การ ลงทุน นั้นเป็นวิธีการที่เราจะต่อยอดเงินที่เรามีอยู่ให้เพิ่มพูนขึ้นมา เพื่อนำไปลงทุนต่อ นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือนำไปอดออมไว้ใช้ในอนาคตก็ได้เช่นกัน แต่อย่างที่เรารู้ว่าการลงทุนเพื่อต่อยอดนั้นมีหลากหลายวิธีมากๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วว่าเราจะสามารถลงทุนได้ทุกวิธีที่มีอยู่ เนื่องจากมีเพียงไม่กี่การลงทุนเท่านั้นที่มีความเหมาะสมกับตัวเรา และอาจจะมีบางครั้งที่เราอาจจะเดินไปผิดทาง ลงทุนไปผิดประเภทและทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จหรือประสบความสำเร็จไม่มากเท่าที่ควร ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่ามีอะไรบ้าง
1. เข้าใจการลงทุนและความเสี่ยงของการลงทุน
แน่นอนว่าขนาดในโฆษณาโทรทัศน์และกฎหมายยังกำหนดไว้ว่า การลงทุนทุกประเภทที่มีการฉายเป็นโฆษณาทางสื่อต่างๆนั้น ต้องมีการกำกับไว้ว่า “การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน” ดังนั้นหากวางแผนที่จะลงทุนแล้วอย่าไปศึกษาความเสี่ยงแบบกว้างๆหรือคร่าวๆ แต่ควรจะศึกษาลักษณะการลงทุนของการลงทุนแต่ละประเภทก่อนรวมถึงความเสี่ยงของการลงทุนนั้นๆด้วย แล้วจึงมาตัดสินใจว่าการลงทุนและความเสี่ยงประเภทใดที่เราสามารถรับมือได้และลงทุนได้โดยไม่ลำบากจนเกินไปนั่นเอง และข้อห้ามที่สำคัญเลยอย่าลงทุนตามคำชักชวนของใครหรือลงทุนตามคนอื่นที่เราเห็นว่าได้เงินดี อย่างแรกเลยนั่นเพราะมันจะสร้างความคาดหวังให้เราและอาจจะทำให้เราไม่เผื่อใจในกรณีที่เลวร้ายที่สุดไว้เลย และการลงทุนด้วยวิธีของคนอื่นนั้นอาจจะไม่เหมาะสมกับเราก็ได้ ดังนั้นศึกษาการลงทุนและความเสี่ยงให้ดี และอย่าไปลงทุนตามคนอื่น มีหลายคนที่ลงทุนเล่นหุ้นเพียงเพราะเห็นว่าได้กำไรดี โดยใช้วิธีและเทคนิคของคนอื่นล้วนๆ ทั้งที่ตัวเองไม่มีความรู้เลย จึงทำให้เกิดการล้มละลายในที่สุด ซึ่งนี่สอนให้รู้ว่าการลงทุนอะไรนั้นจะต้องลงทุนในสิ่งที่ตัวเองรัก ในสิ่งที่ตัวเองถนัดและลงทุนด้วยความคิดของตัวเอง เพราะการตัดสินใจของเราคือสิ่งที่สำคัญและถูกต้องที่สุด
2. วางเป้าหมายไว้ก่อนการลงทุนและอย่าหลงเป้าหมาย
เป้าหมายของการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเป็นเหมือนตัวกำหนดทิศทางของการลงทุนของเราทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะวางเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ก่อนที่จะเริ่มลงทุน ซึ่งเป้าหมานั้นต้องประกอบไปด้วย
1.) เหตุผลของการลงทุน เราลงทุนไปเพื่ออะไร เพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือนำไปอดออมไว้ใช้ในอนาคต เพราะเป้าหมายนี้จะทำให้เรารู้ว่าเราควรจะลงทุนแบบไหน และลงทุนมากแค่ไหน อีกทั้งยังช่วยให้ฝ้าระวังความเสี่ยงได้ดีขึ้นอีกด้วย
