สินเชื่อ เปรียบได้ว่าเป็นความเชื่อถือและไว้วางใจระหว่างบุคคล 2 ฝ่ายในการที่จะให้สินค้าหรือบริการไปใช้ก่อน โดยมีสัญญากำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาการชำระคืนในอนาคต สินเชื่อจะให้ความสำคัญและคำนึงถึงในเรื่องของสภาพคล่องเป็นอย่างมาก
โดยทั่วไปแล้วจากการศึกษาประเภทของสินเชื่อแล้วนั้นสามารถจำแนกออกเป็น 3 ประเภทดังนี้ค่ะ
- ระยะสั้น เป็นสินเชื่อเพื่อการบริโภค เหมาะสมสำหรับสำหรับบุคคลธรรมดา ซึ่งตัวบุคคลเองเป็นผู้ให้สินเชื่อในรูปแบบนี้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีหลักประกัน
- ระยะกลาง เป็นสินเชื่อที่รองรับสำหรับเพื่อการลงทุน ผู้ที่เหมาะสมในการขอสินเชื่อคือผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ผู้ที่ออกสินเชื่อให้นั้นคือสถาบันการเงินเป็นผู้ให้ และผู้ที่ทำสินเชื่อมีความจำเป็นเป็นอย่างมากที่ต้องมีหลักประกัน
- ระยะยาว เป็นสินเชื่อสำหรับเพื่อการพาณิชย์ สินเชื่อนี้จัดขึ้นสำหรับรัฐบาล ซึ่งมีหน่วยงานอื่น ๆ เป็นผู้ให้สินเชื่อนั่นเอง
การจำแนกประเภทสินของเชื่อตามระยะเวลา
- สินเชื่อระยะสั้น คือ สินเชื่อที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อการค้า เครื่องมือสินเชื่อประเภทนี้ เช่น ตั๋วเงินคลังและตราสารพาณิชย์ เป็นต้น
- สินเชื่อระยะกลาง คือ สินเชื่อที่มีอายุระหว่าง 1-5 ปี เช่น การผ่อนส่งการซื้อสินค้าคงทน เป็นต้น
- สินเชื่อระยะยาว คือ สินเชื่อที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป โดยทั่วไปเป็นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ใช้เงินจำนวนมาก หรือเป็นการบริโภคสินค้าคงทนที่มีมูลค่าสูงมากเช่น บ้านและที่ดิน เป็นต้น
การจำแนกประเภทของสินเชื่อตามวัตถุประสงค์
- สินเชื่อเพื่อการบริโภค หมายถึง สินเชื่อที่ให้กับบุคคล เพื่อประโยชน์ในการนำมาบริโภค สินเชื่อประเภทนี้อาจเกิดขึ้นในหลายรูปแบบเช่น การเปิดบัญชีไว้กับร้านอาหาร เมื่อถึงสิ้นเดือนจึงชำระครั้งเดียว การผ่อนส่งจากการซื้อสินค้าโดยเฉพาะสินค้าคงทน เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ รถยนต์ เป็นต้น นอกจากนี้สินเชื่อจากบัตรเครดิตก็เป็นสินเชื่อเพื่อการบริโภคเช่นกัน
- สินเชื่อเพื่อการลงทุน อาจเป็นสินเชื่อเพื่อการจัดหาปัจจัยการผลิตหรือสินทรัพย์ถาวรต่าง ๆ เพื่อใช้ในการดำเนินการผลิตไม่ว่าจะเป็นในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการบริการ สินเชื่อประเภทนี้มักเป็นสินเชื่อระยะยาวอาจอยู่ในรูปของการออกหุ้นกู้ หรือสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
- สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์หรือสินเชื่อการค้า โดยทั่วไปเป็นสินเชื่อเพื่อการซื้อขายสินค้าประเภทวัตถุดิบ หรือการซื้อสินค้ามาจำหน่ายต่อ เป็นการรับสินค้ามาก่อน แล้วค่อยชำระค่าสินค้าภายหลังโดยทั่วไปจะเป็นสินเชื่อระยะสั้น เช่น 30-60 วัน เป็นสินเชื่อที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่การทำธุรกิจ ทั้งนี้รวมไปถึงการออก Letter of Credit เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงในการชำระค่าสินค้าจากการซื้อขายระหว่างประเทศด้วย
