เพราะในปัจจุบันข้าวของเครื่องใช้ ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ส่วนตัว ของใช้ภายในบ้าน ที่ต่างก็มีราคาแพงมากมาย ลำพังมนุษย์เงินเดือน อาจจะพอถูๆไถๆ ให้มันพอกับค่าใช้จ่าย แบบเดือนชนเดือน แต่สำหรับ คนที่ชอบลั้ลลาและใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยต้นเดือน พอกลางเดือนปุ๊บ ก็จะเห็นได้เลยว่า จะค่อยๆ เริ่มเก็บตัวเงียบไม่ออกไปไหน นั่นเป็นเพราะการใช้เงินอย่างมือเติบในช่วงต้นเดือนนั้นเอง แม้จะมีนโยบายหรืออะไรต่อมิอะไรออกมาให้รู้จักออมเงินกันมากมาย แต่กระนั้นการใช้จ่ายที่แสนฟุ่มเฟือยก็มิได้หยุดหย่อน บางรายถึงกับยอมเป็นหนี้สิน เพื่อให้ได้มาซึ่งการใช้จ่ายที่สบาย หรือได้ของใช้ที่เกินตัว
เศรษฐกิจพอเพียงคำนี้ท่องไว้
หลักการของความพอประมาณของคนในยุคปัจจุบัน ดูจะหาได้น้อยเต็มที รวมถึงการ ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยแล้ว ทำให้ปัจจุบัน หลายครอบครัวกลับมีหนี้ภาคครัวเรือนทีมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมายมหาศาล เนื่องจากหลายๆ อย่างที่เข้ามาในบ้านเราไม่หยุดหย่อน ซึ่งเป็นกระแสวัตถุนิยมทำให้เกิดกิเลส และความอยากได้ อยากมี กลายเป็นสิ่งยั่วยุที่ทำให้หลายคนใช้จ่ายเงินเกินฐานะของตัวเอง เพราะการมีหน้าตา เพราะการเห็นสังคมเป็นข้ออ้าง ทำให้บางคนถึงกับกู้หนี้ยืมสิน และกลายเป็นภาระทางการเงินของตัวเองและครอบครัวอย่างมากมาย ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน หากได้รู้จักน้อมนำการใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง เพื่อนำมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบไปด้วยสามห่วง โดยประกอบไปด้วย ความมีเหตุผล ความพอประมาณ และการมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ซึ่งมีอีกสองเงื่อนไข คือ เงื่อนไขความรู้ กับเงื่อนไขคุณธรรม ซึ่งหากเอ่ยถึงความพอดีหรือพอประมาณแล้ว ถือได้ว่า เป็นพื้นฐานสำคัญของปรัชญาในการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง โดยจะต้องมีความพอประมาณ ซึ่งก็คือ ความพอดีที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป หากพูดถึงรวมๆ ก็คือเป็นการบริโภคแต่พอดี และใช้จ่ายให้น้อยกว่าที่หาได้ในยุคปัจจุบัน เพื่อที่จะทำให้มีเงินออมเก็บไว้เป็นทุนสำรองสำหรับไว้ใช้จ่ายยามเกษียณอายุ หรือในช่วงที่ไม่มีรายได้จากการทำงาน ในอนาคต
การดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ใช้ชีวิตแบบพอเพียง หรือประมาณตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จะมีหลักปฏิบัติมาสามขั้นตอน ที่จะช่วยให้คุณมีเงินเก็บได้และไม่เดือดร้อน โดยหลักการแรกที่ต้องมีก็คือการรู้จักออมเงินให้มีความเพียงพอก่อนใช้จ่าย ซึ่งการออมเงินถือเป็นพื้นฐานของความพอมีพอกิน และยังช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตตลอดอายุขัยซึ่งสามารถใช้หลักในการออมหนึ่งส่วนและใช้สามส่วน รวมถึงการใช้หลักออมก่อนใช้ เพื่อที่จะได้ทำให้คุณไม่ใช้เงินแบบเพลิดเพลินจนไม่เหลือเก็บ ส่วนเงินส่วนที่เหลือ ก็ไม่ถึงกับว่าจะนำไปใช้จ่ายแบบสิ้นเปลือง แต่ให้รู้จักใช้จ่ายและดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย และมีความสะดวกสบายพอสมควร ซึ่งยังรวมถึงการกินอาหารที่ดีมีคุณค่า และรู้จักใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ และไม่ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น หรือใช้จ่ายแบบหรูหราจนเกินพอดี ซึ่งหากมีเงินเหลือจากการใช้จ่าย ก็สามารถนำมาเก็บออมเพิ่มเติมได้
