สวัสดีค่ะ มาอัพเดตเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับสถานภาพเรื่อง การเงิน กันอีกเช่นเคย เชื่อว่าหลายๆคนนั้นคงจะต้องเลือกที่จะ ใช้ชีวิตอย่างสบาย พยายามทำให้ตัวเองมีความสุขกับการใช้ชีวิตให้มากที่สุด สบายวันนี้ แต่วันข้างหน้าละ?? จะให้ตัวเองนั้นลำบากหรอ ลำบากก็ได้ไม่เป็นไรอย่างงั้นหรอ?
แน่นอนค่ะว่า ระหว่างที่เราคิดแบบนี้ แต่หลายๆคนนั้นอาจจะคิดแตกต่างจากเรา บางคนอาจจะคิดต่างจากเรา ต่างจากที่เรากำลังคิดอยู่ เพราะเชื่อว่าหลายๆคนนั้นต้องการให้ตัวเองสบาย แต่สู้สบายทีหลัง และลำบากตอนนี้ไม่ดีกว่าหรอค่ะ หลายๆคนนั้นมีอาชีพที่แตกต่างกันออกไป มีระยะเวลาที่เท่ากันแต่สิ่งที่กระทำ นั้นแตกต่างกัน บางคนในตอนนี้ใครหลายคนในตอนนี้อาจจะกำลังนั่งกินข้าว ใครหลายคนในตอนนี้อาจจะกำลังนั่งปั่นงานงกๆๆ หรือใครในตอนนี้ หลายๆคนนั้นกำลังนั่งสอนการบ้านลูก ระยะเวลาคนเรา 24 ชั่วโมงมีเท่ากันค่ะแต่งานที่ทำในตอนนั้นแตกต่างกัน เคยคิดไหมค่ะว่าบนโลกนี้มีคนหลายๆคนที่มีมือมีเท้าเหมือนกัน บางคนเรียนที่เดียวกันแต่จบออกมาทำไม เงินที่ได้ income ทีได้งานที่ได้แตกต่างกัน ความรู้ที่ได้ไม่เท่ากัน เพราะว่าระบบความคิดความสามารถการกระทำของคนเรานั้นแตกต่างกัน คนๆนึงอาจจะคิดว่า เฮ้ย!!! ไม่เป็นไรโตขึ้นค่อยทำงานว่ะ ค่อยหางาน แต่อีกคนนึงคิดว่าเฮ้ย!!! อายุขนาดนี้แล้ว เรียนหนังสือแล้วจะมามัวแบเงินขอพ่อขอแม่อยู่แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน
นี่คือระบบความคิดต่าง ของเด็กสองคน คนนึงตั้งใจเรียน โตขึ้นฉันอยากจะมีงานมีเงินเยอะๆ อีกคนวางแผนตั้งแต่เด็กทำงาน ช่วงปิดเทอม หาเงินช่วงกลับบ้านหลังเลิกเรียน ช่วยร้านเสิร์ฟอาหารเป็นเด็กล้างจาน ขายของออนไลน์ และทำอย่างอื่นมากมายเก็บเงิน ออมเงินได้เงินไปโรงเรียนรู้จักออม คนนึงจบมามีเงินเก็บเป็นก้อน มีเป้าหมายจะลงทุนในชีวิต อีกคนจบมา ไม่มั่นใจว่าจะได้งานรึเปล่าต้องตระเวนหางานต้อง ทำงานเพื่อให้ได้เงินสตาร์ทมพนักงานฝึกหัด ไม่มีเงินเก็บ มีภาระแล้วคือจะอยู่จะกินอย่างไร
กับอีกคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวไปแล้ว ตั้งแต่อายุน้อยจบมามีเงินก้อนเก็บลงทุนธุรกิจ รู้จักการวางแผน การเงิน เตรียมพร้อม ศึกษาข้อมูลธุรกิจมาดี และคิดแล้วว่าในอนาคตนั้นต้องได้เงินจากธุรกิจเท่าไหร่ จะลงทุนทำอะไรบริหารอย่างไร ระบบความคิดของสองคนแตกต่าง แต่สถานที่เรียนเดียวกันมีระยะเวลาเท่าๆกัน คนนึงก็เรียนเหมือนๆกัน แต่สังเกตได้ว่าคนนึงนั้น จะใช้เวลาของเขามากกว่าและใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากกว่าไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบเปล่าประโยชน์ ไร้ประโยชน์ใช้สมองใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนั่นจึงทำให้เขาประสบผลสำเร็จในอนาคตของเขาเอง อาจจะช้าหน่อยแต่ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขนาดนี้ย่อมมีความสุขในชีวิตไม่น้อยเลยทีเดียวละ