2.) ต้องการกำไรมากน้อยแค่ไหน นั่นก็เพราะว่าเวลาที่เราเริ่มมีกำไรแล้วเราอาจจะเกิดความโลภอยากได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่แน่นอนว่าการลงทุนมันมีความเสี่ยงเมื่อวานนี้อาจจะได้กำไรมากๆแต่พรุ่งนี้อาจจะขาดทุนก็ได้ การกำหนดจุดที่ต้องการไว้ก็จะช่วยให้เราตัดสินใจง่ายๆในการนำเงินออกมาจากการลงทุนง่ายขึ้นเท่านั้น เช่นเราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะทำกำไรให้ได้ 50,000 เมื่อได้กำไร 50,000 แล้วก็ควรหยุดเล่นแล้วนำเงินมาออมไว้ หากจะลงทุนอีกก็ควรใช้ต้นทุนไปลงทุนใหม่เท่านั้น ห้ามนำกำไรที่ได้ไปลงทุนเป็นอันขาด
3.) ระยะเวลาในการลงทุน เนื่องจากบางครั้งที่เราลงทุนไปอาจจะยังไม่ได้รับผลตอบแทนกลับมา เมื่อถึงจุดๆหนึ่งซึ่งเราต้องกำหนดไว้เองนั้นและเรายังไม่ได้กำไรก็อาจจะเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนำเงินลงทุนในส่วนนั้นไปลงทุนในส่วนอื่นๆแทนนั่นเอง
3. วางแผนการเงินเผื่ออนาคตและเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย
การลงทุนนั้นจะทำได้เมื่อเรามีเงินสักก้อนหนึ่ง แต่อย่านำเงินก้อนนั้นลงทุนไปจนหมดเด็ดขาด เพราะอย่าลืมว่าเรายังมีการใช้เงินในส่วนอื่นๆด้วย ถ้าหากเรายังไม่ได้กันเงินในสวนนั้นๆไว้ อย่าได้เอาเงินทั้งหมดไปลงทุนที่ไม่รู้ว่าจะได้กำไรหรือจะขาดทุนเชียว ซึ่งเงินที่เราต้องกันออกมาไว้ต่างหากก่อนที่จะนำเงินส่วนนั้นไปลงทุนประกอบไปด้วย
1.) เงินที่ต้องใช้ในเวลาฉุกเฉิน เช่น ค่ารักษาพยาบาลหรือเงินที่ต้องใช้ในเรื่องเร่งด่วนอื่นๆ เงินส่วนนี้จะเก็บไว้เลยโดยไม่นำออกมาใช้ คล้ายๆ กับเงินออม เพียงแต่จะนำออกมาใช้ได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินนั่นเอง
2.) เงินที่ต้องใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง
3.) เงินที่ต้องไปชำระหนี้ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่ทำให้เราปะทังชีวิตได้ตลอดทั้งเดือน หากนำมาใช้ก็เท่ากับจบชีวิตกันเลยล่ะ และ
4.) เงินออมอื่นๆ เช่น เงินออมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ เงินออมสำหรับส่งลูกเรียนในอนาคต เป็นต้น ดังนั้นอย่าได้ลืมค่าใช้จ่ายหรือการสะสมเงินที่จำเป็นเหล่านี้เด็ดขาดถ้าไม่อยากลำบากในอนาคต
การ ลงทุน ควรเริ่มต้นลงทุนในสิ่งที่เราชอบและคิดว่าเราจะสามารถลงทุนได้จริงๆ อีกทั้งจะต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเสี่ยงของการลงทุนที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย และที่สำคัญเงินที่นำมาลงทุนนั้นควรเป็นเงินส่วนอื่นที่ไม่ใช่เงินฉุกเฉิน เงินใช้จ่ายหรือเงินออม เพื่อป้องกันการล้มละลายนั่นเอง ส่วนกำไรที่ได้จากการลงทุนก็อย่าลืมนำมาสมทบเป็นเงินออมด้วยล่ะ