บริหารเงินตามฉบับเศรษฐกิจพอเพียง
การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายรวมถึงการทำบัญชีครัวเรือนอยู่เป็นประจำ จะช่วยทำให้คุณสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้ดีมากขึ้น เพราะคุณจะสามารถทบทวนได้ว่าที่ผ่านมาหมดกับค่าใช้จ่ายใดที่ไม่จำเป็นบ้าง ควรปรับเพิ่มหรือลดอะไรบ้าง ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดก็คือ เงินที่เหลือซึ่งจะนำมาเก็บออมได้มากขึ้น สำหรับการจัดการเรื่องสำรองเงินเผื่อฉุกเฉินอย่างเพียงพอ จากการนำเงินที่ออมก่อนใช้จ่ายนั้น ให้นำมาเก็บเป็นเงินสำรองไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นการทดแทนรายได้ในอนาคต ในกรณีที่ว่างงาน ซึ่งสามารถใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล หรือจ่ายค่าซ่อมบ้าน เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อเครื่องใช้ที่หมดสภาพ ค่าซ่อมรถ ฯลฯ
ชีวิตเพียงพอกับเศรษฐกิจพอเพียง
สำหรับจำนวนเงินสำรอง ควรมีประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน หากครอบครัวมีรายได้เพียงทางเดียวและอาจไม่มีสวัสดิการรักษาพยาบาล ก็ควรเพิ่มเงินสำรองในส่วนนี้ไว้ด้วย และควรทำการยกระดับฐานะของตัวเองให้สูงขึ้นแบบพอเพียงเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่จะต้องมีพื้นฐานที่ดีก่อน ก็คือพื้นฐานของการออม และเงินสำรองที่เพียงพอ ซึ่งหากขาดพื้นฐานที่มั่นคง อาจจะทำให้การยกระดับฐานะล้มเหลวลงได้ เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมและพอควรต่อการปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยทำการเสริมสร้างและค่อยเสริมความเจริญ รวมถึงยกระดับฐานะเศรษฐกิจในขั้นที่สูงขึ้น
การยกระดับฐานะให้ดีขึ้นอย่างพอเพียง
การยกระดับฐานะให้ดีขึ้นของตนเองจะต้องค่อยๆ ทำอย่างมั่นคง และไม่ควรข้ามขั้นตอน ซึ่งจะมีวิถีทางเสริมความเจริญ และเพิ่มฐานะเศรษฐกิจให้สูงขึ้นคือ การเพิ่มรายได้จากแรงงาน ด้วยการหาอาชีพเสริม หรือความสามารถในการปฏิบัติวิชาชีพของตนเองอย่างสุจริต และดำเนินเดินสายกลางซึ่ง สามารถใช้เวลาว่างจากงานประจำเพื่อที่จะทำการหารายได้เสริมและไม่ได้เป็นงานที่หนักเกินไปจนทำให้เสียสุขภาพ หรือจะต้องทำให้เสียความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว และการนำเงินออม ในส่วนที่เกินจาก เงินทุนสำรองไปลงทุนต่อยอด โดยการลงทุนจะต้องเป็นธุรกิจที่ถนัดและมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งอาจจะเป็นการลงทุนผ่าน ทางการเงินต่างๆอย่าง หุ้น หรือกองทุนรวม ฯลฯ
>> สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ กับธนาคาร Standard Chartered รับเงินคืน 1,000 บาท ทันที!