หลายคนคงจะมีความคุ้นกับคำว่าบ้าน เพราะบ้านนี้เป็นที่อยู่อาศัยทีต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะราและครอบครัวต้องอยู่อาศัยเป็นเวลานาน เชื่อว่าหลายครอบครัวมีโอกาสซื้อบ้านได้เพียงแค่หลังเดียวและครั้งเดียวในชีวิต เนื่องจากราคาบ้านและที่ดินที่สูงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปี
บ้านนอกจากใช้เป็นที่อยู่อาศัยของสมาขิกในครอบครัว ก่อนจะมีบ้านในแต่ละหลังนั้นต้องใช้เงินมากมายทีเดียว ปัจจุบันคนที่คิดอยากมีบ้านนิยมซื้อบ้านในกรุงเทพกันมากขึ้น อาจเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะใกล้ที่ทำงาน อยากอยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ ไม่อยากจ่ายค่าเช่าบ้านหรือเช่าห้องให้เสียเปล่า สะดวกสบายเพราะอยู่ในเมือง ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นคนต่างจังหวัดที่มาหำงานทำในเมือง พอมีเงินสักก้อนก็อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง
แต่การจะซื้อบ้านสักหลัง ต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนมากมายกว่าจะได้บ้านมา ซึ่งในการซื้อบ้านต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ผู้ซื้อต้องมีเงินพอที่จะจ่ายค่าบ้าน เมื่อมีเงินไม่พอ จึงเกิดการขอสินเชื่อบ้านจากธนาคารต่างๆ เพื่อมาชำระบ้านที่ต้องการเป็นเจ้าของ เมื่อกู้เงินมาซื้อบ้านก็ต้องยอมจ่ายดอกเบี้ยบ้านตามมาในอัตราแตกต่างกันไป และใช้ระยะเวลาผ่อนชำระนานหลายสิบปี แต่หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจกับการคำนวณดอกเบี้ยบ้านมากเท่าไรนัก แถมยังคิดง่ายๆว่าธนาคารเรียกเก็บเท่าไรก็จ่ายไปเท่านั้น ทั้งที่จริงเรื่องของดอกเบี้ยบ้านนั้นมีรายละเอียดสำคัญมากกว่าที่คิด ซึ่งทุกคนที่อยากมีบ้านต้องศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะเรื่อง อัตราดอกเบี้ยกู้บ้าน
เรื่องของดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน อาจเป็นเรื่องที่หลายๆคนมองข้ามไป อยากจะผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด เพราะเสียดายเงินค่าหอพัก ที่ต้องจ่ายทุกเดือน โดยคิดว่าถ้านำเงินไปผ่อนชำระบ้านคงไม่สูญเปล่า แถมมีบ้านเป็นของตัวเองอีกต่างหาก ซึ่งถ้าเราหาซื้อที่อยู่อาศัยด้วยเงินสด ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินจากธนาคารแล้วคงไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดอะไรมากเรื่องดอกเบี้ย แต่หลายๆคนมิได้มีฐานะและเงินทองที่พอจะจ่ายสด บางคนพึ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน ไม่มีทรัพย์สินติดตัวมาจากที่ไหน ไม่ได้มีเงินมากมายมาตั้งแต่เกิด เงินทุกบาทได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง หรือบางคนและครอบครัวอาจจะย้ายถิ่นฐานมาทำงานในเมืองใหญ่ จึงทำให้เวลาอยากมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองแล้วก็ไม่พ้นต้องกู้เงินจากธนาคาร ซึ่งเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นเรื่องที่จากหลายๆคนว่ามักจะลืมนึกถึงไป
อันที่จริงคนส่วนใหญ่ที่เคยเจอได้พูดคุยจึงได้รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจกู้เงินมาซื้อที่อยู่อาศัยโดยพิจารณาว่า มีกำลังพอที่จะผ่อนบ้านในแต่ละเดือน เพราะค่าบ้านที่จะจ่ายในแต่ละเดือนป็นค่าใช้จ่ายที่มากมายพอสมควร นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่นในครอบครัวอีกด้วย เป็นธรรมดาของคนเราเมื่อเวลาเราสนใจบ้านสักหลังหรือคอนโดสักห้องหนึ่ง มันมักจะมีประโยคที่เซลส์ชอบพูดกับเราเพื่อล่อและโฆษณาให้เราหลงจนทำให้เราอยากได้ คือล้านละ 7 พัน ซึ่งเป็นตัวเลขโดยประมาณ ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับยอดผ่อนชำระจริงในแต่ละเดือน ซึ่งคำพูดชี้ชวนดังกล่าวเป็นคำที่ทำให้หลายๆคนหลวมตัวจองคอนโดและบ้านมาบ้างแล้ว เพราะบางคนคิดว่าบ้าน หรือคอนโดราคา 2 ล้าน มีเงินสักประมาณ 30,000 บาท/เดือนก็สามารถผ่อนบ้านได้สบาย ๆ ไม่น่าจะมีอะไรต้องเป็นห่วง
ปัจจัยในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบ้านมีหลายอย่าง ในเบื้องต้นผู้กู้ควรมีรายได้อย่างน้อย 2-2.5 เท่าของค่างวดต่อเดือน เพียงเท่านี้ก็ได้บ้านมาไม่น่ายุ่งยากอะไรเพราะรายได้ในแต่ละเดือนก็น่าจะมีถึง 2 เท่าของค่างวดแล้ว ซึ่งจริงๆแล้วการมีรายได้ 2 เท่าของค่างวด เป็นการบ่งชี้เพียงส่วนหนึ่ง เพราะถือว่ามีเงินพอจ่ายและพอจะมีสิทธิกู้ผ่าน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอนุมัติสินเชื่อยังมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คำถามอยู่ที่ว่า หากผู้กู้มีรายได้ 30,000 บาท/เดือน ควรจะกู้ซื้อคอนโดราคา 2 ล้าน หรือไม่
จึงมักมีคำถามได้ยินตามมาว่า ทำไมดอกเบี้ยถึงได้มากมายขนาดนี้ คำตอบที่ได้นั้นก็คือ วิธีการคิดดอกเบี้ยของธนาคาร ซึ่งจะนำเงินต้นที่เหลืออยู่มาคำนวณดอกเบี้ย ยิ่งเงินต้นเหลือมากเท่าไร ดอกเบี้ยในการคำนวณงวดต่อๆไปจะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น โดยปกติแล้วดอกเบี้ยบ้านเป็นแบบลดต้นลดดอก ซึ่งจะถูกคำนวณเป็นรายวันในแต่ละรอบที่เราจ่ายไปนั่นเอง
รายละเอียดคร่าวๆเกี่ยวกับ อัตราดอกเบี้ยกู้บ้าน เป็นดังที่กล่าวมาข้างต้น หลายท่านที่ยังสงสัยในเรื่องของดอกเบี้ย เมื่อเราได้ทำการกู้เพื่อซื้อบ้าน 1 หลัง ว่ามีรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างไร สามารถสอบถามได้โดยตรงจากธนาคารที่มีสินเชื่อบ้าน เพื่อเป็นความรู้ประกอบการตัดสินใจ