การจำแนกประเภทสินของเชื่อตามผู้ขอรับสินเชื่อ
- สินเชื่อสำหรับบุคคล มักเป็นสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต เป็นต้น
- สินเชื่อสำหรับธุรกิจ เป็นสินเชื่อสำหรับกิจการห้างร้านไม่ว่าจะนำไปใช้เพื่อลงทุนเพื่อการผลิตหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
- สินเชื่อสำหรับรัฐบาล ในยามที่รัฐบาลมีรายได้ไม่เพียงพอแก่รายจ่ายหน่วยงานภาครัฐจึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินซึ่งอาจอยู่ในรูปของตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และพันธบัตรรัฐบาลรูปแบบต่าง ๆ เช่น พันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ และพันธบัตรออมทรัพย์ เป็นต้น
การจำแนกประเภทสินเชื่อตามผู้ให้สินเชื่อ
- บุคคลเป็นผู้ให้ เช่น การให้กู้ยืมในหมู่คนรู้จัก ญาติพี่น้อง หรือการปล่อยกู้นอกระบบ เป็นต้น
- สถาบันการเงินเป็นผู้ให้ ซึ่งสถาบันการเงินก็มีหลายประเภทและอาจตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น เงื่อนไขและประเภทของวัตถุประสงค์ของการให้สินเชื่อก็อาจแตกต่างกันไป สถาบันการเงินเหล่านี้ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามและสหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นต้น
- หน่วยงานอื่น ๆ เป็นผู้ให้ เช่น มูลนิธิ องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร หน่วยงานการกุศล และกองทุนต่าง ๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน เป็นต้น
การจำแนกประเภทสินเชื่อตามหลักประกัน
- สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน สินเชื่อประเภทนี้อาศัยความน่าเชื่อถือ เที่ยงตรง และความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้เป็นเครื่องพิจารณาการให้สินเชื่อ สินเชื่อประเภทนี้จึงมีความเสี่ยงสูงเพราะไม่มีหลักประกันให้แก่ผู้ให้กู้ในกรณีที่เกิดการผิดสัญญาขึ้น
- สินเชื่อที่มีหลักประกัน สินเชื่อประเภทนี้มีความเสียงต่ำกว่าเนื่องจากผู้กู้มีหลักประกันแก่ผู้ให้กู้เพื่อชดใช้ความเสียหายหากเกิดการผิดสัญญาขึ้น โดยหลักประกันดังกล่าวอาจอยู่ในรูปของอสังหาริมทรัพย์ เช่น การจำนองที่ดิน สังหาริมทรัพย์ เช่น พันธบัตร ทองคำ หรืออยู่ในรูปของการค้ำประกันจากบุคคลหรือสถาบันการเงินก็ได้
ทั้งนี้ก่อนที่คุณหรือคนใกล้ตัวจะทำสินเชื่อนั้นต้องทำการศึกษา ประเภทของแต่ละสินเชื่อให้ดีเสียก่อนนะคะ อีกทั้งคุณต้องศึกษารายละเอียดของตัวสินเชื่อที่คุณจะทำให้เกิดความเข้าใจเป็นอย่างดีอย่างลึกซึ้งก่อนที่จะทำการใดๆด้วยนะคะ เพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือการเข้าใจผิดนั่นเองค่ะ และที่สำคัญเป็นอย่างมากเลยที่ขาดไม่ได้ ในเวลาที่คุณจะทำสินเชื่อต้องอาศัยที่ปรึกษาผู้รู้ หรือพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงเสียก่อน เพราะการที่คุณจะผ่านการตรวจสอบ หรือการดำเนินงานในครั้งแรก หากเอกสาร หรือคุณสมบัติไม่เปะหรือตรงตามนโยบายที่กำหนดนั้นยากเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะที่คุณจะผ่านการตรวจสอบ และที่สำคัญที่สุดเวลาที่คุณทำอะไรต้องทำแบบพอประมาณ มีสติ และรอบคอบทุกครั้งนะคะ