ถ้าพูดถึงเรื่องการออมเงินแล้ว หลายคนอาจรู้สึกว่าเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีตั้งแต่เด็ก จนบางทีก็กลายเป็นความเบื่อหน่ายไปเสียแล้ว เราจะออมเงินเพื่ออะไร ออม ไปทำไมกัน ? แค่นี้เงินก็แทบจะไม่พอใช้อยู่แล้ว หรืออยากได้อะไรก็ต้องอดใจไว้อย่างนั้นหรือ ไม่เห็นจะมีความสุขตรงไหนเลย ชีวิตนี้แสนสั้นนักใช้เงินซื้อหาความสุขดีกว่า คำพูดนี้อาจมีความจริงส่วนหนึ่ง ที่มีฐานะมั่นคงแล้วเท่านั้น
แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่มีความมั่นคงทางการเงิน การใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือยอาจสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้ได้ เมื่อถึงวันที่คุณไม่มีรายได้เข้ามา วันนี้เรามาช่วยกันคิดไม่ให้ชีวิตติดลบกันดีกว่า
เริ่มต้นด้วยการออม จะเริ่มจากวันละเท่าไหร่ก็ตามแต่ นานวันไปย่อมมีเงินเก็บ หลายร้อยรวมกันเป็นพัน หลายพันรวมกันเป็นหมื่น ยิ่งถ้าเรามีวินัยในการออมมากด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การออมนั้นประสบผลสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ
ลองเปรียบเทียบระหว่างคนสองคนที่ทำงานเดียวกัน รายได้เท่ากัน คนหนึ่งมีนิสัยชอบเก็บออมและมีวินัยทางการเงินมาก มีรายได้เข้ามาแต่ละเดือนก็จะแบ่งไว้ออมส่วนหนึ่ง จากนั้นก็จะทำบัญชีรายรับรายจ่าย เก็บออมเท่าไหร่ รายจ่ายที่มีความจำเป็นมีอะไรบ้าง งดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ทำให้เขามีเงินเก็บในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งก็นำเงินที่ได้นั้นไปลงทุน และฝากธนาคารไว้ เมื่อได้เงินจากการลงทุน ก็จะแบ่งไว้เก็บออมเพื่ออนาคตและแบ่งอีกส่วนไว้ลงทุนเพิ่มอยู่เสมอๆ จนวันหนึ่งมีความมั่นคงพอที่จะสร้างครอบครัว สร้างฐานะได้ นั่นก็เพราะเขามีนิสัยการรู้จักออม ทำให้ชีวิตมั่นคง มีเงินสำรองใช้ในยามฉุกเฉิน
ส่วนอีกหนึ่งเที่ยวหาแต่ความสุขใส่ตัว โทรศัพท์มือถือก็ต้องใช้รุ่นใหม่ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแฟชั่น อะไรอยู่ในกระแสจะไม่ยอมให้ตกเทรนด์ กินข้าวดูหนังต้องหรูหรา รถยนต์ต้องรุ่นใหม่ดาวน์เยอะผ่อนนาน ไหนทั้งจะยังผ่อนคอนโดอีก ค่าใช้จ่ายรายเดือนเยอะ บางเดือนมีไม่พอใช้ ต้องไปหาหยิบยืม กู้หนี้จากคนใกล้ชิด พอไม่มีจ่ายก็โดนคนมาตามทวงหนี้ สุขแค่ชั่วคราว เงินหมดความสุขก็หมด ตกเป็นทาสของเงิน ต้องทำงานเพื่อหาเงินมาสนองความอยากไปตลอดชีวิต ชีวิตในบั้นปลายมีความลำบาก เนื่องจากใช้จ่ายตามใจ ไม่วางแผนการใช้ชีวิตแต่แรก กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายเสียแล้ว
แล้วเราจะหาทางออกได้อย่างไรกันล่ะ? เรื่องนี้ไม่ได้มีสอนในโรงเรียนซะด้วย วิชาการเราร่ำเรียนมามากมาย กลับไม่ได้สอนอะไรเกี่ยวกับชีวิตเลย
เราจึงต้องเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตัวเอง พื้นฐานชีวิตของเราแตกต่างกัน จึงไม่มีใครสอนไว้ตายตัวว่าต้องไปทางไหน
การเก็บออมอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดที่ทำให้เรามั่งคั่งหรือร่ำรวยขึ้นมาภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่การเก็บออมก็ไม่ได้ทำให้เราลำบากมากกว่าที่เป็นอยู่ เวลาฉุกเฉินหากเราหรือคนในครอบครัวต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล หรือจะเป็นค่าซ่อมบำรุงต่างๆที่เกิดจำเป็นต้องจ่ายขึ้นมา เมื่อนั้นเงินออมจะมีความสำคัญขึ้นมาทันที อนาคตเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เราไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ จึงต้องวางแผนรองรับ และสำรองเงินไว้
สุดท้ายนี้ก็ขอสรุปสั้นว่า การออมเงินนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่ง เพราะเงินออมจะเป็นเงินทุนที่เราสามารถนำไปต่อยอดให้งอกเงยขึ้นได้อีก ถ้าวันนี้คุณยังไม่มีเงินออม รีบวางแผนออมตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าไม่อยากมีชีวิตติดลบแบบที่ได้ยกตัวอย่างไว้ข้างต้น