การสร้างเงินโดยการลงทุนหรือวิธีใดๆก็ตามที่ทำให้ได้ผลกำไรกลับมา โดยที่เราลงแรงและเวลาไปด้วยน้อยที่สุดนั้นกลายมาเป็นประเด็นสำคัญของเด็กยุคใหม่ในปัจจุบันไปเสียแล้ว และการเล่นหุ้นก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่หลายๆคนเลือกใช้ จะเห็นได้จากหนังสือจำพวก How to ที่ปัจจุบันมีเรื่องของการลงทุนและการเล่นหุ้นอยู่เกือบๆครึ่งหนึ่ง แต่การอ่านหนังสือเล่มหนาก็อาจจะไม่ใช่แนวทางของเด็กยุคใหม่ที่สมัยนี้มักจะใช้ชีวิตอยู่กับอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก และความรู้ก็อยู่ภายในนั้นจนเกือบหมดไม่ต้องเสียเวลาไปกับการอ่านหนังสือเล่มหนาๆด้วย
ถ้าอย่างนั้นเราลองมาสรุปแนวทางการเล่นหุ้นแบบง่ายๆที่จะทำให้เรารวยได้กันก่อน
ซื้อและขายในเวลาที่เหมาะสม
นี่น่าจะเป็นหลักการที่เข้าใจได้ง่ายที่สุดแล้ว คือ การซื้อหุ้นตอนที่ราคาต่ำมากและขายหุ้นออกไปในตอนที่ราคาขึ้นมาเป็นปกติหรือมีราคาสูงขึ้นแล้วนั่นเอง การซื้อขายในลักษณะแบบนี้ จะเรียกว่า ได้กำไรตอนซื้อ เพราะเป็นการซื้อหุ้นในตอนที่ราคาหุ้นต่ำกว่าปกติ เช่น ปกติหุ้นมีราคา 10 บาทต่อหุ้นแต่เราไปช้อนซื้อหุ้นมาในตอนที่ราคาของหุ้นเท่ากับ 4 บาทต่อหุ้น ซึ่งการซื้อในลักษณะนี้เราได้กำไรจากการซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นจริงๆหรือราคาของหุ้นปกตินั่นเอง ซึ่งการซื้อแบบนี้จะสวนทางกับคนส่วนใหญ่ที่จะไม่ซื้อหุ้นที่ราคาลงผิดปกติมากนัก และในกรณีนี้เพียงแค่รอให้ราคาของหุ้นกลับมาเป็นปกติ เราก็จะได้กำไรอย่างน้อยๆคือ 6 บาทแล้วนั่นเอง นอกจากนี้ข้อดีของการซื้อหุ้นแบบนี้ก็คือ หากราคาหุ้นตกลงไปอีก หรือราคาไม่ยอมขยับขึ้นจากเดิมเลย ก็ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะถึงจะขาดทุนก็ขาดทุนไม่มาก เนื่องจากซื้อหุ้นมาในราคาที่ถูกอยู่แล้วนั่นเอง
ซื้อหุ้นที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
หุ้นที่เติบโตอย่างรวดเร็วนั้นมักจะมีราคาของหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย ดังนั้นการซื้อหุ้นเติบโตเร็วจึงเป็นการลงทุนในระยะสั้นๆ เพื่อเก็งกำไรเป็นหลัก ลักษณะที่สำคัญของหุ้นประเภทนี้คือ มีราคาปานกลางถึงแพง หรือจะดูจากค่าอัตราส่วนราคาต่อกำไร หรือค่า P/E นั่นเอง โดยค่าที่มีค่า P/E สูงแสดงว่ามีราคาสูงด้วย ปกติที่ดูก็จะเอาหุ้นที่มีค่า P/E มากกว่า 15 ขึ้นไป เช่น หุ้นนี้มีราคาขายวันนี้กำไรอยู่ที่ 0.5 บาทต่อ 1 หุ้น แต่คาดการณ์ว่าปีหน้ากำไรจะอยู่ที่ 1 บาท และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี จะเห็นว่าระยะเวลาที่ใช้ในการคืนทุนนั้นไม่นานเลย และถ้ายิ่งสั้นก็ยิ่งดี เพราะยิ่งนานก็ยิ่งมีปัจจัยกวนราคาของหุ้นได้มากและอาจจะทำให้สิ่งที่เราคาดการณ์ไว้นั้นผิดได้ ยกเว้นในกรณีที่เป็นหุ้นพื้นฐานที่มักจะไม่ผันผวนมากนักนั่นเอง ซึ่งการซื้อหุ้นแบบนี้จะทำให้เรามีโอกาสทำกำไรได้สูง แต่หากผิดพลาดขึ้นมาก็มีโอกาสขาดทุนได้สูงเหมือนกัน
หุ้นฟื้นตัว
หุ้นประเภทนี้มักจะเป็นหุ้นจากบริษัทที่เพิ่งประสบปัญหาต่างๆมา และกำลังจะฟื้นฟูธุรกิจของตนเองอยู่ และราคาของหุ้นพวกนี้ในช่วงแรกนั้นจะไม่สูงมากนัก และพื้นฐานการเงินของธุรกิจเหล่านั้นก็ยังไม่มั่นคงมากนัก แต่ถ้าหากเราศึกษาดีๆบางครั้งพื้นฐานของธุรกิจก็ไม่มีปัญหา แต่เป็นเพราะปัจจัยอื่นๆ ดังนั้นถ้าจะเลือกลงทุนก็ต้องเลือกลงทุนในหุ้นฟื้นตัวของบริษัทที่ยังมีพื้นฐานและแนวโน้มที่จะโตได้หน่อย ก็จะสามารถสร้างกำไรให้เราได้ในอนาคตเพียงแค่ต้องรอเวลาสักนิดเท่านั้นเอง สำหรับบริษัทไหนที่มีรากฐานไม่ค่อยมั่นคงมากนัก อย่าเพิ่งไปลงทุนด้วยนะ เพราะจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการขาดทุนสูงเลยล่ะ
หุ้นที่ถูกลืม
หุ้นประเภทนี้มักจะไม่เป็นที่นิยมของนักลงทุนที่เก็งกำไรมากนักเนื่องจากสร้างกำไรและตัวเงินได้ช้า และส่วนใหญ่ก็เป็นหุ้นจากบริษัทเล็กๆซึ่งไม่มีคนรู้จักด้วย ตัวย่อบนบอร์ดในตลาดหุ้นก็อาจจะไม่มีเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีกำไรเลย เรียกว่าได้แบบเรื่อยๆแต่ไม่หวือหวาก็คงได้ แต่การจะซื้อหุ้นประเภทหุ้นที่ถูกลืมนี้ให้ได้กำไรก็ต้องเข้าไปซื้อตอนที่ยังไม่มีคนสนใจ ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นอยู่ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปมูลค่านี้ก็จะเพิ่มขึ้นและสามารถสร้างกำไรให้เราได้ในอนาคตนั่นเอง หุ้นแบบนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่รีบร้อนทำกำไร แต่ลงทุนเพื่อหวังกำไรในอนาคตข้างหน้านั่นเอง
หากคิดจะลงทุนด้วยการเล่นหุ้น ก็อย่าลืมศึกษาหุ้นแต่ละแบบให้ดีนะคะ โดยเฉพาะการลงทุนหุ้นแบบเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะหุ้นแบบนี้มีทั้งโอกาสที่จะได้กำไรสูงและโอกาสที่จะขาดทุนสูงเลยล่ะ แต่ก็เป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะทำกำไรได้อย่างรวดเร็วแม้จะเสี่ยงมากก็ตาม ส่วนใครที่ไม่รีบร้อนทำกำไร จะลงทุนแบบหุ้นถูกลืมก็ได้นะคะ แต่อย่าเผลอลืมไปซะเองล่ะว่าตัวเองได้ซื้อหุ้นตัวนี้ไว้ด้วย ไม่งั้นพอถึงเวลาหุ้นสูงได้กำไรขึ้นมาจะอดเอาได้นะ
