คนเราเมื่อถูกถามถึงสิ่งที่อยากทำหรือสิ่งที่ฝันแล้ว ดวงตามักจะเปล่งประกายและสีหน้าที่ทางจะเต็มไปด้วยความหวัง จะบอกเล่าเรื่องราวนั้น ๆ อย่างมีความสุข แต่ในโลกแห่งความจริง จะมีสักกี่คนที่ทำได้เช่นดังฝัน
“โสภณ ศุภมั่งมี” ชื่อที่อาจไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก อีกทั้งตัวเขาเองก็ไม่ได้อยู่ในแวดวงสำคัญ ๆ ในบ้านเมืองเรา เป็นเพียงแค่ชายหนุ่มอายุ 35 ปี ที่อาศัยอยู่ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ขีดเขียนตัวหนังสือและดูแลธุรกิจของครอบครัว ดูแลภรรยา ร้านขายยาและลูกสาวอย่างอบอุ่น แต่หากจะพูดถึงเส้นทางการทำงานของ “โสภณ” แล้วละก็ หลาย ๆ คนอาจตาลุกวาวกันเลยทีเดียว
“ผมเรียนไม่เก่ง อาศัยขยันและความถึกเข้าแลก”
คำพูดถ่อมตนกึ่ง ๆ บ้าพลังของเขาที่เอ่ยออกมาในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ ในช่วงที่เขาตีพิมพ์หนังสือ “The Nerd of Microsoft” ผลงานเล่มที่ 4 ในอาชีพนักเขียนของเขาที่เล่าถึงประสบการณ์การทำงานที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านคอมพิวเตอร์อย่าง Microsoft ซึ่งเจ้าตัวเองเผยว่า ไม่เคยมีความคิดที่จะเขียนเรื่องนี้ออกมาเป็นหนังสือ แต่เกิดเหตุบังเอิญที่ทำให้ได้ผลงานเล่มนี้มาคือ เขาเอาต้นฉบับหนังสืออีกเล่มที่เป็นเรื่องราวช่วงที่เขากำลังจะได้เป็นพ่อคน ไปส่งให้สำนักพิมพ์ ซึ่งบรรณาธิการก็ยอมรับว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากนัก แต่พอได้พูดคุยและซักประวัติกันสักพัก ก็พบว่า ความเป็นมาของชายผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย
โสภณ เด็กชายที่ไม่มีชื่อเล่น เดินทางไปสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปด้วยความฝันคือการเป็นโปรแกรมเมอร์ โดยได้แรงบันดาลใจจากการเล่นเกมที่ชื่อว่า “มาริโอ้” ในขณะที่เด็ก ๆ คนอื่น ๆ เล่นแบบสนุกสนานเฮฮา แต่กับโสภณต่างออกไป เขาคิดว่าเกมเหล่านั้น สร้างมาได้อย่างไร หลังจากนั้นเขาก็มีความฝันที่ถือว่า “บ้า” มากในสมัยที่เทคโนโลยีไม่ได้มีผลกับชีวิตคนไทยมากเท่าทุกวันนี้ ในวันที่คุณพ่อกับคุณแม่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “โปรแกรมเมอร์” คืออะไร และสามารถทำมาหากินอะไรได้ แต่ด้วยความมุมานะและพยายามของโสภณ ประกอบด้วยความเข้าใจในตัวลูกของพ่อแม่จึงยอมให้โสภณบินเพื่อไปคว้าความฝันในอีกซีกโลก แม้ไม่มีญาติพี่น้องที่นั่นหรือพูดภาษาอังกฤษได้เพียงสั่งอาหารเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญในการเดินทางครั้งนี้เลย