อย่างที่เรานั้นยกตัวอย่างมาพอจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับบทเรียนในการรู้จักปรับตัวเอง ในวันนี้สำหรับผู้อ่านบ้างไหมค่ะ เราอาจจะต้องการความสุขสบายและทางเลือกที่สุขสบาย แต่คำว่าสุขสบายมันได้มาไม่ง่ายค่ะ ถึงจะสุขวันนี้แต่มันก็แค่ชั่วคราวสู้เราสุขสบายแบบระยะยาวแลมีฐานะที่มั่นคงไม่ดีกว่าหรอค่ะ เพราะฉะนั้นหันมาเริ่มปรับตัวเองเริ่มดูแลตัวเองสถาน การเงิน ของตัวเองตอนนี้ได้แล้ว และให้คำตอบกับตัวเองได้แล้วว่า ตอนนี้เราอยากจะให้ชีวิตของตัวเราเองนั้นเป็นอย่างไร
คนเราจำเป็นจะต้องมีเป้าหมายในชีวิตค่ะเพราะเป้าหมายนั้นจะช่วยให้เราทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จได้ยกตัวอย่างเช่น เราอยากจะซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบราคาแพงมากเลย ถ้าไม่มีกิเลสคอยยั่วยุ หรือความอยากจะได้ตลอดเวลา ถามว่าเราจะ พยายามหาเงินเก็บเงินมาซื้อไหมค่ะ ไม่เลย ถ้าให้เก็บเงินไปเรื่อยถามว่าเราอยากจะเก็บไหม ไม่อยากค่ะ ถ้าเรามีเป้าหมายอะไรสักอย่างความอยากของเรามันจะทวีคูณ ขึ้นและจะประสบความสำเร็จ หรือถ้าพลิกแพลงหน่อยเผลอๆ เราอยากจะซื้อกระเป่าแบรนด์เนมพอเรามีเงินครบตามจำนวนคุณอาจจะอยากเปลี่ยนใจกะทันหันเพราะรู้ถึงความลำบากในการหาเงินและเปลี่ยนใจเอาเงินไปใช้กับอย่างอื่นที่มันคุ้มค่ากว่าก็ได้นะค่ะ เลือกใช้เงินให้เป็นและเลือกบริหารเงินให้เป็นค่ะเงินนั้นไม่ได้หามาได้ง่ายๆ ต้องใช้เวลาและต้องใช้สมองในการหา ลงแรงลงมือ และต้องอดทน
คนที่ทำงานได้รับเงินเป็นเดือนนั้นต้องใช้ความอดทนต่อการทำงานมากกว่าคนทำงานรายวันด้วยซ้ำเพราะว่าทำงานเงินเดือนกว่าจะได้เห็นเงินก็ต้องรอทั้งเดือนกันเลยเที่ยวแต่คนที่ทำงานประจำ เหนื่อยพอตกเย็นหน่อยก็ได้รับค่าจ้างเท่านี้ก็สบายใจได้แล้วรู้สึกได้แรงและกระชุ่มกระชวยอยากจะทำงานมากยิ่งขึ้น นั่นถือว่าเป็นหนึ่งในการทำงานที่แตกต่าง แต่คนที่ทำงานได้รับเงินเป็นเดือนจะยิ้มได้ก็ต่อเมื่อสิ้นเดือนเท่านั้นแหละค่ะได้รับเงินเป็นก้อน ระหว่างการทำงาน ได้เงินรายวันกับรายเดือนมุมมองความคิดจะต่างกัน การบริหาร การเงิน จะต่างกันขึ้นอยู่กับว่าใครเก็บเป็นเก็บเก่งใช้เป็นใช้เก่งมากกว่ากัน
มีคนอีกหลายต่อหลายคนที่ไม่มีเงินไม่มีเสื้อผ้าไม่มีข้าวกินลำบาก และในเวลานี้เขาอาจจะต้องการความช่วยเหลือถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนไทยหรือคนที่มีหัวใจว่างๆก็เอาเงินไปซื้อข้าวของจำเป็นให้พวกเขาบ้างก็ดีเพราะ นอกจากจะอยากได้รับอะไรดีๆจากคนอื่นแล้วเราอาจจะต้องให้อะไรดีๆกับคนอื่นก่อน
คุณค่ามันไม่ได้อยู่ที่สิ่งของที่ให้มันอยู่ที่ความเต็มใจ ใจคุณอยากจะให้รึเปล่าละ?