คุณเคยเล่นเกมเศรษฐีไหม?
คิดว่าน่าจะเคยเล่นกัน เชื่อหรือไม่ว่าเกมเศรษฐี (Monopoly) นั้นถูกสร้างมาเพื่อต่อต้านระบบทุนนิยม ผู้คิดเกมนี้ขึ้นมาคือ อลิซาเบ็ธ แม็กกี ฟิลลิปส์ (Ellizabeth Magie Phillips) ขณะนั้นเธอต้องการชี้ให้คนทั่วไปเห็นว่า คนที่เป็นเจ้าของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ร่ำรวยจากค่าเช่าได้อย่างไรและค่าเช่าทำให้ผู้เช่าจนลงได้อย่างไร
แต่นั่นไม่ใช่หัวข้อหลักที่เราจะมาพูดวันนี้ เพราะเราจะมาแนะนำหนังสือที่มีชื่อเดียวกันว่า “เกมเศรษฐี” เขียนโดย The Money Coach หรือคุณจักรพงษ์ เมษพันธุ์ กูรูการเงินฝีปากกล้าคนหนึ่งของประเทศไทย และคุณอมรเทพ ผันสิน ศิษย์เอกทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยคุณจักรพงษ์นั้น มีผลงานแปลหนังสือ Best Seller ระดับโลกของโรเบิร์ต คิโยซากิ คือซีรี่ส์ พ่อรวยสอนลูกนั่นเอง
โดยแนวคิดของหนังสือเล่มนี้คือ การที่คุณจักรพงษ์คิดว่าต้องการเขียนเรื่องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้เริ่มต้นที่ยังไม่มีความรู้ด้านนี้ เป็นหนังสือที่อ่านง่ายและเข้าถึง เขียนขึ้นมาจากประสบการณ์จริง ที่คุณจักรพงษ์ เรียนรู้แบบไม่มีครูบาอาจารย์มาสอน เดินเข้าหาและล้มลุกคลุกคลานด้วยตนเองมา แล้วนำมากลั่นเอาเฉพาะที่จำเป็น และเห็นว่ามีประโยชน์ นำมาเขียนด้วยภาษาง่าย ๆ ไร้ตรรกะอัจฉริยะใด ๆ ให้ยุ่งยาก รกสมอง มีเครื่องคิดเลขอันเดียวก็ประเมินราคาทรัพย์สินได้ ว่ากันอย่างนั้นเลยทีเดียว
“ ‘เกมเศรษฐี’ และ ‘เกมกระแสเงินสด’ แนวคิดจากเกมทั้งสองนี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในโลกการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อสังหาริมทรัพย์ให้เช่าซึ่งเป็นแก่นของหนังสือเล่มนี้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ได้ใช้คณิตศาสตร์ชั้นสูงในการคำนวณ แค่อาศัยหลักคิด “ครองทรัพย์สินให้เช่า” และ “บริหารกระแสเงินสดให้เป็นบวก” เพียงเท่านี้คุณก็เป็นเศรษฐีเงินล้านได้แล้ว” คือสิ่งที่ The Money Coach กล่าวไว้เพื่อให้เห็นภาพรวมของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าและการสร้างรายได้เพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงิน
หนังสือได้แบ่งออกเป็น 3 ภาคใหญ่ ๆ คือ
ภาคที่ 1 เกมเศรษฐี
จะเป็นการเกริ่นนำถึงกลยุทธ์หลักที่ใช้ในชีวิตได้จริงจากเกมเศรษฐี นั่นคือ “บ้านสีเขียว 4 หลัง เปลี่ยนเป็น โรงแรมสีแดง” ซึ่งหมายความว่า การที่เรามีที่ดินที่อยู่ในทำเลที่ดีนั้น ผู้ครอบครองสามารถจัดการทรัพยากรที่มีเป็นกระแสเงินสดได้ และยิ่งมีอสังหาริมทรัพย์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถทำกำไรได้มากเท่าที่ต้องการ นอกจากนี้ในภาคที่ 1 ยังยกตัวอย่างง่าย ๆ จากประสบการณ์จริงของ อาแปะ ข้างบ้าน ที่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องซับซ้อนก็สามารถบริหารจัดการพื้นที่บ้านให้เช่าได้สบาย ๆ และในบทย่อย ๆ ก็ค่อยเริ่มปรับทัศนคติของผู้อ่านว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่ยาก และที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนเยอะ ๆ ก็ได้ ก่อนที่ช่วงท้าย ๆ จะเริ่มเข้าสู่วิธีการคำนวณทรัพย์สินแบบง่าย ๆ การลงพื้นที่ดูทรัพย์สินจริงว่าเป็นอย่างไร การประเมินความเสี่ยงด้านต่าง ๆ และเน้นย้ำอย่างตรงไปตรงมาว่า “จินตนาการสำคัญกว่าเงินในกระเป๋า” เป็นไงน่าสนใจล่ะ!
