ทุกวันนี้ สังคมมนุษย์เงินเดือนมักจะมีวงจรชีวิตที่ไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะทันทีที่เงินเดือนออก ภาระค่าใช้จ่ายทั้งหลายต่างก็เดินหน้ามากดดัน และกว่าท่านจะรู้ตัว เงินก็แทบหมดกระเป๋าเสียแล้ว เพราะฉะนั้นหากไม่อยากให้เงินหมดกระเป๋าล่ะก็ ต้องสร้าง วินัยทางการเงิน ใหม่แล้วล่ะ ใครที่รู้ตัวว่าขาดวินัยทางการเงินอย่าลืมแก้ไขด่วนเลยนะคะ
เคยคิดหรือคำนวณกันบ้างไหมคะ ว่าเงินของคุณหายไปไหน จำได้ไหมว่าคุณใช้จ่ายอะไรไปบ้าง ถ้าจำไม่ได้ นั่นแสดงว่า ท่านกำลังใช้ชีวิตผิดพลาด และขาดวินัยทางด้านการเงินขั้นรุนแรง
ถ้าเป็นแบบนั้น คุณต้องเริ่มต้น เปลี่ยนแปลงตัวเองเสียใหม่ สร้าง วินัยทางการเงิน ให้กับตัวเอง ขอเพียงแค่คุณมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ได้ เพียงไม่นาน เชื่อว่าคุณจะประสบความสำเร็จทางด้านการเงิน และมีเงินเก็บมากมาย เปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของคุณให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเป็นคนละคน
1. ตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
แค่เดินออกจากซอย คุณก็ส่งสัญญาณเรียกมอเตอร์ไซค์วินให้มารับคุณเสียแล้ว ทั้งๆที่ระยะทางจากบ้านไปถึงหน้าปากซอย แค่ไม่กี่เมตร ความคุ้นเคยเหล่านี้จะสร้างนิสัยแย่ๆให้คุณเคยตัว คุณจะเริ่มตื่นสาย และรีบร้อนเดินทางอย่างฉุกละหุก ส่งผลให้คุณสิ้นเปลืองค่าเดินทางพิเศษที่นอกเหนืองบประมาณ เพื่อให้เดินทางไปทำงานทันเวลา เช่น ค่ามอร์เตอร์ไซค์ที่อัตราการบริการค่อนข้างสูง , ค่าแท็กซี่ที่มิเตอร์ขึ้นพรวดๆจนกระเป๋าแห้ง,ค่ารถไฟฟ้าที่นับวันก็ยิ่งสูงขึ้น เป็นต้น
หรือถ้าคุณปฏิเสธว่าคุณขับรถไปทำงาน ไม่ได้โดยสารรถสาธารณะ คุณแน่ใจหรือว่าการตื่นสายไม่ทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะบางครั้ง ถ้าเฉียดเวลาเข้าทำงานมากๆเข้า คุณก็ต้องตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าช่องทางด่วน เสียค่าผ่านทางพิเศษเพิ่มอีกหลายทอดไม่ใช่หรือ
การตื่นเช้าจะช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ คุณจะไปถึงที่ทำงานก่อนเวลา มีโอกาสแวะทานอาหารเช้าก่อนเข้าทำงาน จิบกาแฟสบายใจระหว่างรอเริ่มต้นการทำงานในแต่ละวัน และที่สำคัญ คุณจะกลายเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน เพราะอารมณ์ที่ดีขึ้นของคุณอีกด้วย
ดังนั้น ลองย้อนกลับไปคำนวณดูกันนะคะ ว่า เดือนๆหนึ่ง คุณเสียค่าใช้จ่ายขาจรกับการเดินทางพิเศษเหล่านั้นไป เดือนละประมาณเท่าไหร่ ซึ่งถ้าตัดค่าใช้จ่ายส่วนเกินนี้ออกไป จะทำให้คุณมีเงินเหลือใช้จนถึงขั้นเก็บออมได้หลายบาทเลยทีเดียวค่ะ