การเป็นคนเอเชียตัวเล็กหน้าตี๋ในสหรัฐไม่ใช่เรื่องง่าย คุณจะเป็นประชากรลำดับที่ 3 คือทั้งโดนเหยียดหยาม เหยียดชาติพันธุ์ รังแกสารพัด ทั้งท้อแท้และความโดดเดี่ยว หลายครั้งที่เขาถามตัวเองว่า มาที่นี่ทำไม แต่โสภณก็มุมานะเป็นอย่างมาก เริ่มต้นจากเข้าเรียนภาษาเป็นเวลา 9 เดือน แล้วสอบเข้าเรียนที่ North Seattle College จนกระทั่งปี 2 อาจารย์จากแนะแนวแจ้งข่าวร้ายกับเขา “สายงานที่นายเลือก เขาไม่รับเด็กต่างชาติทำงานนะ” ข้อความนี้สร้างการล่มสลายทางความฝันแก่เขา โสภณไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็ตัดสินใจเรียนต่อและสามารถสอบเข้า University of Washington ซึ่งถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกาและเลือกสายงานใหม่คือ Software Engineer และในปีสุดท้ายของการศึกษา เขาก็ได้ไปฝึกงานที่ Intel ซึ่งก็เป็นบริษัทมหาอำนาจคอมพิวเตอร์ในยุคนั้นเช่นกัน
ในระหว่างที่ฝึกงานเขาทุ่มเททำงานหนักกว่าคนอื่นเสมอ เป็นที่ถูกใจหัวหน้างานอย่างมาก แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นอีกเพราะ Intel เอง จะรับพนักงานที่จบปริญญาโทเท่านั้น โสภณจึงต้องกลับไปที่ซีแอตเติ้ลเพื่อเก็บหน่วยกิตวิชาสุดท้ายด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง เพราะชีวิตไม่ได้ง่าย “เอาวะ เป็นไงเป็นกัน” โสภณบอกอีกครั้งกับตัวเอง
เทอมสุดท้ายเขาก็ทำโปรเจ็กต์เพื่อจะจบ เป็นการรวมกลุ่มคิดงานเพื่อนำเสนออาจารย์ โดยตั้งข้อแม้ว่าต้องขายได้ งานที่พวกเขาและเพื่อนคิดออกมาได้คือ การสร้างโปรแกรมส่งข้อความในเว็บไซต์ Facebook ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงโปรแกรมน้องใหม่ กลุ่มของเขาเร่งทำงาน จนก่อนวันหมดเขตเขาก็ส่งสินค้านั้นไปเพื่อเสนอขายให้แก่ Facebook แต่ได้รับอีเมลตอบกลับว่าทาง Facebook เองก็มีทีมพัฒนาตรงนี้เองอยู่แล้ว ความหวังพังทลายอีกครั้ง แต่ยังไงกลุ่มของเขาก็ต้องขึ้นอธิบายโปรเจ็กต์นั้นกับอาจารย์อยู่ดี และในวันที่เขาขึ้นพรีเซนต์ผลงานก็มีบรรดาตัวแทนจากบริษัทต่าง ๆ เข้าร่วมฟัง รวมถึง Microsoft ด้วย และนั่นเป็นโอกาสที่ทำให้เขาได้มีโอกาสสัมภาษณ์และได้ร่วมงานกันในที่สุด
เรื่องราวชีวิตการทำงานของโสภณสนุกสนาน โลดโผน ทั้งทุกข์ สุข ยากลำบาก วุ่นวาย การตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ มีเรื่องมาทดสอบตัวเขาอยู่เสมอ ซึ่งอยากแนะนำให้อ่านในหนังสือ The Nerd of Microsoft และแม้สุดท้ายด้วยความจำเป็นมีอันทำให้เขาต้องทิ้งทุกอย่างที่กำลังไปได้ดีในบริษัทที่เขารัก กลับมาอยู่บ้านเกิด แต่เส้นทางที่ผ่านมาก็เป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยทุกคนที่มีความฝันได้เป็นอย่างดี
“มีคนถามผมว่าทำอย่างไรให้ได้ทำงานที่ Microsoft หรือได้ออกหนังสือกับสำนักพิมพ์ใหญ่ ๆ ผมก็บอกเขาไปว่า ก็เดินเข้าไปสมัครสิ ผมไม่ได้กวนนะครับ แค่นั้นจริง ๆ โอกาสเป็นของคนที่เดินเข้าไปคว้า และทำทุกอย่างเพื่อความฝัน… ผมเป็นคนโชคดีที่มีหลายความฝัน ทำให้ผมกระตือรือร้นตลอดเวลา และพยายามทำทุกฝันให้เป็นจริง”
คำพูดของโสภณในสเตตัส Facebook เป็นคำตอบที่ชัดเจนมาก ๆ สำหรับทุก ๆ คนที่อยากทำในสิ่งที่ตนเองรัก เพียงเดินเข้าไปหาและทำทุกอย่างด้วยความทุ่มเท อุตสาหะ และสิ่งเหล่านี้เป็นบันไดที่จะพาทุกคนไปสู่คำว่า “ความสำเร็จ”