ภาคที่ 2 การลงทุนในชีวิตจริง
เป็นตัวอย่างการลงทุนตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งของผู้เขียนเอง และลูกศิษย์ มิตรสหาย คนรู้จักของผู้เขียน ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และเทคนิควิธีการ จนกระทั่งถึงการคำนวณราคาทรัพย์สิน ผลตอบแทน และการบริหารจัดการทรัพย์สิน เรียกได้ว่าครบวงจร โดยมีไอเดียที่น่าสนใจหลัก ๆ คือ การเน้นไปที่คอนโดมิเนียมที่ใกล้แหล่งงาน เป็นห้องเดี่ยวหรือตึกเดียวที่สามารถบริหารจัดการได้ง่าย จากนั้นก็นำราคามาคำนวณโดยเทียบกับอัตราค่าเช่าของทรัพย์สินบริเวณนั้น ๆ เปรียบเทียบราคาซื้อและผลตอบแทน หากผลตอบแทนมากกว่า ได้กลับมาเป็นกระแสเงินสด ก็ถือว่าผ่านและลงมือต่อรองเจรจาได้ และผู้เขียนยังเน้นอีกว่า แม้เงินที่เข้ามาจะน้อย เช่น หักลบเงินผ่อนกับธนาคารแล้วเหลือแค่ 1,000 บาท ก็ให้ลงมือทำ เพราะยังมีเงินที่ถูกส่งเข้าธนาคารที่เรายังมองไม่เห็น และมีเทคนิคนำเงินเหล่านั้นออกมาอีก (อยากรู้ต้องอ่าน)
ภาคที่ 3 สร้างเงินล้านจากอสังหาริมทรัพย์ในวันหยุด
เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์จริงของคุณอมรเทพ ผู้เขียนอีกคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนปกติทั่วไป และใช้วันหยุดที่มีลงไปดูทรัพย์สินต่าง ๆ ทั่วไป เพื่อหาทรัพย์สินที่สามารถทำกำไรได้ โดยกว่าจะได้มาไม่ใช่ง่าย ๆ แต่ละที่ก็มีอุปสรรคแตกต่างกันไป ทั้งราคาไม่ได้ตามที่ต้องการ ทั้งการต่อรองกับธนาคาร ที่ยากลำบาก ทั้งความเหนื่อยล้าในการลงพื้นที่ คือเล่าตั้งแต่การเริ่มมีความคิด การลงมือทำ จนกระทั่งถึงการได้มาถึงทรัพย์สินและการได้กำไรเลยทีเดียว สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความมานะพยายามและการลงมือทำอย่างจริงจัง ชี้นำให้เห็นว่าคนธรรมดาอย่างพวกเราก็สามารถทำสิ่งที่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่และห่างไกลได้เหมือนกัน
เมื่ออ่านจบคุณอาจได้ไอเดียในการสร้างกระแสเงินสดเพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นของอิสรภาพทางการเงิน รวมทั้งสามารถที่จะเกษียณเร็ว และเกษียณรวยไปพร้อม ๆ กัน ตามเจตนารมณ์ของผู้เขียนที่หวังว่าคนไทยทุกคนจะมีคุณภาพทางการเงินที่ดี และเป็นหัวใจของหนังสือ “เกมเศรษฐี” ด้วยเช่นกัน
คำพูดติดปากของ The Money Coach คือ “รวยเร็วเป็นไปได้ แต่รวยง่ายไม่มี” ซึ่งเป็นข้อคิดที่เป็นประโยชน์ทีเดียว หมายความว่าความมั่งคั่งและความสำเร็จของแต่ละคนที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง เรายังไม่เห็นความพยายาม คราบน้ำตา และความยากลำบากที่คนเหล่านั้นเผชิญและแอบซ่อนอยู่เป็นฐานใต้ธารน้ำแข็ง ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ การศึกษาและลงมือทำ ล้มลุกคลุกคลานแบบสมบุกสมบันเท่านั้นจึงจะสามารถสร้างเงิน สร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เรา นอกจากนี้การมีความคิดที่ออกนอกเหนือจากข้อจำกัด จินตนาการที่ไร้การควบคุมจากตัวเงิน ก็เป็นสิ่งที่ควรฝึกฝนเพื่อให้ได้มาซึ่งความฝันของเรานั่นเอง