่ามันวิกฤติแล้วนั้น อย่าเสี่ยงต่อไปอีก ให้ลองหยุดพัก ออกมาจากตลาดก่อน เมื่อสมอง และจิตใจของคุณ พร้อมที่จะกลับมาลงทุนต่อแล้วจึงค่อยกลับมา ถ้าหากคุณยังฝืน ดื้อดึงไปเรื่อยละก็ การสูญเสียจะมากมายขึ้น จนอาจหมดตัวได้เลยทีเดียว
7. พยายามอย่าเดินตามรอยคนอื่น
จะเห็นได้ว่า นักลงทุนรุ่นใหม่ ที่มาเล่นในตลาดการเงินนี้ มักจะตกหม้าตายทั้งๆที่ยังไม่ได้เดินไปไกลเท่าไหร่นัก การทำตามคนส่วนใหญ่ อาจทำให้เกิดความล้มเหลว เนื่องจากแต่ละคนมีปัจจัยที่แตกต่างกัน รับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน
8. ยึดมั่นในตัวเอง
เมื่อมีได้ก็ต้องมีเสีย เพียงแค่คุณยังคงยึดมั่นในตัวเอง และ ดำเนินไปตามเส้นทาง อย่าย่อท้อจนละทิ้งหนทางของตน
9.เรื่องมันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก!
พยายามคิดว่าทำได้ สังเกตุและเรียนรู้จากมัน
เมื่อคุณได้ลงมือทำ และทำมันต่อไปเรื่อยๆ เชื่อได้ว่าการลงทุนในตลาดเงินนั้น ถึงแม้มันจะได้ผลดอกไม่ค่อยเร็วนัก แต่ให้ใจเย็นและอดทนไว้ เพราะว่าประสบการณ์ จะสอนให้เข้าใจ และสร้างผลสำเร็จตามมา