2. ลดความเคยชิน งดในสิ่งที่ควรงด
เช่น เงินเดือนออกปุ๊บ แทนที่คุณจะเอาไปใช้จ่ายในเรื่องจำเป็นต่างๆก่อน คุณกลับรีบนำมันไปละลายกับการเลี้ยงฉลองในเย็นวันนั้น หรือซื้อเสื้อผ้า, กระเป๋า, เครื่องสำอางค์ ที่คุณเล็งไว้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ซึ่งนั่นจะทำให้เงินของคุณหมดลงไปอย่างไม่ทันรู้ตัวเลยล่ะ ดังนั้นทางทีดีเมื่อเงินเดือนออก ควรจัดสรรเงินออกเป็นส่วนๆ เสียก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นก็งดไปก่อนเลยจะดีที่สุด
นิสัยเคยชินแย่ๆแบบนี้ จะทำให้คุณไม่มีเงินเหลือเก็บ ดีไม่ดี อาจไม่มีเงินใช้จ่ายเพียงพอจนกว่าจะถึงสิ้นเดือนเลยก็ได้ เคยไหมคะ ที่กลับถึงบ้าน แล้วเริ่มได้สติ นั่งมองถุงสินค้าทั้งหมดที่ช็อปปิ้งมาในวันนั้น แล้วได้แต่ทอดถอนใจ ว่านี่ฉันซื้ออะไรไร้สาระเข้าบ้านอีกแล้วเนี่ย แต่นิสัยนี้ก็แก้ได้ไม่ยาก เพียงแค่คุณต้องคิดก่อนจ่ายทุกครั้ง เอาเป็นเวลาคิดสัก 30 นาทีไปเลย อาจจะเสียเวลาสักหน่อย แต่นั่นก็จะทำให้คุณตระหนักขึ้นมาได้ว่าสิ่งของสิ่งนั้นไม่ควรจ่ายเอาเสียเลย
ช่วงพักกลางวัน คุณไม่เคยจบกิจกรรมแค่การทานข้าว ก่อนกลับขึ้นออฟฟิศ คุณต้องแวะชมร้านค้าต่างๆที่เช่าอยู่ภายในอาคารทุกที เดินไปเดินมา สักพัก กว่าจะรู้ตัว คุณก็หอบสมบัติบ้ากลับขึ้นออฟฟิศไปแล้วอีกหลายถุง
ทานข้าวเรียบร้อยแล้ว คุณก็ยังอดไม่ได้ที่จะซื้อขนม เบเกอรี่ เครื่องดื่ม ผลไม้ กลับขึ้นไปอีกมากมาย แต่ไม่เคยทานหมดสักที ตกเย็น ก่อนกลับบ้านคุณต้องหอบแก้วเครื่องดื่มที่ละลายทิ้งเต็มแก้ว ,ผลไม้บูดเต็มถุง ,และอื่นๆอีกมากมายทิ้งลงถังขยะ เหล่านี้ ล้วนถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอีกประเภทหนึ่งด้วยเช่นกัน
ลองรวมยอดเงินดูคร่าวๆนะคะ เท่าที่คุณพอจะจำได้ ว่าคุณเสียค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยส่วนนี้ไปมากมายเท่าไหร่ ซึ่งเท่าที่เราเคยคำนวณกันมา ยอดจะตกอยู่ที่เดือนละ2,000- 4,000 ขึ้นไปโดยประมาณ ซึ่งหากคุณเอาเงินจำนวนนี้มาเก็บออม ป่านนี้คุณคงได้ยอดเงินฝากมหาศาลไปนานแล้ว
แค่สองข้อหลักๆนี้ ถ้าคุณทำได้สม่ำเสมอ คุณก็จะมีวินัยทางการเงินที่ดีขึ้น จนในที่สุดอาจพัฒนาไปถึงขั้นปลดหนี้สินต่างๆ และมีเงินเก็บออมในที่สุด ใครที่อยากจะมีเงินเก็บออมและมีฐานะดีในอนาคต ก็อย่าลืมที่จะสร้างวินัยทางการเงินให้กับตัวเองกันนะคะ
ทั้งนี้ก็เพื่อการมีอนาคตที่ดี รวมถึงชีวิตที่ดีในแต่ละวันโดยไม่ต้องมีปัญหาการเงินมากวนใจให้ต้องปวดหัวนั่นเอง และที่สำคัญที่สุดคืออย่าสร้างหนี้สินให้ต้องเป็นภาระกับตัวเองเป็นอันขาดเลยนะคะ